ลีก เอ็นบีเอ อนุญาตให้แต่ละทีมมอบสัญญาใหม่ต่อนักกีฬาก่อนฤดูกาล 2019-20 เปิดฉาก ( 22 ต.ค.) ซึ่งหากไม่แล้วเสร็จต้องรอถึงซัมเมอร์ 2020 จึงสามารถทำได้อีกครั้ง เป็นเหตุให้หลายค่ายวิ่งขาขวิดจนท้ายสุดชื่นมื่น 

เริ่มที่ บัดดี้ ฮีลด์ การ์ดของ คิงส์ ได้สัญญา 4 ปี การันตีมูลค่า 86 ล้านเหรียญ สหรัฐฯ (เฉลี่ย 21.5 ล้านเหรียญ สหรัฐฯ-ต่อ-ปี) โดยสามารถเพิ่มไปได้สูงสุดถึง 106 ล้านเหรียญ สหรัฐฯ ตามผลงาน เช่นความแม่นในการยิง 3-คะแนน 

ต่อด้วย นิคส์ ใช้ออปชั่นทีมล็อค ฟร้องก์ นีลิกิน่า การ์ดเฟร้นช์แมนให้เล่นกับแฟรนไชส์จนจบฤดูกาล 2020-21 ครบสัญญารุคกี้ ซึ่งในซีซั่นนั้นจะฟันค่าเหนื่อย 6.3 ล้านเหรียญ สหรัฐฯ 

ลำดับต่อมา เซลติคส์ จับฟอร์เวิร์ด เจย์เลน บราวน์ เซ็นสัญญายาว 4 ปี มูลค่า 115 ล้านเหรียญ สหรัฐฯ (เฉลี่ย 28.75 ล้านเหรียญ สหรัฐฯ-ต่อ-ปี) โดยจะมีผลตั้งแต่ฤดูกาล 2020-21 

นอกจากนั้นก็มีโบนัสตามผลงานเช่น 8 ล้านเหรียญ สหรัฐฯ สำหรับตำแหน่ง เอ็มวีพี หรือ ผู้เล่นป้องกันยอดเยี่ยมแห่งปี หรือติด ออล-เอ็นบีเอ 

รวมถึงอีก 4 ล้านเหรียญ สหรัฐฯ หากพาทีมชนะฤดูกาลปกติ 49 เกม พร้อมเข้าเพลย์ออฟ รอบสอง หรือเขามีส่วนลงแข่งอย่างต่ำ 65 นัด ก็ซิวไปเช่นกัน 

https://twitter.com/NBCSCeltics/status/1186416197258174469

อยู่กันยาวๆ ที่ บอสตัน

คนต่อไปคือ โดมานทาส ซาโบนิส ฟร้อนท์คอร์ท อินเดียนา เพเซอร์ส ได้สัญญา 4 ปี การันตีมูลค่า 77 ล้านเหรียญ สหรัฐฯ (เฉลี่ย 19.25 ล้านเหรียญ สหรัฐฯ-ต่อ-ปี) แต่สามารถเพิ่มได้จากผลงานเช่นกัน 

โดยจะเพิ่มให้ปีละ 2.6 ล้านเหรียญ สหรัฐฯ ตลอดการผูกมัดหากปีไหนสามารถสร้างผลงานติด ออล-สตาร์ หรือทีม ออล-เอ็นบีเอ 

ปิดท้ายกับ เดอยอนเต้ เมอร์รี่ย์ การ์ดจ่าย ซาน แอนโทนิโอ สเปอร์ส ได้สัญญาใหม่ 4 ปี การันตีค่าจ้าง 64 ล้านเหรียญ สหรัฐฯ (เฉลี่ย 16 ล้านเหรียญ สหรัฐฯ-ต่อ-ปี) เริ่มมีผลฤดูกาล 2020-21