:::     :::

TOYOTA Thai League Player Of The Week ประจำสัปดาห์ที่ 27

วันจันทร์ที่ 23 กันยายน 2562
2,463
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
รู้ก่อนใคร ลึกกว่าใคร ข่าวบอลไทย ต้องที่ THSPORT

11 ผู้เล่นยอดเยี่ยม ศึกโตโยต้า ไทยลีก 2019 ประจำสัปดาห์ที่ 27

แผนการเล่น : 4-4-2

ประตู : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด) 

ใครว่าเป็นเจ้าบ้านแล้วเจอกับทีมชัยนาทในโซนหนีตกชั้นจะง่าย บอกได้เลยว่าคิดผิด เพราะ "นกใหญ่" ถือเป็นของแสลงสำหรับ บุรีรัมย์ มานานแล้ว และเกมนี้ก็สร้างโอกาสจากจังหวะโต้กลับได้อันตรายหลายครั้ง แต่ "แชมป์" ยังแสดงให้เห็นถึงความนิ่งและแน่นอนในการป้องกันประตูไว้ได้หมด ช่วยให้ทีมเก็บ 3 แต้มสำคัญ พร้อมทั้งทำคลีนชีทได้เป็นนัดที่ 14 ในซีซั่นนี้ 

กองหลัง : เควิน ดีรมรัมย์ (การท่าเรือ เอฟซี)

เล่นเกมรับบทบาทหลักได้อย่างสมดุล มีจังหวะเติมเกมบุกขึ้นมาสวยๆ ได้ตลอด ทั้งที่เพิ่งหายเจ็บกลับมา และที่สำคัญแบ็กซ้ายลูกครึ่งไทย-สวีดิช ยังช่วยซัดประตูปปิดกล่องให้ "สิงห์เจ้าท่า" บุกมาคว้า 3 แต้มได้ตามเป้า รักษาโอกาสในการลุ้นแชมป์เฮือกสุดท้ายต่อไป

กองหลัง : อาทิตย์ ดาวสว่าง (สุพรรณบุรี เอฟซี)

"แบ็ค" กลับมาคืนฟอร์มเก่งอีกครั้งในการจัดการแนวรุกของ สมุทรปราการ ได้ด้วยสไตล์การเล่นที่ดุดันและมั่นคง แม้จะได้รับบาดเจ็บจนต้องโพกผ้าพันแผลที่ศีรษะแต่ความทุ่มเทก็ไม่ลดลงเลย นัดนี้มีสมาธิในการยืนตำแหน่งดีมาก ช็อตประทับใจคือการช่วยบล็อกลูกยิงในช่วงท้ายเกมจนช่วยให้ สุพรรณ คว้า 3 แต้มและขยับขึ้นมาอยู่เหนือโซนแดงได้สำเร็จ

กองหลัง : ปริญญา อู่ตะเภา (ชัยนาท ฮอร์นบิล)

ชัยนาทเจอเกมบุกของ บุรีรัมย์ โหมเข้าใส่ทุกรูปแบบ แต่ก็เจาะตาข่ายได้สำเร็จเพียงครั้งเดียวเท่านั้น เพราะเจออุปสรรคจากแนวรับที่แข็งแกร่งดั่งปราการหินของทีม "นกใหญ่" โดยเฉพาะ "กัปตันปิ่น" ที่เป็นผู้นำในการสั่งการเกมรับของทีมทั้งลูกภาคพื้นดินและอากาศถือเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมอีกครั้งของปราการหลังวัย 31 ปี 

กองหลัง : ศุภนันท์ บุรีรัตน์ (เมืองทอง ยูไนเต็ด)

ฟอร์มแรงต่อเนื่องติดกันเป็นเกมที่สองสำหรับ "เซฟ" นัดนี้ซัดประตูสุดสวยเป็นลูกตีเสมอ 1-1 และถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเกมที่ทำให้ "กิเลนผยอง" กลับมาขึ้นนำและเฉือนชนะทีมที่สู้แบบหลังพิงฝาอย่าง สุโขทัย ได้สำเร็จ พร้อมทั้งขยับขึ้นไปรั้งท็อป5 ยังมีโอกาสลุ้นพื้นที่ ACL ต่อไป

กองกลาง : โก ซึล-กี (การท่าเรือ เอฟซี)

"เดอะ คอนดักเตอร์" ของ "สิงห์เจ้าท่า" คุมจังหวะเกมแดนกลางทั้งรับและรุกได้แบบเนียนตา การผ่านบอลและอ่านเกมต่างๆ ไหลลื่นไปหมด และยังมีส่วนร่วมกับทั้งสองประตูที่ช่วยให้ การท่าเรือ บุกมาคว้า 3 แต้มเต็มเหนือเชียงใหม่

กองกลาง : ชุติพนธ์ ทองแท้ (สุพรรณบุรี เอฟซี)

"บอล" มีบทบาทเยอะมากในแดนกลางของ "ช้างศึกยุทธหัตถี" ถือเป็นเพลย์เมกเกอร์คนสำคัญที่ทีมต้องการศักยภาพของเขาเพื่อลุ้นหนีตาย นัดนี้การกลับมาเจอทีมเก่าดูเหมือนว่าเขาจะปล่อยพลังแฝงออกมาได้มากเป็นพิเศษ ทั้งการจ่ายบอลที่มีส่วนกับประตูแรกที่ทีมทำได้ และยังคอยเปิดลูกเซ็ตพีซสร้างจังหวะให้เพื่อนอีกมากมาย 

กองกลาง : ศิวกร เตียตระกูล (เชียงราย ยูไนเต็ด)

ยิ่งเล่นยิ่งมั่นใจสำหรับ "เฟย" ที่ตอนนี้ก้าวขึ้นมาเป็นขุมกำลังหลักของทีม จังหวะจ่ายบอลทะลุแต่ละครั้งเป็นโอกาสให้ผู้เล่นแนวรุกคอยสร้างความหวาดเสียวได้ตลอด แม้เกมนี้จะเก็บได้เพียงแต้มเดียว แต่มาตรฐานในการเล่นของ ศิวกร ก็ถือว่าเป็นคนที่โดดเด่นที่สุดคนหนึ่งในสนามเลยทีเดียว

กองกลาง : สุภโชค สารชาติ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)   

สวมบทฮีโร่ซัดประตูชัยสุดสวยให้ "ปราสาทสายฟ้า" ในเกมที่กองเชียร์ต้องลุ้นกันอย่างอึดอัดพอสมควร นอกจากนั้น "เชค" ยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นทุ่มเทตลอด 90 นาทีที่อยู่ในสนาม มีแพสชั่นและความกระหายชัยชนะสูงมากจนเป็นการกระตุ้นให้เพื่อนร่วมทีมไม่ท้อที่จะบุกต่อไปเรื่อยๆ ถือเป็นนักเตะคุณภาพทั้งที่เพิ่งอายุเพียง 21 ปีเท่านั้น

กองหน้า : อมาดู อ๊วตตาร่า (นครราชสีมา มาสด้า)

ตัวรุกชาวไอวอรี่โคสต์ สร้างความปั่นป่วนให้แนวรับ สมุทรปราการ ครั้งแล้วครั้งเล่าจากความเร็วที่จี๊ดจ๊าดหาตัวจับยาก สร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมลุ้นประตูได้หลายครั้ง และยังเป็นคนซัดประตูปิดกล่องในช่วงท้ายเกม ให้ "สวาดแคท" เก็บ 3 แต้มสำคัญต่อการอยู่รอดได้ตามเป้าหมาย

กองหน้า : กิเยอร์เม่ เดลลาตอเร่ (สุพรรณบุรี เอฟซี)

เป็นเกมที่ดีที่สุดของหัวหอกชาวบราซิเลี่ยนในฤดูกาลนี้ก็ว่าได้ ทั้งจังหวะเขี่ยบอลเริ่มเกมแค่ประมาณ 12 วินาที ที่เป็นคนปาดให้ เคลตัน ซิลวา ยิงเบิกร่องแต่หัววัน ก่อนจะมาเหมายิงคนเดียวอีก 2 ประตูให้ "ช้างศึกยุทธหัตถี" เก็บชัยชนะอย่างเด็ดขาดเหนือทีม "ราชันมังกร" 

เฮดโค้ช : เฉลิมวุฒิ สง่าพล (นครราชสีมา มาสด้า)

เข้าตำราบอลเปลี่ยนโค้ช นี่คือนัดเดบิวท์ของ "โค้ชหนุ่ย" กับทีม "สวาดแคท" แม้ทีมจะถูกออกนำไปก่อน แต่การกลับมาลงสนามในครึ่งหลัง เห็นได้ชัดว่ามีอะไรบางอย่างเปลี่ยนไปสำหรับผู้เล่นของ นครราชสีมา เหมือนอย่างที่ "โค้ชหนุ่ย" เคยกล่าวเอาไว้ว่า การเข้ามาคุมทีม 5 นัดสุดท้ายคงเปลี่ยนอะไรได้ไม่มาก แต่สิ่งที่ต้องทำคือรีดศักยภาพของนักเตะและกระตุ้นให้มีสภาพจิตใจฮึกเหิมให้ได้ ซึ่งเกมนี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าการเข้ามาของ "โค้ชหนุ่ย" นั้นมีผลดีและยังนึกไม่ออกเลยว่า หากเล่นกันเหมือนแต่ก่อน นครราชสีมา จะยิงคู่แข่งระดับครึ่งบนของตารางได้ถึง 4 ลูกแบบนี้ได้หรือไม่

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด