:::     :::

อัซปิลิกวยต้าติง'วีเออาร์'สร้างงานตลอด

วันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ 2563
1,213
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share

เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า กัปตันทีม เชลซี แสดงความเห็นถึงแนวทางการใช้วิดีโอช่วยตัดสิน (วีเออาร์) ของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ว่าสมควรให้เชิ้ตดำที่ทำหน้าที่ในเกมเป็นคนชี้ขาด หาใช่ทีมงานจากศูนย์บัญชาการใหญ่สั่งการลงมา อย่างเกมวานนี้ที่แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 0-2

'สิงห์บลูส์' โดนยึดการพังตาข่าย 2 หน แมตช์ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ เริ่มจากนาที 55 ตอนสกอร์ตาม 0-1 จากจังหวะเตะมุม คูร์ท ซูม่า ได้ซัดตุงตาข่าย แต่ 'วีเออาร์' ริบประตูคืนเพราะเห็นว่า อัซปิลิกวยต้า ไปผลัก แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ แบ็กหนุ่ม ยูไนเต็ด 

แล้วอีกครั้งท้ายเกมที่ เชลซี ส่งบอลตุงตาข่ายได้แต่ถูกริบจากจังหวะที่ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ พุ่งโขกลูกเปิดของ เมสัน เมาน์ท ทางฝั่งขวา เข้าไปสุดสวย ทว่าหัวหอกฝรั่งเศสถูกวีเออาร์จับล้ำหน้า

เหตุนี้เองกองหลังสแปนิชจึงมองว่าอยากให้ผู้ตัดสินในเกมนั้น แอนโธนี่ เทย์เลอร์ ดูภาพรีเพลย์จากจอมอนิเตอร์ข้างสนามเองแล้วฟันธงสุดท้าย ไม่ใช่ใครก็ไม่รู้ที่ดูบริบทของเกมผ่านตู้สี่เหลี่ยมที่ สต๊อคลี่ย์ พาร์ก 

2 จังหวะที่ เชลซี โดนริบประตู

"วีเออาร์ ทำให้ผมผิดหวังอีกแล้ว ทั้งนี้การตัดสินสำคัญๆควรให้เชิ้ตดำในเกมนั้นๆฟันธง จากการดูมอนิเตอร์ข้างสนาม" 

"ประตูที่ ซูม่า ทำได้โดนยึดเพราะมองว่าผมผลักใส่ วิลเลี่ยส์ แต่บอกเลยว่า เฟร็ด ก็ผลักใส่ผมก่อนเหมือนกัน แล้วแบบนี้จะทำยังไงได้? ผู้ตัดสินบนสนามไม่เห็นอะไรเลย" 

"อย่างน้อยการมีมอนิเตอร์ด้านข้างสนาม ให้เขามีเวลาสัก 30 วินาทีเพื่อตัดสินให้ถูกต้อง - ยังไงก็เห็นว่าสมควรให้เชิ้ตดำที่ทำหน้าที่ในเกมเป็นคนชี้ขาด"

นับเป็นอีกครั้งที่คำตัดสินจาก 'วีเออาร์' ยังคงเข้าทาง แมนฯ ยูไนเต็ด หลังจากมีการบันทึกสถิติว่าเป็นเบอร์ 1 ของลีกฤดูกาล 2019-20 

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})