เกมที่ กรูปาม่า สเตเดียม เป็นทาง โอแอล ที่ออกนก่อน 1-0 ในนาทีที่ 11 เมื่อทาง คาร์ล โตโก เอก็อมบี้ สอดมาทางขวาก่อนตบเข้าในให้กับ มาร์กแต็ง แตร์รีเย่ร์ ยิงเข้าประตูไป

แต่อีก 3 นาทีต่อมา เปแอสเช ตามตีเสมอ 1-1 ในจังหวะเตะมุมทางขวาให้ เลย์วิน กูร์ซาว่า ลอยตัวโขกเช็ดมาเสาไกลเข้าทาง คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้ ชาร์จจ่อๆไม่พลาด

เกมยังคงแลกกันสนุก นาทีที่ 36 เอดินสัน คาวานี่ ส่งบอลเข้าประตูไปแต่ได้เฮเก้อเพราะมีธงยกมาว่าเป็นจังหวะล้ำหน้าไปแล้ว

ครึ่งหลังนาที 61 ปารีส ได้ลูกจุดโทษเมื่อทาง แฟร์นันโด มาร์ซาล ทำแฮนด์บอลแถมโดนเหลืองสองเป็นใบแดงไล่ออกไป ก่อนจะเป็น เนย์มาร์ รับหน้าที่สังหารเข้าไปให้ทีมนำ 3-1

เท่านั้นไม่พอนาทีที่ 70 สกอร์ขยับเป็น 3-1 จากความยอดเยี่ยมของ คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้ ที่ฃงไปตัดบอลได้ในแดนตนเองก่อนจะลากจี้ขึ้นมาทางซ้ายแล้วล็อกหลบกองหลังในกรอบเขตโทษก่อนจะยิงเข้าไปแบบเหนือชั้น

ทีมเยือนมาได้ประตูที่สี่ในนาทีที่ 82 จากจังหวะเตะมุมทางซ้าย เนย์มาร์ เปิดเข้ามาบอลขลุกลิกก่อนทะลักมาทาง ปาโบล ซาราเบีย หวดสวนด้วยขวาเสียบตาข่าย 4-1

ช่วงทดเวลานาทีสุดท้าย คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้ ทำประตูปิดกล่องช่วยใ ห้เปแอสเช บุกชนะ ลียง ไปได้ 5-1 ตบเท้าเข้ารอบชิงชนะเลิศสำเร็จ