'คีโน่' ร่วมงานกับ เฟอร์กูสัน 12 ปีครึ่ง โดยแปดซีซั่นจากในนั้นสวมปลอกแขนกัปตัน ทว่ามาเกิดรอยร้าวทางความสัมพันธ์เมื่อกองกลางไอริชวิจารณ์ทีมเมตออกโทรทัศน์เมื่อปี 2005 

แน่นอนว่ายอดคนสกอตต์โกรธมาก เพราะไม่ชอบให้เอาเรื่องที่ลับไปขายที่แจ้ง ค่อยๆลดบทบาทของ คีน จนเจ้าตัวย้ายออกปี 2005 ส่วนเรื่องความรู้สึกต่อกันของทั้งคู่เข้าทำนอก - หน้าก็ไม่อยากมอง - แม้ผ่านเวลากว่า 14 ปี

"เมื่อครั้งแรกเมื่อผมก้าวเท้ามายัง แมนฯ ยูไนเต็ด มีนักเตะบางคนในทีมนั่งจิบชาตอนบ่ายกับ ผจก.ทีม หลังจากซ้อมเสร็จ - บอกเลยตัวเองไม่คิดอยากมีความสัมพันธ์เช่นนั้นกับเจ้านายตัวเองหรอก" คีโน่ กล่าวกับ 'สกาย สปอร์ตส์' ระหว่างคอมเมนต์เกม มันเดย์ ไนท์ 

เคารพกันแบบมืออาชีพ

"ในหัวผมไม่คิดเรื่องเข้าหาผู้ใหญ่ นั่งจิบชาสนทนากับแก ไม่ใช่คนแบบนั้น" 

"อนึ่งเราทั้งคู่เห็นร่วมกันคือเค้นศักยภาพ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปให้สุด - เฟอร์กี้ บอกที่ผ่านมาเขาเป็นคนจัดการดูแลความเรียบร้อยในล็อคเกอร์รูม แต่เมื่อผมร่วมทัพอยากเอี่ยวด้วย เราจึงต้องทำร่วมกัน" 

"เพราะท้ายสุดแล้วผู้เล่นซีเนียร์ต้องเป็นขาใหญ่ของห้องแต่งตัว ยิ่งผมลงสนามมากขึ้น รับผิดชอบมากขึ้น ก็รู้สึกว่าคนคุมล็อคเกอร์ รูม ต้องเป็นเราสิ! แต่ทั้งนี้ก็ไม่เคยล้ำเส้น" 

"การที่ผมอยู่ตรงนั้นก็เพื่อช่วยเหลือทุกคน ถามว่าอาจมีด่าผิด ด่าพลาดบ้างไหม? ก็คงมีบ้าง แต่โดยส่วนใหญ่เชื่อว่าทำถูก" 

"นักเตะอาวุโสต้องเป็นตัวอย่างที่ดี แม้หลายคนจะนินทาว่าผมโหดเกินไป แต่ที่ต้องดุดันก็เพราะทำทุกอย่างเพื่อองค์กร มันคือสิ่งที่ตัวเองสมควรปฏิบัติ"

จุดแตกหักตลอดกาลคือหนังสือเล่มนี้

"ผมไม่ได้อยู่ในตำแหน่งหัวโจกเพื่อเป็นเพื่อนกับทุกคน ไม่เคยพูดปลุกเร้าหรือกล่าวกระตุ้นเท่ๆ ไม่เคยวางบทบาทตัวเองต้องทำอะไรมากมาย แค่ชี้ให้ทุกคนเห็นว่าต้องสมาธิกับสิ่งไหน แล้วส่งทอดถึงพวกเขา"  

อนึ่งความสัมพันธ์ของ เฟอร์กี้ กับ คีโน่ ที่ย่ำแย่จนยากมองหน้าเพราะเมื่อปี 2013 เฟอร์กูสัน ออกหนังสือชีวประวัติ เล่าการทำงานมีเนื้อหาพาดพิง คีน ว่าตึงเกินไป แถมชอบล้วงลูกบทบาท ผจก.ทีม