สตีเฟ่น เอ.สมิธ นักวิจารณ์ฝีปากกล้าแห่งเครือข่าย อีเอสพีเอ็น พยากรณ์ว่า พอล จอร์จ สวิงแมน แอลเอ คลิปเปอร์ส ไม่แคล้วต้องเป็นจอมพเนจรแบบเซนเตอร์ฝีมือดี ดไวท์ เฮาเวิร์ด เนื่องจากทั้งคู่จิตใจบอบบาง ไม่สามารถก้าวข้ามสู่บันไดซูเปอร์สตาร์ได้
จอร์จ ผลงานปีแรกฐานะ คลิปเปอร์ส ลุ่มๆดอนๆ เพราะเดี้ยงมาตั้งแต่ก่อนเปิดซีซั่น จนทำให้ฟอร์มไม่สม่ำเสมอลากยาวจนเพลย์ออฟ มีส่วนสำคัญให้ทีมจากขึ้นแท่น 3-1 เกมซีรี่ส์ เพลย์ออฟรอบรองฯ ฝั่งตะวันตก ทว่าสุดท้ายโดน เดนเวอร์ นักเก็ตส์ แซงถีบร่วง 3-4 เกมซีรี่ส์
จิตใจที่ไม่เข้มแข็ง, ความกระหายน้อยไป และแรงกดดันเมื่อมาอยู่เมืองใหญ่ คือสามปัจจัยทำให้ 'พีจี 13' จะตามรอย 'ซูเปอร์แมน'
"เราไม่สามารถมองข้ามสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อ พอล จอร์จ มาเข้านั่งปูเสื่อรอผมจะเหลาให้ฟัง - เขาคือคนนิสัยดีสุดคนหนึ่งซึ่งจนจะได้เจอสักหนในชีวิต, ไม่เคยมีปัญหากับใครั้งนั้น แล้วเขาคือดาราของลีก" เอ.สมิธ เปิดปาก
https://twitter.com/stephenasmith/status/1306635310344941568
ด่าแบบไม่ต้องเหนียม
"แต่กระนั้นเด็กหนุ่มคนนี้เก่งไม่สุดสักที เคยเล่นอยู่ในเมืองตลาดเล็ก เลยไม่เปรี้ยงเท่าที่ควร จนดิ้นรนย้ายออก ซึ่งจุดนี้แหละที่ จอร์จ ต้องระวังว่าจะเดินตามรอย ดไวท์ เฮาเวิร์ด"
"จำกันได้ไหม ดไวท์ สร้างชื่อที่ ออร์แลนโด แมจิค เหมือนกับ จอร์จ ดังขึ้นมาฐานะ อินเดียนา เพเซอร์ส - ตลาดเล็กเหมือนกัน"
"เฮาเวิร์ด อยากย้ายออกไปเล่นที่ แอลเอ แต่ไม่รุ่งจุดจบคือพเนจรสู่ ฮิวสตัน แล้วอีกหลายทีมจากนั้นไม่ว่า วอชิงตัน, ชาร์ล็อตต์ ฯลฯ เหตุผลของความล้มเหลวนั้นหรือ? คือเขาไม่ได้เป็นดาวเด่นพอ จนอาจมานั่งคิดว่าบางทีไม่ควรออกจาก ออร์แลนโด เลย"
"ทีนี้มาดู จอร์จ เริ่มกับ อินเดียนา จากนั้น โอกลาโฮม่า ซิตี้ และสู่แอลเอ สังกัด คลิปเปอร์ส ก็รอดูว่าเป็นอย่างไรต่อ"
อนึ่งเฮดโค้ช ด็อค ริเวอร์ส ของ คลิปเปอร์ส ขอรับผิดแทนทุกคนในทีมว่าเขาบริหารจัดการไม่ดีเอง โดยอ้างเรื่องปัญหาผู้เล่นเจ็บรบกวนทั้งปีส่งผลให้เคมีในทีมไม่กลมกล่อม หาใช่ความผิดส่วนบุคคลนักกีฬา
