นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตประธานสโมสรสุโขทัย เอฟซี  กล่าวถึงการเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์คนใหม่ที่จะเกิดขึ้นช่วงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่มีผู้เข้าแข่งขัน จำนวน 2 คน คือ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง นายกสมาคมฯ และ ดร.ภิญโญ นิโรจน์ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ อดีตอุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลหลายสมัย ว่า เป็นการแข่งขันเลือกตั้งที่มีสีสัน แม้ตนจะไม่มีสิทธิเลือก แต่หากถามในใจว่าอยากได้นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลคนต่อไปแบบไหนต้องพิจารณาจากนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมฟุตบอลในประเทศให้ทัดเทียมประเทศเพื่อนบ้าน ผ่านการจัดสรรการสนับสนุนลีกอาชีพ  

“ผมเห็นว่าการสนับสนุนกีฬาฟุตบอลอาชีพควรจัดสรรงบประมาณเพื่อพัฒนาทีม จากปัจจุบันที่สมาคมสนับสนุน คือ ไทยลีก ควรได้รับงบสนับสนุนทีมละไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาทต่อปี , ไทยลีก2 ควรได้รับงบสนับสนุนทีมละ 8 ล้านบาทต่อปี, ไทยลีกสามและไทยลีกสี่ ควรได้งบสนับสนุนต่อทีม 4 ล้านบาท  ซึ่งผมเห็นว่าการปรับเงินสนับสนุนใหม่นั้นจะใช้งบประมาณรวมๆ 800 ล้านบาทต่อปี ซึ่งไม่เกินกำลังของสมาคมฟุตบอล ที่ได้รับงบโฆษณา หรือรายได้ ปีละประมาณ 1,200 ล้านบาท” นายสมศักดิ์ ระบุ 

อดีตประธานสโมสรสุโขทัยเอฟซี กล่าวด้วยว่าการสนับสนุนงบประมาณที่เพียงพอกับทีมอาชีพ ตนมองว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างรากฐานเพื่อพัฒนากีฬาฟุตบอลระดับชาติ เพราะเมื่อในลีกอาชีพสามารถพัฒนาศักยภาพนักเตะให้แข็งแกร่งได้ คือผลตอบแทนที่จะสร้างเยาวชน คนรุ่นใหม่ขึ้นมาประดับวงการฟุตบอลทีมชาติได้จำนวนมาก และเกิดประโยชน์ต่อการพัฒนากีฬาฟุตบอลอย่างมาก ส่วนกรณีที่มีผู้จับตาว่าการแข่งขันของทั้ง พล.ต.อ.สมยศ และ ดร.ภิญโญ มีการเมือง 2 ฝ่ายสนับสนุนนั้น ตนยืนยันว่าการเมืองไม่เคยเข้าไปสร้างปัญหา สำหรับสิ่งที่ตนให้ความเห็นนั้นไม่ใช่ชี้นำแต่เป็นความหวังลึกๆ ที่อยากให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง คือ ประธานสโมสรฟุตบอลต่างๆ คำนึงและมองประโยชน์การพัฒนาลีกอาชีพ ที่เป็นรากฐานสำคัญของการยกระดับกีฬาทีมชาติต่อไป