ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

เวสต์บรอมวิช 0 - เลสเตอร์ 3

สนาม : เดอะ ฮอว์ธอร์นส์

น้องใหม่ เวสต์บรอมวิช อัลเบียน มาในระบบ 5-4-1 เน้นเกมรับทิ้ง คัลลัม โรบินสัน ยืนหน้าเป้าคนเดียว เจอกับ เลสเตอร์ ที่ส่งตัวใหม่ ทีโมที คาสตานเย่ ลงยืนแบ็กขวา นอกนั้นเป็นตัวหลักหน้าเดิมๆ จากซีซั่นก่อน นำโดย เจมี่ วาร์ดี้ ดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก

เจ้าถิ่นเริ่มต้นเกมได้ดีทีเดียว นาที 17 ดาร์เนลล์ เฟอร์ลอง ควบบอลจะหลุดเข้าเขตโทษฝั่งขวาอยู่แล้ว แต่โดน เจมส์ จัสติน รวบล้มก่อนเหยียบเส้นนิดเดียว โดนใบเหลืองและเป็นฟรีคิก มาเตอุส เปเรร่า ปั่นเท้าซ้ายแฉลบข้ามคาน

เลสเตอร์ ก็หาจังหวะตอบโต้ได้น่ากลัวในนาที 30 เดนนิส ปราต ยิงเท้าซ้ายเหน่งๆ กลางประตู แต่บอลไปตรงตัว แซม จอห์นสตัน

กลับมาเล่นครึ่งหลัง จิ้งจอกสีน้ำเงิน ได้ประตูนำ 1-0 ในนาที 56 เดนนิส ปราต หลุดไปถึงสุดเส้นหลังฝั่งซ้าย หยอดเข้ากลางให้ ทีโมที คาสตานเย่ แบ็กขวาวิ่งสอดขึ้นมาโหม่งเต็มๆ เสียบตาข่าย เป็นประตูแรกในเกมแรกของแบ็กขวาทีมชาติเบลเยียม

นาที 74 ทีมเยือนมาได้จุดโทษ จังหวะสวนกลับเร็ว ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ จิ้มแล้ววิ่งแซงคู่แข่งขึ้นทางซ้ายดื้อๆ เลาะตัดเข้ากลางแล้วเลือกยิงเองไปติดเซฟ จอห์นสตัน แต่ตรงกลางประตู เจมี่ วาร์ดี้ ถูก ไคล์ บาร์ทลี่ย์ ดึงล้มลงไป แม้ไม่มีบอล แต่ผู้ตัดสิน แอนโธนี่ เทย์เลอร์ ชี้เป็นจุดโทษ และเป็น เจมี่ วาร์ดี้ ลุกขึ้นมาสังหารเสียบมุมเป็น 2-0

จุดโทษที่สองของ เลสเตอร์ เกิดขึ้นอีกในนาที 84 และเป็นสกอร์ 3-0 เจมส์ จัสติน ครองบอลในเขตโทษแล้วโดน ดารา โอเช หวดล้ม เจมี่ วาร์ดี้ สังหารไปมุมซ้ายมือตัวเองเหมือนเดิมไม่พลาดเป้า

จบเกม เลสเตอร์ บุกชนะ เวสต์บรอมวิช 3-0 ก้าวขึ้นไปนำจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกร่วมกับ อาร์เซน่อล

เวสต์บรอมวิช : แซม จอห์นสตัน - ดาร์เนลล์ เฟอร์ลอง, เซมี่ อาจายี่, ไคล์ บาร์ทลี่ย์, ดารา โอเช, คีแรน กิ๊บบ์ส - มาเตอุส เปเรร่า, เจค ลิเวอร์มอร์, โรเมน ซอว์เยอร์ส, เกรดี้ เดียนกาน่า - คัลลัม โรบินสัน

เลสเตอร์ : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล - ทีโมที คาสตานเย่, วิลเฟรด เอ็นดีดี้, ชากลาร์ โซยุนชู, เจมส์ จัสติน - นอมปาลีส เมนดี้ - อาโยเซ่ เปเรซ, ยูริ ตีเลม็องส์, เดนนิส ปราต, ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ - เจมี่ วาร์ดี้