เหตุเกิดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ณ เมืองเคโนชา รัฐวิสคอนซิน เมื่อ ยาค็อบ เบล้ก ชายผิวดำวัย 29 ปี โดนตำรวจเรียกให้จอดรถเอสยูวีของเขาข้างถนน เพราะมีเหตุแจ้งเรื่องทำร้ายร่างกายคนในครอบครัว ซึ่งเจ้าตัวเป็นผู้ต้องสงสัย 

อย่างไรก็ตาม เบล้ก ไม่ให้ความร่วมมือในการจับกุมเดินออกจากประตูรถฝั่งขวา วนข้ามมาฝั่งคนขับแล้วเปิดประตูรถ จนเจ้าหน้าที่เข้าใจว่าอาจมาหยิบอาวุธจึงระดมห่ากระสุนใส่ทันที ทั้งที่ในรถมีลูกๆ 3 คนเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด 

เบล้ก ได้รับบาดเจ็บที่แขนหนึ่งข้าง, ไขสันหลัง, กระเพาะอาหาร แพทย์ต้องตัดสำไล้ใหญ่และลำไส้เล็กของเขาออกเกือบจะทั้งหมด ซึ่งจากการวินิจฉัยระบุว่าเขาต้องเป็นอัมพาตครึ่งท่อน

เมื่อบวกกับเหตุการณ์จับกุม จอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวดำอีกรายที่รัฐมินเนโซต้า เมื่อ พ.ค.รุนแรงเกินกว่าเหตุจนเสียชีวิต 

จึงทำให้ ฟานฟลีต มองว่าการที่ลีกเอ็นบีเอสวมเสื้อยืดสกรีนข้อความ 'ชีวิตคนดำก็มีค่า' อาจไม่มีประโยชน์อันใดเลย

"เราสมควรยอมแพ้ได้หรือยัง? เราสามารถเรียกสิ่งที่เกิดขึ้นว่าระยำได้หรือเปล่า? หรือมันก็แค่คำพูดเท่ๆว่า 'ชีวิตคนดำก็มีค่า' ที่พิมพ์แปะฉากหลังการนั่งสัมภาษณ์, สกรีนติดเสื้อยืด ถามว่ามันส่งผลอะไรต่อสังคมบ้าง? มีความเปลี่ยนแปลงอะไรไหม?" การ์ดดีกรีแชมป์ 1 สมัยใส่เป็นชุด 

https://twitter.com/Raptors/status/1298404832995414016

ฟานฟลีตเซ็งมากคนดำโดนอีกแล้ว

"มันคงจะเจ๋งเป้งหากเราอาศัยอยู่บนโลกแห่งอุดมคติ สามารถทำอย่างที่เปรยๆกัน ไม่ว่าการฏิเสธลงแข่ง, เจ้าของทีม มิลวอลกี้ บัคส์ (แฟรนไชส์ใกล้เมืองเคโนชามากที่สุด) ... ก้าวออกมาแล้วกดดันไปอัยการเขต, อัยการรัฐ, สภาเมืองและนักการเมืองท้องถิ่น เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ให้เกิดความยุติธรรม อย่างแท้จริง "

"ด้านทีม แรปเตอร์ส เรามีโอกาสประชุมเมื่อเช้าอังคารที่ผ่านมา ก็ถกกันถึงความเป็นไปได้ในหลายๆเรื่อง  หนึ่งในนั้นคือคว่ำบาตรเพลย์ออฟ ทั้งนี้คงมีอีกหลายเรื่องเห็นต่างต้องคุยเพิ่ม" 

แชมป์เก่าจะประเดิมซีรี่ส์เพลย์ออฟ รอบสอง ฝั่งตะวันออก พฤัสบดีนี้ ( 27 ส.ค.) พบ บอสตัน เซลติคส์ โดยทั้งสองทีมก็คุยกันเรื่องหาทางแสดงออกจากเหตุการณ์นั้นอย่างสร้างสรรค์