เพลย์สุดท้ายตอนเหลือ 2.1 วินาที นักเก็ตส์ นำอยู่ 103-102 คะแนน แต่ เลเกอร์ส ได้ส่งบอลเข้าจากเบสไลน์ ใต้แป้นคู่ แล้วเฮดโค้ช แฟร้งค์ โวเกิ้ล วาดแผนให้ ราจอน รอนโด จ่ายลูกไปที่ว่างหน้าเส้นโค้งฝั่งซ้ายเพราะ เดวิส จะวิ่งตัดมารับแล้วจัมพ์ชู้ต ส่วน เลอบอรน เจมส์ ให้ดึงความสนใจไปอีรุงตุงนังแถวใต้แป้น 

ปรากฏว่าทุกอย่างเป็นไปตามคาด 'เอดี' วิ่งตัดจากขวามาซ้ายเหมาะเหม็งพร้อมโดดชู้ตหนีมือตัวประกบ  โยกิช ลูกย้อยลงห่วงสุดฉมังพร้อมเวลาที่หมดลง 

แน่นอนสร้างความเจ็บปวดใจแก่ผู้เล่นวัย 25 ปีมากๆเพราะอุตส่าห์เดาออกแล้วว่าใครจะปิดเกม แต่ก็ป้องกันช้าไปเสี้ยววินาที จน 11 จาก 30 คะแนน ของตัวเขาในช่วง 2:42 นาทีสุดท้ายไม่มีความหมาย

"คิดไว้แล้วหากไม่ใช่ 'เอดี' ก็ เลอบรอน จะเป็นคนชู้ตปิดเกม แต่ระหว่างการตั้งขบวนป้องกันเกิดการสื่อสารผิดพลาดนิดหน่อย แต่ก็มองว่าตัวเองพยายามขวางลำเต็มที่แล้ว คิดว่าผมไปทันพร้อมๆกับที่เขาปล่อยบอล แต่ต้องยอมหมอนั่นยิงดีด้วย - ยอดฝีมือมักยิงลูกสำคัญลงห่วง" โยกิช กล่าวหลังจบเกม 

https://twitter.com/NotoriousOHM/status/1307917235176972291

โยกิชไม่ถอดใจ

อย่างไรก็ตามออล-สตาร์ 2 สมัย ไม่ถอดใจเพราะตลอดการเพลย์ออฟ 2 รอบที่ผ่านมา ก็ตกเป็นฝ่ายตามหลังคู่แข่ง 1-3 เกมซีรี่ส์ แต่ก็แซงชนะหมด ต่างเพียงรอบชิงฯ ตะวันตก ผ่านไปสองเกมยังตีไข่ไม่แตกล้าหลัง 0-2 เกมซี่รี่ส์ 

"ยังไงเราก็เข้ามาฐานะรองบ่อน พวกคุณเรียกว่าอะไรนะหมารองบ่อนใช่ไหม? ที่ผมเข้าใจคือจากนี้เราจำเป็นต้องลุกขึ้นสู้ มันคือหนทางเดียว" 

"อย่างนัดล่าสุดมีช่วงที่คู่แข่งนำเรา 15 หรือ 16 แต้มนี่แหละ ทีมสามารถทิ้งเกมแล้วถอดใจได้เลยแต่ก็ไม่ทำ"

"ดังนั้นผมจึงคิดว่าเราต้องการนักสู้ ต่อให้ตามหลัง 30 แต้ม ก็ยังห้ามยอม คงจำเป็นต้องพยายามจนกว่าสิ้นเสียงสัญญาณหมดเวลา" 

เกมสามซีรี่ส์แข่งอังคารที่ 22 ก.ย.นี้ ราคาต่อ-รองเปิดแล้ว เลเกอร์ส ข่ม 6.5 แต้ม, สกอร์รวมสูง-ต่ำ 214 แต้ม