ในช่วงพักครึ่งเกมพรีเมียร์ลีกนัดล่าสุดที่ สเปอร์ส เฉือนชนะ เอฟเวอร์ตัน 1-0 วานนี้ โยริส วิ่งเข้ามาตะโกนด่าต่อหน้า ซน ฮึง-มิน ขณะที่หัวหอกเกาหลีใต้พยายามฮึดฮัดในตอนแรกแต่เพื่อนร่วมทีมช่วยขวางและแยกเข้าห้องแต่งตัวไปก่อน

แม้ภายหลังนายด่านเฟร้นช์แมนพยายามเคลียร์ว่าคืออารมณ์ร่วมของเกม ทั้งเขาและ ซน ปรับความเข้าใจกันแล้ว แต่ในมุมมอง ซัตตัน เห็นว่าโชคดีที่คู่พิพาทคือสองคนนั้น สมมติเปลี่ยนไปเป็น โยริส หาเรื่องแข้งอีโก้สูงอย่าง ตงกีย์ เอ็นด็อมเบเล่, แซร์ช โอริเย่ร์ หรือ เดเล่ อัลลี อาจต่อยหน้ากันไปแล้ว 

"การฟัดกันระหว่าง อูโก้ โยริส กับ ซน ฮึง-มิน ระหว่างพักครึ่งเวลาภาพที่ออกมาไม่งามเลย ทำให้ สเปอร์ส ดูไม่ดี  ทำไมไม่รอจนเดินหลบเข้าห้องแต่งตัวไปก่อนหากคุณอยากเอาเรื่องใครสักคนในทีมตัวเอง - มันคือแนวทางสะสางตามแบบของฟุตบอล"  อดีตกองหน้า เชลซี แสดงความเห็นผ่าน 'เมล ออนไลน์' 

https://twitter.com/bartseeboob/status/1280331670982324229

ซัตตันมองสเปอร์สคือทีมผู้ดีที่ไม่มีภาพลบ

"ก่อนแมตช์เฮดโค้ช โชเซ่ มูรินโญ่ ของพวกเขาโฆษณาว่าทีมนี้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียว แต่ภาพที่ออกมาทำให้เราคิดว่าไม่เป็นเช่นนั้นเมื่อตัดสินจากปัญหาของคู่กรณี" 

"กองหน้าสามารถวิ่งลงมาจองเวรผู้รักษาประตู หรือนายด่านวิ่งขึ้นไปกินหัวแนวรุก เรื่องพรรค์นี้เกิดได้เมื่ออารมณ์ร่วมบนสนามฟุตบอลสูง" 

"จำได้ครั้งหนึ่งผมอยู่ม้านั่งสำรองเห็น เดวิด แบ็ตตี้ และ แกรม เลอ โซซ์ เผชิญหน้ากันแบบนั้นตอนปี 1995 สมัยเล่นให้ แบล็คเบิร์น เกมพบ สปาร์ตัก มอสโก - ภาพที่ออกมาดูไม่ดี" 

"ดังนั้นผมถึงแปลกใจที่ผู้เล่น สเปอร์ส แสดงแบบนั้นด้วยเมื่อเกมคืนวันจันทร์ ก่อนจะถูกทีมเมตเข้ามาแยกทัพ" 

"ฐานะแฟนบอล สเปอร์ส คงไม่อยากเห็นภาพแบบนั้น" 

ตั้งแต่ สเปอร์ส ได้ มูรินโญ่ มาเป็นเฮดโค้ชเราเห็นอารมณ์ร่วมของผู้เล่นถูกปล่อยออกมาแบบไร้ลิมิตตั้งแต่ เดเล่ อัลลี หงุดหงิดที่โดนเปลี่ยนออกขว้างขวดน้ำลงพื้นในซุ้มม้านั่งสำรอง, เอริค ดายเออร์ ปีนอัฒจันทร์ไล่กระทืบแฟนบอล และล่าสุดสองแข้งติ๋มยังจะฟาดปากกันเอง