"กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด สโมสรชั้นนำศึกไทยลีก ทำการแถลงข่าวปล่อยตัว "เจ้ามุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าตัวเก่งวัย 31 ปี ย้ายไปร่วมทีม ชิมิสุ เอส-พัลส์ สโมสรดังในศึกเจลีก ญี่ปุ่น ฤดูกาล 2020 อย่างเป็นทางการ ด้วยสัญญา 2 ปี โดยจะสวมเสื้อหมายเลข 23 ทางด้านเจ้าตัวสุดปลื้มขอบคุณผู้บริหารทั้ง 2 สโมสร ที่ทำให้ดีลประสบความสำเร็จ พร้อมตั้งเป้าทำผลงานให้ดีที่สุดกับต้นสังกัดใหม่ ในฟุตบอลลีกสูงสุดแดนปลาดิบอีกครั้ง 

ทางด้าน รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้อำนวยการสโมสร เอสซีจี เมืองทองฯ กล่าวว่า "ขอสวัสดีสื่อมวลชนทุกท่านทั้งจากไทยและจากญี่ปุ่น ถือเป็นความภาคภูมิใจ กับการผจญภัยครั้งใหม่ของนักเตะคู่บารมีของสโมสร รวมถึงเป็นผู้เล่นที่เก่งที่สุดที่เราเคยมีมา เรามีความปลาบปลื้มที่มีทีมชั้นนำให้ความสนใจผู้เล่นของเรา แน่นอนว่าอย่างที่ทุกคนทราบที่ผ่านมา สโมสรมีนโยบายที่จะผลักดัน และส่งเสริมนักเตะให้ก้าวสู่ระดับลีกที่มีมาตรฐานสูงกว่า ต้องขอบคุณสโมสร ชิมิสุ เอส-พัลส์ ที่ให้ความเชื่อมั่นในตัว ธีรศิลป์ ก็ขออวยพรให้เขาประสบความสำเร็จในอาชีพของเขา รวมถึงสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยต่อไป"   

ขณะ มร.คิโยชิ โอกุมะ ผู้จัดการทั่วไปสโมสร ชิมิสุ เอส-พัลส์ กล่าวว่า "ขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมเป็นสักขีพยานวันนี้ ดีลนี้ถือว่าทางโค้ชสนใจตัวของ ธีรศิลป์ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งกับการต่อสู้ในเจลีก ซึ่งมองว่าเขาเป็นกองหน้าสไตล์เลือดนักสู้ เราหวังว่า ธีรศิลป์ จะช่วยผลิตสกอร์รวมถึงยกระดับทีม รวมถึงการเช็นสัญญาครั้งนี้ จะเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับวงการฟุตบอลไทย และญี่ปุ่น ซึ่งดีลนี้ก็ต้องขอบคุณทาง เอสซีจี เมืองทองฯ ซึ่งเป็นทีมที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน สร้างผู้เล่นคุณภาพมากมาย สุดท้ายก็อยากเชิญชวนแฟนฟุตบอลชาวไทยร่วมส่งกำลังใจให้ ธีรศิลป์ รวมถึงช่วยเชียร์ทีม ชิมิสุ เอส-พัลส์ ให้ประสบความสำเร็จไปด้วยกัน"

ส่วนทาง ธีรศิลป์ แดงดา เปิดใจหลังเซ็นสัญญาร่วมทีม ชิมิสุ เอส-พัลส์ ว่า "ดีใจที่ได้กลับมาประเทศไทยอีกครั้ง หลังมีโอกาสได้ร่วมฝึกซ้อมกับ ชิมิสุฯ ขอบคุณสื่อมวลชนทุกท่านที่ให้เกียรติร่วมงาน ส่วนตัวก็รู้สึกดีใจกับการไปเล่นที่ญี่ปุ่นอีกครั้ง ก็ต้องพยายามปรับตัวเรียนรู้กับเพื่อนร่วมทีมใหม่ รวมถึงแท็กติกของโค้ช สุดท้ายก็ต้องขอบคุณทาง ชิมิสุฯ ที่ให้ความเชื่อมั่นในฝีเท้า ทำให้ได้ไปเล่นในลีกที่ดีที่สุดในเอเชีย  รวมถึงผู้บริหารของ เอสซีจี เมืองทองฯ ที่มอบโอกาสสำคัญกับการไปเล่นในต่างแดนที่ผ่านมา"