ช่วงที่ผ่านมา ยูไนเต็ด ที่นำโดย วูดเวิร์ด ในฐานะฝ่ายบริหารของสโมสรถูกแฟนบอลวิจารณ์อย่างหนักเรื่องการทำตลาดที่แผ่ขยายไปทั่วโลก ซึ่งสวนทางกับผลงานในสนามที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย

อย่างไรก็ตาม หลังจากสโมสรในพรีเมียร์ลีก อาทิ นอริช ซิตี้, ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ และ นิวคาสเซิ่ล ได้สั่งลดพนักงานและตัดค่าแรงหลังจากทนวิกฤติเรื่องไวรัสโควิด-19 ไม่ไหว แต่ทาง ปิศาจแดง ยังคงยืนหยัดและประกาศเป็นทีมแรกว่าจะไม่ลดค่าแรงของพนักงงาน

สำหรับ ผีแดง ได้จ้างพนักงานในส่วนต่างๆ ที่นอกเหนือจากทีมงานด้านฟุตบอลรวมแล้วกว่า 900 ชีวิต ซึ่งที่ผ่านมาสโมสรประกาศชัดเจนว่าจะไม่พักงานลูกจ้างหรือตัดเงินในช่วงนี้แน่นอน

ทั้งนี้สโมสรกำลังรอการประชุมของ พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ และ พีเอฟเอ ที่จะถกเรื่องการลดค่าแรงนักเตะซึ่งจะเกิดขึ้นในวันศุกร์นี้ ก่อนจะนำผลการประชุมมาหารือและตัดสินใจเรื่องทิศทางสโมสรอีกครั้ง

โดยสื่อดังอย่าง เดลี่ เมล์ เผยว่าปัจจัยสำคัญที่ ปิศาจแดง ไม่ได้รับผลกระทบเหมือนสโมสรอื่นๆ มาจากการที่ วูดเวิร์ด และทีมงานด้านการตลาดเดินหน้าหาผู้สนับสนุนไปทั่วโลก และตอนนี้ได้ส่งผลในแง่บวกหลังจากทีมต้องถูกงดลงสนามและไม่สามารถหาเงินเข้าสโมสรได้

"ยูไนเต็ด เคยถูกตำหนิเรื่องผู้สนับสนุนของพวกเขา แต่สโมสรชั้นนำส่วนใหญ่เพิ่มรายได้ให้พวกเขาด้วยทางนั้นทั้งหมด การทำการตลาดกับผู้สนับสนุนส่งผลให้ธุรกิจมีความมั่นคงในระยะยาว"

"ไม่ได้มีเรื่องของความพึงพอใจ เพราะนี่คือความท้าทายของอุตสาหกรรมฟุตบอลทั้งหมดที่ไม่เหมือนกับที่เราเคยเห็นมาก่อนหน้านี้ ทว่าทาง ยูไนเต็ด ฟื้นตัวได้เร็วที่สุดเพราะความแข็งแกร่งในเรื่องแผนการธุรกิจ" หนึ่งในคนวงในด้านธุรกิจเผยกับ เดลี่ เมล์

ทั้งนี้ตามรายงานจาก Deloitte เผยว่ารายได้ที่ ผีแดง ได้รับจากผู้สนับสนุนมากกว่า แมนฯ ซิตี้ 50 ล้านปอนด์ และมากกว่า ลิเวอร์พูล 94 ล้านปอนด์