เว็บไซต์ 'อาซูกราน่า' อ้างถึงเมื่อครั้ง เนย์มาร์ ย้ายสังกัดไป ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เมื่อปี 2017 แล้วจากนั้นก็รวบรวมหลักฐานยื่นฟ้องต่อศาลแคว้นกาตาลุนย่าเมื่อ ธ.ค. 2019  อ้างเรื่องถูก บาร์ซ่า เบี้ยวเงินโบนัสเซ็นสัญญาใหม่อีก 43.65 ล้านยูโรตอนทำข้อตกลงใหม่ช่วงปี 2016 

โดยหลังจากผู้พิพากษาพิจารณาหลักฐานรอบด้านทั้งจากฝ่ายโจทก์และจำเลยที่นำมาแก้ต่าง พบว่ามีข้อมูลที่ไม่ตรงกันอยู่ เนื่องจากต่างฝ่ายต่างฟ้องเรียกค่าเสียหายต่อคู่กรณี ฝั่ง บาร์เซโลน่า ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากนักเตะ 22.5 ล้านยูโรหลังทำผิดข้อตกลงตอนเซ็นสัญญาย้ายซบ เปแอสเช ในช่วงซัมเมอร์ปี 2017 ขณะที่ตัวแทนกฎหมายของ เนย์มาร์ ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากสโมสรว่าทำผิดข้อตกลงตอนขยายสัญญาเมื่อปี 2016 ที่ต้องจ่ายโบนัสเซ็นสัญญาส่วนที่เหลือให้นักเตะอีก 43.65 ล้านยูโร 

ตามคำชี้แจงของทนายความ เนย์มาร์ อ้างว่าในสัญญาของวันที่ 1 กรกฎาคม 2016 สำหรับการขยายสัญญาฉบับดังกล่าวมีการตั้งโบนัสการเซ็นสัญญามูลค่า 64.4 ล้านยูโร ซึ่งแบ่งเป็นการชำระเงินให้นักเตะ 20.75 ล้านยูโรก่อนวันที่ 31 กรกฎาคมของปีนั้นและส่วนที่เหลืออีก 43.65 ล้านยูโรจะต้องจ่ายก่อนวันที่ 31 กรกฎาคม 2017 แต่ บาร์เซโลน่า ยังไม่จ่ายเงินจำนวนดังกล่าว จนกลายเป็นข้ออ้างให้นักเตะย้ายไปเซ็นสัญญากับ เปแอสเช ในวันที่ 3 สิงหาคมปีเดียวกัน

https://twitter.com/FCBarcelona/status/1273945969969827840

แถลงการณ์จาก บาร์เซโลน่า

จากคดีข้างต้นนำมาซึ่งการอ่านคำตัดสินให้สโมสร บาร์เซโลน่า ไม่มีความผิด ทั้งสั่งกองหน้าวัย 28 ปี ชดใช้ค่าเสียหายคืนแก่ 'เลือดหมู-น้ำเงิน' 6.7 ล้านยูโร เพราะเอาประโยชน์เกินควรกว่าเหตุไประหว่างฤดูกาล 2013-14 ถึง 2016-17 

ทั้งนี้คดีความยังไม่สิ้นสุดเพราะตัวแทนของ เนย์มาร์ ยื่นขออุทธรณ์ทันที ทำให้ยังต้องสู้กันอีกยกเป็นอย่างน้อย