เอมิล เฮสกีย์ อดีตกองหน้า ลิเวอร์พูล เข้าใจอารมณ์ของ โรแบร์โต้ ฟีรมีโน่ ดาวยิงรุ่นน้องเวลานี้ดี ที่ไม่สามารถยิงประตูในแอนฟิลด์มาตั้งแต่ปีมะโว้ ทั้งให้กำลังใจว่ามองเรื่องประโยช์ต่อทีมดีกว่าสถิติส่วนบุคคล
เจ้าของฉายา 'กองหน้าเชิงรับ' ค้าแข้งกับ 'หงส์แดง' ระหว่างปี 2000-2004 ลงเล่นตั้ง 150 เกมลีกแต่ยิงได้เพียง 39 ประตู จัดว่าน้อยนิดเหลือเกิน จนแฟนบอล-สื่อมวลชนเวลานั้นสวดแหลก
อย่างไรก็ตามประโยชน์เรื่องการพัก-พิง เวลาบอลขึ้นแดนหน้า, โหม่งทำทาง หรือความขยันเกมรับ ทดแทนสถิติพังตาข่ายกระจุ๋มกระจิ๋ม
ดังนั้นอดีตหอกเลือดผู้ดีจึงปลุกเร้า ฟีร์มีโน่ กองหน้าสไตล์โซ่ข้อกลางว่าไม่ต้องไปเครียดเรื่องตัวเลขผลงาน มีสมาธิกับสไตล์ของเราเองถูกต้องแล้ว
"ผมกลับคิดว่าเมื่อมี ฟีร์มีโน่ ลงสนามทุกอย่างมันช่างดูลื่นไหลเหมาะสม ดังนั้นนายไม่ต้องกังวลเรื่องผลงานทำประตูเลย บอกตัวเองว่า - นี่คือรูปแบบงานเรา ฉันต้องเล่นแบบนี้ - " เฮสกีย์ วัย 42 ปี กล่าวกับ '90 มินิท'
เฮสกีย์คนเคยฝืด
"คุณก็เห็นว่าเขาวิ่งลงมาช่วยเกมรับ ไล่เสียบคู่แข่ง, คุณเห็นเขาโยกไปเล่นทางซ้ายได้ ช่วยวิ่งขึ้น-วิ่งลงซ้อนให้ทีมเมต"
"เผลอแปบเดียวไปโผล่ข้างหน้าเขตโทษคู่แข่งแล้ว ทั้งครองบอล รอจังหวะ แล้วผสานทุกอย่างในเกมรุกเป็นเนื้อเดียว"
"ต้องยอมรับว่าหมอนั่นสารพัดประโยชน์ เขาไม่สักแต่บอกตัวเองว่า - กูต้องยิงประตู -
"ตัวผมเองฐานะอดีตกองหน้า เวลาดูทางที่ ฟีร์มีโน่ วิ่ง เขาไม่สักแต่ขึ้นหน้าทว่ายังสร้างพื้นที่ด้วย จะเป็นคนหาที่ว่างเวลาคนอื่นตัน"
"บ็อบบี้ เปิดพื้นที่ให้ทีมเมต สัมผัสบอลแรกเนียนกริบทั้งที่โดนจ่ายยัดมา สมองก็สั่งการวิเคราะห์รอบด้านเอายังไงต่อ ซูฮกความฉกาจเรื่องนี้เลย"
ฟีร์มีโน่ เป็นกองหน้าเบอร์#9 สไตล์รวมสมัย ผลงานอาจไม่หวือหวา 29 เกมลีกทำไปแปดลูก แต่ผจก.ทีม เจอร์เก้น คล็อปป์ บอกนักเตะคนนี้ในทีมหาสำรองไม่ได้
