ก่อนแข่งเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ลิลเลิร์ด ทำเฉลี่ย 32.5 แต้ม จากการลงสนาม 11 เกมซีซั่น 2019-20 ถือว่ามากสุดอันดับสองลีกรองจาก เจมส์ ฮาร์เด้น ของ ฮิวสตัน ร็อคเก็ตส์ ( 38.2 แต้ม) 

ซึ่ง นิค เนิร์ส หัวหน้าโค้ช แรปเตอร์ส ทราบถึงพิษสง ลิลเลิร์ด จึงงัดแผนตามประกบเงาตามตัวเหมือนเคยหยิบเล่นงาน สเต็ปห์ เคอร์รี่ การ์ด โกลเด้น สเตท วอร์ริเออร์ส ในรอบชิงฯ เอ็นบีเอ 2019 ซึ่งทำให้ 'ไดโนเสาร์แห่งแคนาดา' ไปถึงตำแหน่งแชมป์ 

โดยเกมที่ โมด้า เซนเตอร์ วานนี้มดงานคอยประกบการ์ดวัย 30 ปีคือ เฟร็ด ฟาน ฟลีท กับฟอร์เวิร์ด รอนเด้ ฮอลลิส-เจฟเฟอร์สัน เป็นเหตุให้ฟิลด์โกลทั้งเกมลงไปแค่ 2 จาก 12 ครั้ง ทำรวม 9 แต้ม (3 ลูกโทษ), 10 แอสซิสต์, 2 บล็อค และเสียสองเทิร์น โอเวอร์ 

"นี่คือเล่น 4 นัดติดแล้วที่คู่แข่งใช้มุกป้องกันแบบเต็มคอร์ทกับผม ทั้งที่ความจริงแทบไม่เห็นแผนบ็อกซ์-แอนด์-วัน มากนักในลีก เอ็นบีเอ แต่คืนนี้พวกเขาสามารถสร้างความกดดันทั้งเกม" ลิลเลิร์ด กล่าวกับ 'เอ็นบีซี สปอร์ตส์' 

https://twitter.com/NBCSNorthwest/status/1194870713351655424

ลิลเลิร์ด โดนตัดจากเกมต้องใช้ เคนท์ เบซมอร์ ลุย

"ต่อให้ผมพยายามตั้งหลัก เล่นดุดันขึ้น โดยมีเพื่อนร่วมทีมอีก 4 คนพยายามช่วย - มันจะง่ายเลยหากคายบอลออกไปเพื่อเราจะได้เวลาหายใจหายคอ แต่ก็อย่างที่เห็นคู่แข่งทำการบ้านมาดีเลย" 

นับเป็นผลงานย่ำแย่ของ ลิลเลิร์ด เพราะหนสุดท้ายที่แต้มไม่ถึง 2 หลักคือ 9 พ.ย.2016 เกมนั้นได้ 8 แต้ม, ฟิลด์โกลลง 1 จาก 10 ครั้ง ทีมแพ้ แอลเอ คลิปเปอร์ส 82-111