ไบรอัน กัทคุนส์ท ผู้จัดการทั่วไปของ กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส เปิดเผยว่าทีมหัวเนยอาจดราฟท์ควอร์เตอร์แบ็กในคลาส 2020 เพื่อวางตัวเป็นทายาทในอนาคตของ แอรอน ร็อดเจอร์ส จอมทัพวัย 36 ปี ตามรายงานข่าวจาก'ยูเอสเอ ทูเดย์'เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา 

แพ็คเกอร์ส ดราฟท์ ร็อดเจอร์ส เข้าทีมรอบแรก คลาส 2005 เพื่อวางตัวเป็นทายาทของ เบร็ตต์ ฟาฟร์ ก่อนจอมทัพ'โพร โบวล์'11 สมัยจะอำลาทีมหลังจบซีซั่น 2007 และ ร็อดเจอร์ส ก้าวขึ้นมาเป็นควอร์เตอร์แบ็กตัวจริงตั้งแต่ซีซั่น 2008 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งผู้จัดการทั่วไปของทีมหัวเนยไม่ปิดกั้นในการดราฟท์ควอร์เตอร์แบ็กในคลาส 2020 ถ้าหากพบผู้เล่นที่มีความเหมาะสม 

'ทุกสิ่งที่ผมได้รับการสอน นั่นคือจุดเริ่มต้นของคุณ' กันคุนส์ท เปิดเผย 'คุณเริ่มต้นกับควอร์เตอร์แบ็ก ดังนั้นคุณต้องประเมินผลพวกเขาทุกปีและผมคิดว่ามันจะอยู่บนโต๊ะเสมอ มันเป็นกลุ่มผลผลิตที่ดีในปีนี้ มันเป็นกลุ่มควอร์เตอร์แบ็กที่ดี ผมคิดว่ามันเป็นเชิงลึกกว่าที่ผ่านมาเล็กน้อย ผมจึงน่าสนใจ'

ร็อดเจอร์ส วัย 36 ปี เซ็นสัญญาฉบับใหม่ 4 ปี มูลค่า 134 ล้านเหรียญสหรัฐในช่วงซัมเมอร์ปี 2018 และยังทำผลงานคุ้มค่าจ้างซึ่งหมายความว่า แพ็คเกอร์ส จึงไม่ต้องรีบร้อนที่ต้องหาตัวแทน แต่ทีมหัวเนยยังต้องมองหาทายาทของ ร็อดเจอร์ส ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า 

สัญญาของ ร็อดเจอร์ส จะมีเงินตายมากกว่า 30 ล้านเหรียญสหรัฐตลอด 2 ฤดูกาลข้างหน้า แต่จะลดลงเหลือ 17 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2022 และเหลือเพียง 2.3 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2023 ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่เขาอาจจะรีไทร์ก่อนซีซั่น 2024 ดังนั้น แพ็คเกอร์ส จึงต้องเตรียมหาตัวแทนระยะยาว 

แพ็คเกอร์ส ถือสิทธิ์ดราฟท์ท้ายรอบแรกอันดับ 30 ขณะที่ควอร์เตอร์แบ็กดาวรุ่งระดับท็อปของคลาส 2020 อย่าง โจ เบอร์โรว์ (แอลเอสยู), ทูอา ทาโกไวลัว (แอลาบาม่า) และ จัสติน แฮร์เบิร์ต (โอเรกอน) คงไม่หลุดรอดมาถึงทีมหัวเนย แต่ยังมีโอกาสเป็นไปได้สำหรับควอร์เตอร์แบ็กเกรดรองลงมาอย่าง เจค็อบ เอียสัน (วอชิงตัน), เจ้ค ฟรอมม์ (จอร์เจีย) หรือ จอร์แดน เลิฟ (ยูท่าห์ สเตท)