ต้นตอของปัญหาจาก ลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ 'ไก่เดือยทอง' พ่ายคารัง 0-2 คือจังหวะโดนไล่ออกของ ซน เฮือง-มิน กองหน้าท็อตแน่ม ที่ไปเล่นนอกเกมใส่ รือดิเกอร์ แล้วถูกวีเออาร์จับภาพได้

นำมาซึ่งการให้สัมภาษณ์จิกกัดตามสไตล์ มูรินโญ่ ว่าเหตุการณ์นั้นแข้งดอยช์มีส่วนผิดก่อน เมื่อตั้งใจไปเหนี่ยวรั้ง ซน จนล้มลง แถมยังแสดงท่าทางบาดเจ็บเกินจริงตอนถูกเอาคืน 

"ลุกขึ้นมาแล้วเล่นบอลอย่างลูกผู้ชาย" เทรนเนอร์วัย 56 ปี แขวะใส่ รือดิเกอร์ 

เดือดร้อน แลมพาร์ด ไม่ปล่อยให้ลูกน้องถูกด่าฝ่ายเดียว ต้องยืมไมค์สื่อฯปกป้อง "ต่อกรณีของ อันโตนิโอ เหตุการณ์นั้นมันนำมาซึ่งผลกระทบหลังเกมตามมาเกี่ยวกับประเด็นเหยียดผิว - ผมจึงเกิดความกังขาต่อคอมเมนต์ของเขาถึงเรื่องปะทะในสนาม มันนำไปสู่การชี้นำให้ รือดิเกอร์ ถูกสังคมเล่นงานแน่นอน"

https://twitter.com/Chelsea_FL/status/1209546783841488899

แลมพาร์ด ป้อง รือดิเกอร์

"คิดว่าใครๆที่ได้ฟังคำสัมภาษณ์ของ โชเซ่ หลังเกมเกี่ยวกับใบแดงของ ซน ก็ต้องรู้สึกว่าตั้งใจแซะฝ่ายเรา - จริงอยู่การที่ลูกน้องเขาโดนไล่ออกอาจจะหนักเกินเหตุ แต่สำหรับฟุตบอลสมัยใหม่ที่มีเทคโนโลยีมาช่วยตัดสิน ก็ต้องยอมรับการกระทำ" 

"กรณีนี้มันชัดเจนว่าเจตนานอกเกม - ถามผมเหรอ? บอกเลยไม่เคยกังขาต่อความซื่อตรงของ โทนี่ ดังนั้นจึงต้องปกป้องลูกน้องว่าไม่ผิด (เรื่องแสดงละครตบตา)"

ก็นับเป็นการจุดชนวนดราม่าของลูกพี่-ลูกน้องเก่า ให้การพบกันหนหน้าที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ( 22 ก.พ. 2020) ยิ่งแซ่บคูณสองอย่างไม่ต้องสงสัย