ความเคลื่อนไหวของทัพค้างคาวไฟ - สุโขทัย เอฟซี หลังจากที่คว้าตัว เสริมทัพนักเตะหลากหลายตำแหน่งและดึงเยาวชนฝีเท้าดีเข้าร่วมทีม

ล่าสุด ดร. อนงค์วรรณ เทพสุทิน ประธานสโมสรสุโขทัย เอฟซี ให้สัมภาษณ์ว่าการปรับเปลี่ยนนักเตะก่อนที่ไทยลีกกลับมาแข่งขัน โดยผสมผสานนักเตะมากประสบการณ์และนักเตะเยาวชน รวมกันล่าสุด  6 คน  เชื่อว่าจะการยกระดับทีมได้เป็นอย่างดี เพราะการถ่ายทอดเทคนิค ประสบการณ์จากรุ่นพี่ สู่รุ่นน้อง ทั้งนี้ยอมรับว่าทีมไม่สามารถซื้อนักเตะต่างชาติค่าตัวแพงได้ ดังนั้นตนเชื่อว่าการสร้างรากฐานจากเยาวชนจะทำให้อนาคตของทีมและฟุตบอลไทยเติบโตอย่างมั่นคง ส่วนเป้าหมายของทีมที่ตั้งเป้าไว้ช่วงต้นฤดูกาล คือ  Top 6 นั้น ตนยังเชื่อมั่นว่าจะเป็นไปตามเป้าหมาย เพราะดีกรีระดับโค้ชโปรไลเซ่น ของ โค้ชอั๋น - สุรพงษ์ คงเทพ เฮดโค้ชค้างคาวไฟ ที่เข้ามาดูแลและวางเทคนิคในหลายๆ ด้าน ทำให้ตนวางใจและเชื่อมั่นในฝีมือและประสบการณ์ของโค้ชอั๋นต่อการยกระดับทีม

“หลายคนจะมองว่าทีมสุโขทัย เอฟซี เป็นทีมเล็กๆ อยู่ต่างจังหวัด ไม่สามารถอยู่ในอันดับต้นๆ ของลีกได้ แต่หลังจากมีวิกฤตโควิด-19  นานหลายเดือน หลายสโมสรปรับเปลี่ยนเยอะ ซึ่งสุโขทัย เอฟซี ยังมีเป้าหมายต่อการแข่งขันเหมือนเดิม แม้จะเปลี่ยนตัวผู้เล่นในหลายตำแหน่ง โดยสิ่งที่จะทำให้เรายืนอยู่บนไทยลีกได้ คือ เทคนิคของโค้ช ความขยัน อดทน ฝึกซ้อม อย่างมืออาชีพ รวมถึงการรวมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของนักเตะทุกคนในทีม ”ประธานค้างคาวไฟ กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับอันดับของทีมสุโขทัย เอฟซี หลังจากผ่าน 4 เกมไทยลีก อยู่อันดับที่ 8  ผลการแข่งขัน ชนะ 2 เกม แพ้ 2  เกม มี 6 แต้ม โดยหลังจากไทยลีกคัมแบ็ค ในเดือนกันยายน ตามตารางแข่งขันเดิมจะเปิดสนามทะเลหลวง รับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด โดยการเสริมทัพของค้างคาวไฟล่าสุด นั้นได้ดึง 6 นักเตะ คือ ชินพงษ์ รักษี ผู้รักษาประตูวัย 25 ปี,  โอลัคซอน เอ แทมบา กองหน้าวัย 17 ปี เป็นลูกครึ่งไทย-ไลบีเรีย, มูฮัมหมัดนาเซ กอและ กองกลางวัย 20 ปี ,   อนุศักดิ์ ใจเพชร กองหลังวัย 21 ปี , ปัณณ์พันธุ์พงษ์ ปิ่นกอง แนวรับ วัย 33 ปี, และ เดชา สอาดโฉม กองกลางวัย 33 ปี ทั้งนี้ยังมีตำแหน่งกองหลัง โควต้าอาเซียน ที่ยังอยู่ระหว่างการเจรจา