“ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดตัวสโมสร พร้อมด้วยเปิดตัว 29 พันธมิตรลูกหนัง และ8 พันธมิตรอีสปอร์ต ที่จะร่วมกันสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการฟุตบอล และให้กับโลก ภายใต้คอนเซปต์ อนุรักษ์โลก และการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ต่อยอดเพิ่มเติมจากฤดูกาลที่ผ่านมา

โดย “ลุงเน” เนวิน ชิดชอบ เปิดเผยว่า “เรากำลังจะเดินเข้าสู่ปีที่ 11 แน่นอนครับจุดเริ่มต้นของการเป็นบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คือเราเริ่มเพื่อจะเปลี่ยนเมืองบุรีรัมย์ จากเมืองผ่านให้เป็นเมืองพัก 10 ปีผ่านมาเราเปลี่ยนแปลงเมืองที่มีนักท่องเที่ยวไม่ถึง 500,000 คน กลายมาเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวกว่า 3,000,000 คน ภาระกิจหลักของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไม่ว่าจะเป็น ฟุตบอล, อีสปอร์ต, มอเตอร์สปอร์ต ไม่ใช่ทำงานเพื่อผลตอบแทน หรือผลกำไรของบริษัท แต่ที่ผ่านมาเราสอนคน ลูกหลานชาวบุรีรัมย์ และทีมงานของเราว่าเราต้องคิดถึงส่วนรวมก่อนที่จะคิดถึงส่วนตัว แน่นอนครับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ปีที่ผ่านมามันคือความเจ็บปวดของผม และความรู้สึกเจ็บปวดของแฟนบอล และผู้สนับสนุนทุกคน ซึ่งเราพลาดตำแหน่งแชมป์เกือบทุกรายการ ยกเว้นแชมป์เปี้ยส์คัพ ตอนต้นฤดูกาลที่เราได้มาเพียงแชมป์เดียว”

“ปีที่ผ่านมาต้องถือว่าลูกเก่งกว่าพ่อ เพราะบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อีสปอร์ต ที่เป็นบริษัทลูกคว้าแชมป์เกือบทุกรายการ ในขณะที่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ฟุตบอล ได้แค่ถ้วยเดียว แน่นอนครับปีนี้สิ่งที่ต้องทำ ผม นักฟุตบอล และทีมงาน ต้องทำให้ดีกว่าปีที่แล้ว ต้องกลับมาให้ได้ในฐานะแชมป์ เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะถูกลูกตัดออกจากกองมรดกเหมือนกัน”

“มาถึงวันนี้ปีที่ 11 ของบุรีรัมย์ เราจะทำอะไร เมื่อตอนเราขอบคุณสปอนเซอร์เมื่อปลายปี ผมบอกหุ้นส่วนทุกท่านว่า “BURIRAM GO GREEN” นั้นหมายความว่าเป้าหมายที่เราจะเดินในปี 2020 เราไม่ได้คิดถึงแค่บุรีรัมย์ เมืองบุรีรัมย์ หรือผลการแข่งขันของทีมฟุตบอล แต่มันถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องคิดถึงสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าบุรีรัมย์ก็คือ โลกใบนี้ ทั้งหมดไม่ได้เริ่มมาจากความคิดของผม แต่มันเกิดขึ้นมาจากคนรุ่นใหม่ของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ลูกๆ ทุกคนทั้ง มาบอกว่ามันถึงเวลาแล้วที่คนรุ่นพ่อ จะต้องมองถึงอนาคตของคนรุ่นลูก เพราะเวลานี้โลกมันมีปัญหามากขึ้น เพราะคนรุ่นพ่อใช้ทรัพยากรไปเยอะมาก แล้วต่อไปข้างหน้าคนรุ่นลูก รุ่นหลานจะมีชีวิตอย่างไร มันก็เลยเป็นเป้าหมายของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทั้งเครือ ที่จะเดินไปอย่าง GO GREEN”