วาดิม วาซิลเยฟ ประธานสโมสรโมนาโกยอมรับว่า ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ส่อแววแหกกฎยุติธรรมทางการเงินหรือไฟแนลเชียล แฟร์เพลย์ หลังการทุ่มเงินจำนวนมหาศาลเพื่อเซ็นสัญญากับ เนย์มาร์ ก่อนฉก คิลียัน เอ็มบั๊ปเป้ กองหน้าดาวโรจน์ชาวฝรั่งเศสไปเข้าสังกัดเป็นคนล่าสุด
   
    เปแอสเช จ่ายเงิน 222 ล้านยูโรซึ่งเป็นค่าฉีกสัญญาเนย์มาร์เพื่อดึงกองหน้าชาวบราซิเลียนไปเข้าสังกัด ก่อนประสบความสำเร็จในการดูดเอ็มบั๊ปเป้มาจากโมนาโกด้วยสัญญายืมตัว 1 ปีพร้อมทำอ็อปชั่นซื้อขาดมูลค่า 180 ล้านยูโรเพื่อหลีกเลี่ยงการทำผิดกฎไฟแนลเชียล แฟร์เพลย์ แต่ถึงอย่างไรประธานโมนาโกยังเชื่อว่าปารีสฯส่อแววทำผิดกฎดังกล่าว
   
    'มันเป็นการย้ายทีมที่ยากมาก ช่วงแรกเราไม่ต้องการปล่อยเขาไปให้คู่แข่งโดยตรง แต่ผมมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพ่อของเขา ซึ่งเป็นตัวแทนของเขาด้วย พวกเขาเชื่อผม'วาซิลเยฟเผย
   
    'แต่การเจรจากับปารีสมันซับซ้อนมาก เราไม่เข้าใจว่าพวกเขาจะเซ็นสัญญากับนักเตะโดยไม่ทำผิดกฎไฟแนลเชียล แฟร์เพลย์ได้อย่างไร'
   
    อย่างไรก็ตามวาซิลเยฟยอมรับว่าแม้พวกเขาจะไม่ต้องการปล่อยนักเตะย้ายไปเล่นกับทีมคู่แข่งโดยตรงก็ตาม แต่มันก็ยากที่จะบอกปัดข้อเสนอชั้นดีจากเปแอสเชเช่นกัน
   
    'มันเป็นข้อตกลงระหว่าง 3 ฝ่าย เอ็มบั๊ปเป้ (พ่อ-ลูก) พูดเสมอว่าจะทำตามเงื่อนไขดีที่สุดสำหรับพวกเรา ปารีสจ่ายเงินตามที่เราเรียกร้อง ซึ่งมันมีมูลค่าสูงกว่าที่เราได้รับจากสโมสรอื่น'ประธานสโมสรโมนาโกกล่าวทิ้งท้าย
   
    ยูฟ่าประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่าพวกเขาจะเข้ามาตรวจสอบการใช้จ่ายเงินเพื่อเสริมทัพของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ซึ่งทุ่มเงินจำนวนมหาศาลเพื่อดึงทั้ง เนย์มาร์ กับ เอ็มบั๊ปเป้ มาร่วมทีมซึ่งมีแนวโน้มว่าจะเป็นการทำผิดกฎไฟแนลเชียล แฟร์เพลย์