ณ ที่ทำการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ อากิระ นิชิโนะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.อ. ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และ มร. การ์เลส โรมาโคซา ผู้อำนวยการเทคนิคฯ เพื่อรายงานผลการแข่งขันและสรุปผลงานของทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ในฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี 2020 รอบสุดท้าย 

ทีม "ช้างศึกu23" ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เมื่อเอาชนะ บาห์เรน ไป 5-0 ก่อนจะพ่ายให้ ออสเตรเลีย ไปแบบหวุดหวิด 2-1 และ เสมอกับ อิรัก ไป 1-1 คว้ารองแชมป์กลุ่ม เอ ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายในทัวร์นาเมนต์นี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ก่อนจะไปพ่ายให้กับ ซาอุดิอาระเบีย ไปอย่างน่าเสียดาย 1-0 ตกรอบไปอย่างเสียดาย 

โดย พล.ต.อ. ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กล่าวหลังการประชุมว่า "วันนี้ อากิระ นิชิโนะ ได้เดินทางมาพบและรายงานผลการปฏิบัติหน้าที่ ในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี 2020 รอบสุดท้าย นอกจากนี้ยังได้วางแผนอนาคตของทีมชาติไทย ชุดใหญ่และ รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ว่าจะมีขั้นตอนอย่างไร"

"ซึ่งผมให้ นิชิโนะ และ มร.การ์เลส โรมาโกซา ที่เป็นผู้อำนวยการเทคนิค วางรากฐานฟุตบอลไทยทุกรุ่น ตั้งแต่ 12 ปี ไปจนถึง 23 ปี ซึ่งทั้งคู่จะทำงานร่วมกัน คุณ โรมาโคซา จะเป็นแบ็คอัพของ นิชิโนะ เพื่อให้ทุกอย่างมีความสอดคล้องกันอย่างเป็นระบบ การพัฒนาฟุตบอลมันต้องใช้เวลานาน ซึ่งผลงานของทีมชาติไทย โดยเฉพาะในรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ทำผลงานได้ดีในการแข่งขันที่ผ่านมา ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าพอใจครับ"

"ส่วนเรื่องสัญญาของ นิชิโนะ เราได้สรุปข้อตกลงกันทั้งสองฝ่าย ซึ่งทั้งสองฝ่ายก็จะนำสัญญาไปตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อความสบายใจ โดยระยะเวลาก็จะเซ็น 2 ปี และจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในวันศุกร์ที่ 24 มกราคมนี้ ส่วนรายละเอียดเรื่องค่าเหนื่อย ผมขอไม่เปิดเผยนะครับ"

ส่วนเป้าหมายของทีม "ช้างศึก" ในฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือกในโซนเอเชีย ในอีก 3 นัดที่เหลือนั้น นายกสมาคมฯ กล่าวว่า "ผมอยากให้ทีมชาติไทยผ่านเข้ารอบลึกๆ แต่มันไม่ใช้เรื่องง่าย เพราะทุกทีมล้วนมีคุณภาพ เราต้องคิดที่ละเกม เรื่องที่อยากให้ทีมไปสู่เป้าหมายที่สูงกว่าเดิม ย่อมเป็นเรื่องปกติของนักฟุตบอล ผู้ฝึกสอน และแฟนบอลทุกคน"

สำหรับทีมชาติไทย ชุดใหญ่ จะลงแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย กลุ่ม จี เปิดบ้านรับการมาเยือนของ อินโดนีเซีย ในวันที่ 26 มีนาคม 2563