:::     :::

THSPORT Thai League Player Of The Week ประจำสัปดาห์ที่ 28

วันศุกร์ที่ 04 ตุลาคม 2562
1,968
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
รู้ก่อนใคร ลึกกว่าใคร ข่าวบอลไทย ต้องที่ THSPORT

11 ผู้เล่นยอดเยี่ยม ศึกโตโยต้า ไทยลีก 2019 ประจำสัปดาห์ที่ 28

แผนการเล่น : 4-4-2

ประตู : อนุรักษ์ ชมภูพฤกษ์ (สมุทรปราการ ซิตี้) 

"แฮ็ค" โชว์ฟอร์มซูเปอร์เซฟครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งจากลูกโอเพ่นเพลย์และฟรีคิกที่นักเตะ "กิเลนผยอง" ประเคนเข้าใส่ แต่พยายามยังไงนายด่านวัย 31 ปีก็ป้องกันเอาไว้ได้แทบทุกครั้ง จนพาทีม "เขี้ยวสมุทร" กลับมาคว้าชัยในรังตัวเองได้สำเร็จพร้อมกับรับตำแหน่งแมนออฟเดอะแมตช์ไปครอง

กองหลัง : ศศลักษณ์ ไหประโคน (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)

"พี" มีส่วนสำคัญในการเดินเกมรุกริมเส้นให้กับทีม "ปราสาทสายฟ้า" อย่างเด่้นชัดในศึกดาร์บี้แมตช์ภาคอีสานนัดเยือน นครราชสีมา เกมนี้คอยสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนและมีส่วนร่วมจาก 2 ใน 3 ประตูที่ทีมทำได้จนกระทั่งคว้า 3 แต้มสุดล้ำค่ำในการลุ้นป้องกันแชมป์กลับบ้านได้

กองหลัง : เอเวอร์ตัน กอนซัลเวส (แบงค็อก ยูไนเต็ด)

ปราการหลังเลือดแซมบ้า รับบทบาทผู้บัญชาการในเกมรับได้อย่างไม่มีที่ติอีกครั้ง เกมนี้แทบไม่ปล่อยให้ เชียงใหม่ มีโอกาสได้หลุดเข้าไปสร้างความลำบากใจให้ผู้รักษาประตู "แข้งเทพ" เลย นัดนี้เอเวอร์ตัน เคลียร์ได้หมดจนพาทีมเก็บคลีนชีทพร้อม 3 แต้มในบ้านได้สำเร็จ

กองหลัง : ธนบูรณ์ เกษารัตน์ (การท่าเรือ เอฟซี)

ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการคุมเกมรับ ตั้งแต่ที่คู่พาร์ทเนอร์เป็น ทศพล ลาเทศ ก่อนที่ "เค" จะเจ็บและ ปิยะชนก ดาฤทธิ์ ถูกเปลี่ยนลงมาแทน ซึ่ง "ตั้ม" ก็ไม่มีปัญหาเลยในการจับคู่กับใคร มีความเหนียวแน่นและเล่นบอลด้วยความชัวร์ทุกจังหวะ ช่วยพา "สิงห์เจ้าท่า" คว้า 3 แต้มสุดล้ำค่าแถมยังไม่เสียประตูอีกด้วย

กองหลัง : ศรันยู อินต๊ะราช (พีที ประจวบ)

"บอล" แบ็กขวาพันธุ์ดุชาวจ.เชียงราย มีโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงและช่วยหยุดเกมริมเส้นของสุพรรณบุรีได้อยู่หมัด รวมถึงจังหวะเติมเกมรุกที่ดุดันและทุ่มเทตลอดทั้งเกม ก่อนจะกลายเป็นฮีโร่ช่วยยิงประตูตีเสมอ 1-1 เก็บ 1 คะแนนกลับบ้านสำเร็จ

กองกลาง : ฮาจิเมะ โฮโซกาอิ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)

อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติญี่ปุ่น ต่อสู้ในแดนกลางด้วยความหนักแน่นและแน่นอน คอยคุมจังหวะช้าเร็วอยู่หน้าไลน์กองหลัง คอยสวิทช์บอลจ่ายเปลี่ยนแกนสวยๆ อยู่หลายครั้ง ประตูแรกที่ขึ้นนำก่อน 1-0 จุดเริ่มต้นก็มาจากการยิงของเขาที่ไปติดบล็อกกองหลังก่อนจะเข้าทาง ราสมุส ยอนส์สัน ที่ยิงเข้าไป 

กองกลาง : สรรวัชญ์ เดชมิตร (แบงค็อก ยูไนเต็ด)

แม้จะได้ลงเล่นเพียงแค่ 17 นาทีสุดท้าย แต่ "แคมป์" คือผู้เปลี่ยนเกมให้ "แข้งเทพ" อย่างแท้จริง ทั้งที่ก่อนหน้านั้นทีมมีโอกาสมากมายแต่ยิงยังไงก็ไม่ผ่าน นริศ ทวีกุล แต่เขาคนนี้ทำได้ "แคมป์" ใช้เวลาอยู่ในสนามไม่นานก่อนเหมายิงคนเดียว 2 ประตูช่วยให้ทีมคว้า 3 แต้มได้สำเร็จ 

กองกลาง : เซร์คิโอ ซัวเรซ (การท่าเรือ เอฟซี)

เป็นหัวใจในการเดินเกมรุกให้กับ "สิงห์เจ้าท่า" นัดนี้ยิงเอง 2 ประตูและแอสซิสต์ให้ โชซิมาร์ ทำอีก 1 ประตู จนช่วยให้ทีมขึ้นมาอยู่ในสถานการณ์ลุ้นแชมป์อย่างเข้มข้นจนถึง 2 เกมสุดท้าย ดาวเตะชาวสแปนิชเป็นอีกหนึ่งคีย์แมนสำคัญที่ทีมควรเก็บรักษาเขาไว้กับทีมให้นานที่สุด

กองกลาง : บดินทร์ ผาลา (การท่าเรือ เอฟซี)   

ลากเลื้อยได้มันส์สะเด่ามาก คอยปั่นป่วนฉีกแนวรับของ ชัยนาท เป็นชิ้นๆ มีส่วนร่วมกับแทบทุกประตูที่ทีมทำได้ ตั้งแต่ลูกนำ 1-0 ที่เป็นคนแอสซิสต์ให้ โก ซึล-กี โหม่งจ่อๆ ก่อนจบครึ่งแรก เป็นประตูคลายความกดดัน ลูกที่สองก็เป็นจุดเริ่มต้นของการได้ประตู ลูกปิดท้ายก็แอสซิสต์ให้ เซร์คิโอ ซัวเรซ ยิงประตูสุดสวย ถือเป็นฟอร์มอันสุดยอดของ "โดมมาเรีย" อีกครั้ง

กองหน้า : เดนนิส มูริลโล่ (พีทีที ระยอง)

เก็บบอลในแดนหน้าและประสานงานกับเพื่อนร่วมทีม "พลังเพลิง" ได้เป็นอย่างดี กองหน้าเลือดแซมบ้าเป็นคนโฉบมาโหม่งประตูตีเสมอ 1-1 นอกจากนั้นยังสร้างโอกาสให้เพื่อนมีจังหวะสวนกลับได้เสียวอยู่เรื่อยๆ เป็นส่วนสำคัญที่เข้ามาเติมเต็มในเลกที่สองจน "พลังเพลิง" การันตีรอดตกชั้น 100% เรียบร้อยแล้ว

กองหน้า : โชซิมาร์ (การท่าเรือ เอฟซี)

พอได้เล่นบ่อยครั้งขึ้น โชซิมาร์ แสดงให้เห็นถึงการปรับตัวที่ดี หัวหอกร่างโย่งประสานงานกับ บดินทร์, เซร์คิโอ ซัวเรซ และ โก ซึล-กี ได้อย่างลงตัว เกมนี้เห็นจังหวะสอดประสานสวยๆ ในการทำเกมรุกร่วมกัน ยิ่งหลังจากที่ขึ้นนำ 1-0 "สิงห์เจ้าท่า" ยิ่งมั่นใจ ก่อนที่ โชซิมาร์ จะทำได้ 1 ประตู รวมถึงมีส่วนร่วมกับในหลายๆ จังหวะที่ทีมมีลุ้นประตูอีกด้วย

เฮดโค้ช : โชคทวี พรหมรัตน์ (การท่าเรือ เอฟซี)

การเอาชนะทีมที่กำลังดิ้นรนหนีตายอย่างชัยนาท ด้วยสกอร์ขาดถึง 4-0 นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย นัดนี้ "โค้ชโชค" แสดงให้เห็นการแก้เกมที่มีประสิทธิภาพ หลังจากที่หืดขึ้นคอกว่าจะยิงประตูนำ 1-0 ได้ในช่วงทดเจ็บครึ่งแรก แต่พอเริ่มครึ่งหลังมา "สิงห์เจ้าท่า" ไม่ได้เล่นรักษาสกอร์นำ แต่พยายามบุกเพื่อยิงเพิ่มอีกเรื่อยๆ การเลือกใช้ผู้เล่นและแท็กติกที่หลากหลาย ถือเป็นสิ่งที่ "โค้ชโชค" พัฒนาให้เห็นเยอะขึ้นมากๆ เกมหน้าที่จะเจอกับ บุรีรัมย์ รับรองว่าเป็นเกมลุ้นแชมป์ที่มันส์หยดติ๋งแน่นอน


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด