เอ่ยถึงฟุตบอล ลา ลีกา สเปน ฤดูกาลนี้ หลังผ่านไป 8 เกม ส่วนตัวแล้วเห็นว่ายังไม่มีทีมไหนทำผลงานได้โดดเด่นร้อนแรงเลย แม้กระทั่ง เรอัล มาดริด กับ แอต.มาดริด จ่าฝูงกับรองจ่าฝูง ก็ยังดูมีปัญหาอยู่ 

ผลงานชนะ 5 เสมอ 2 แพ้ 1 เก็บ 17 แต้มเท่ากันของสองอริร่วมเมือง หากเทียบกับมาตราฐานที่ผ่านมา, คุณภาพตัวผู้เล่น,มูลค่ ารวมของทีมที่ลงทุนไป ก็ยังไม่น่าประทับใจนัก 

แต่มีอยู่ทีมนึง หลังผ่านมา 8 เกม ผมยกให้เป็นเซอร์ไพรส์ในช่วงต้ นซีซั่นนี้เลย เวลานี้พวกเขาเกาะอยู่ในอันดับ 8 ของตาราง มี 12 แต้มจากผลงานชนะ 3 เสมอ 3 แพ้ 2 

ดูเผินๆไม่มีอะไรสะดุดตา ผลงานถือว่ากลางๆตามอันดั บตารางคะแนนที่อยู่ หากแต่เมื่อมันคือผลงานของที มอย่าง บาเลนเซีย ก็ให้รู้สึกแตกต่างออกไป 

สำหรับคอบอลสเปน ทุกคนทราบดีว่า 2 ฤดูกาลหลังมานี้ บาเลนเซีย ตกอยู่ในสถานะที่ย่ำแย่จริงๆ การเงินของพวกเขาง่อนแง่นมาตั้ งแต่ก่อนโควิดบุกโลก และเมื่อโควิดเข้ามา ทุกอย่างก็ระเนระนาด 

บาเลนเซีย ต้องรัดเข็มขัดหนักขึ้นกว่าเดิม จากที่ประหยัดอยู่แล้ว คราวนี้ถึงกับต้องขายนั กเตะแกนหลักเพื่อเอาตัวรอด 

ฤดูกาล 2020-21 ดาวรุ่งอนาคตไกล เฟร์ราน ตอร์เรส ถูกขายให้ แมนฯซิตี้, 3 มิดฟิลด์แกนหลักอย่าง ดานี่ ปาเรโฆ,ฟร็องซิส โกเกแล็ง และ จอฟเฟร่ ก็องด็อกเบีย โดนปล่อยให้ บียาร์เรอัล กับ แอต.มาดริด ,โรดรีโก้ โมเรโน่ ดาวยิงหมายเลข 1 ถูกขายให้ ลีดส์ ยูไนเต็ด ,รูเบน โซบริโน่ กองหน้าตัวสำรองชั้นดีถูกปล่ อยให้ กาดิซ 

ส่วนนักเตะขาเข้ามีย้ายเข้ามา 6-7 ราย แต่ทุกรายล้วนแล้วแต่เป็นนั กเตะเกรด บี ลบ และ ซี บางรายเคยมีชื่อเสียงแต่ก็อยู่ ในช่วงใกล้หมดสภาพ

บาเลนเซีย หันไปเน้นที่การดันนักเตะจากชุ ดเยาวชนขึ้นมา เช่น อี กังอิน,มานู บาเยโฆ,อูโก้ กียามอน,โตนี่ ลาโต้,เธียร์รี่ กอเรอา,ยูนูส มูห์ซ่า เล่นผสมกับตัวหลักที่ยังเหลื ออยู่ 

แต่เป็นที่รู้กันดีว่าในทุกๆช่ วงของการเปลี่ยนถ่ายของทีมฟุ ตบอลนั้นไม่มีอะไรง่ายเลย ขุมกำลังของทีมส่วนนึ งขาดประสบการณ์ ส่วนนึงฝีเท้ายังไม่พัฒนาถึ งระดับ ลา ลีกา ส่วนที่ฝีเท้าถึงอยู่ในระดับเล่ นได้ ก็ไม่ใช่เกรด เอ แถมยังมีจำนวนจำกัด ทำให้เทรนเนอร์ของทีมในเวลานั้ นอย่าง ฆาบี การ์เซีย ทำได้แค่ประคับประคอง

จากเป้าคว้าโควต้าเล่นฟุตบอลยุ โรป บาเลนเซีย ปรับมาเป็น “ขอไม่ตกชั้น” ซึ่งแม้จะกระทอนกระแท่น แต่ บาเลนเซีย ก็เอาตัวรอดจนได้ โดยคว้าอันดับ 13 ของตาราง เก็บ 43 คะแนน 

อย่างไรก็ตาม ระหว่างทางก่อนจบฤดูกาล 4 นัด ฆาบี การ์เซีย ก็ถูกปลดจากตำแหน่ง หลังเก็บได้ 3 แต้มจาก 6 นัดหลังสุด และสโมสรก็ตั้ง โบโร่ กอนซาเลซ เข้ามาคุมทีมชั่วคราวจนจบฤดู กาล 

ฆาบี การ์เซีย อำลาตำแหน่งไป แฟนๆของทีมต้องมาลุ้นอีกครั้งว่ าซัมเมอร์ 2020 ใครจะเข้ามากู้วิกฤตของทีม เพราะ โบโร่ นั้นถือเป็นคนในของสโมสร เขาเข้ามาทำแค่ชั่วคราวเหมือนช่ วงที่ผ่านมา 5 ครั้งก่อนหน้านี้เท่านั้น 

การเลือกเทรนเนอร์ใหม่เข้ามานั บเป็นงานที่ท้าทายอย่างยิ่ งของบอร์ดบริหารที่นำโดย อนิล มูร์ธี ประธานสโมสรเพราะ บาเลนเซีย ไม่มีเงินทุนให้ใช้จ่าย คนที่เข้ามาจะต้องทำงานภายใต้ข้ อจำกัดนี้ ซึ่งว่ากันตามความจริงแล้ว มันคือฝันร้ายของเทรนเนอร์ดีๆนี่ เอง ไม่สามารถเลือกซื้อนักเตะได้อย่ างที่ต้องการ ซ้ำร้ายขุมกำลังเดิมที่มีอยู่ ก็เหมือนว่าจะไม่มีเกรด เอ เลยสักคน 

แล้วโชคก็เข้าข้างกองเชียร์ ‘โลส เช’ แถมยังไม่ใช่โชคธรรมดา แต่ยังเป็นโชค 2 ชั้นเสียด้วย !!  

ชั้นแรก...บอร์ดบริหารตีโจทย์ แตก มูร์ธี เข้าใจ (สักที) ว่าปัญหาของ บาเลนเซีย อยู่ตรงไหน และทีมมีข้อจำกัดในการแก้ไขปั ญหา เขามองออกว่าสิ่งที่ บาเลนเซีย ต้องการมากที่สุดยามนี้ไม่ใช่ การเสริมทัพชั้นเลิศ เพราะนั่นเป็นไปไม่ได้เลย หากแต่ที่ทีมจำเป็นต้องมีก็คื อเทรนเนอร์ที่เหมาะสม 

ทำไมถึงเป็น บอร์ดาลาส ?

มูร์ธี ตระหนักว่า ด้วยงบประมาณที่มีจำกัด บาเลนเซีย จึงจำเป็นต้องเดิมพันกับศั กยภาพของคนสั่งการที่ข้างสนาม ไม่ใช่เอาเงินไปหว่านกับนักเตะ 

เขาต้องเลือกเทรนเนอร์ให้ดี คนที่เข้าใจถึงข้อจำกัด,มี ความเป็นผู้นำ,มีความสามารถด้ านแท็คติก ทั้งยังแบกรับความกดดั นจากผลการแข่งขันที่ย่ำแย่ได้ดี มีศักยภาพในการพลิกสถานการณ์ จากทรัพยากรที่มีจำกัด

และด้วยคุณภาพสมบัติข้างต้น กวาดตามองทั่วทั้งประเทศแล้ว ไม่มีใครที่เหมาะสมไปกว่า โฆเซ่ บอร์ดาลาส เลยแม้แต่คนเดียว ส่วนโชคชั้นที่ 2 ก็คือ บอร์ดาลาส ตอบตกลงรับงานเสียด้วย ทั้งๆที่ตอนเจราจากัน บอร์ดบาเลนเซียพูดแบบไม่อ้อมค้ อมว่า “ไม่มีงบให้ซื้อนักเตะ” 

บอร์ดาลาส มีผลงานที่โดดเด่นกับ เคตาเฟ่ ตลอดระยะเวลา 4 ปี เขาทำให้ทีมเล็กๆที่มีทรั พยากรนักเตะและงบประมาณจำกัด โดดเด่นขึ้นมา ไม่ต้องลุ้นหนีตกชั้นเหมือนที่ ผ่านมา ทั้งยังเคยได้ลุ้นพื้นที่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาล  2018-19 จนถึงนัดสุดท้าย ก่อนจะจบอันดับ 5 คว้าสิทธิไปเล่นรายการยูโรป้า ลีก ซึ่งเป็นผลงานที่ดีที่สุ ดในประวัติศาสตร์สโมสร 

บอร์ดาลาส กับ เคตาเฟ่ มีสไตล์การเล่นที่ชัดเจน ใช้ระบบการเล่นง่ายๆไม่ซับซ้อน, เน้นเกมรับแน่น,เล่นตามแท็คติก, เล่นเกมหนัก,เพรสซิ่งดุดัน,มี ระเบียบวินัยสูง 

ส่วนที่ บาเลนเซีย บอร์ดาลาส ยังยึดหลักการทำงานแบบเดิมเป็ นหลัก ใส่ระบบที่นักเตะทุกคนเล่นได้ เข้าใจง่ายอย่าง 4-4-2 ลงไป กำหนดหน้าที่ให้นักเตะทุกคน ให้รู้ว่าต้องทำอะไรในสนาม เน้นมุ่งไปในทิศทางการเล่นเดี ยวกัน 

พูดถึงแท็คติกหลักๆ ของ บาเลนเซีย ยุค บอร์ดาลาส นั้นมีแม้ความคล้ายคลึงกับ เคตาเฟ่ อยู่หลายส่วน แต่ก็ไม่เหมือนซะทีเดียว 

ที่ยังคงอยู่คือการตั้งเกมรั บเป็นบล็อคสูง ไม่รับต่ำ,เพรสซิ่งดุดันเริ่มตั้ งแต่แดน 3 , เกมรุกโต้กลับด้วยความเร็ว หากแต่เพิ่มเติมทั กษะความสามารถของ กอนซาโล่ เกเดส ในการทำเกมรุกลงไป ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่มีสมัยคุม เคตาเฟ่ 

ที่ บาเลนเซีย ทีมมีเปอร์เซนต์เล่นเกมรุกมากขึ้ นกว่าเดิม แม้จะยังรักษาความคงเส้นคงวาไม่ ได้ แต่ก็ถือว่าได้ถูกยกระดับขึ้ นมาจากฤดูกาลที่แล้ว ข้อสำคัญคือเมื่อเข้ามา บอร์ดาลาส มีมุมมองที่แตกต่างไปจากที่ทุ กคนคาด 

ทุกครายามมีเทรนเนอร์คนใหม่เข้ ามา หลังทีมมีฤดูกาลที่น่าผิดหวังสิ่ งที่มักเกิดขึ้นก็คือการปฏิวัติ ทีม ล้างบางนักเตะออกไป แต่ บอร์ดาลาส กลับไม่คิดเช่นนั้น เขาบอกว่าการปฏิวัติทีมไม่ใช่ เรื่องที่ดีนัก สิ่งที่ทีมต้องการคือความสงบ และการวิเคราะห์อย่างละเอียดถี่ ถ้วน 

บอร์ดาลาส เชื่อมั่นอยู่อย่างนึงว่านั กเตะบาเลนเซียมี ความสามารถมากกว่าที่แสดงออกมา ซึ่งเขาเริ่มงานตัวเองจากจุดนั้ น  ปลุกความเชื่อมั่นของนักเตะขึ้ นมา ชี้ให้นักเตะเห็นถึ งความสามารถของตัวเอง

เขาย้ำกับลูกทีมในการทำงานวั นแรกๆว่า “ผมไม่ใช่คนที่จะเข้ามาปฏิวัติ ทีม ผมไม่ได้สนับสนุนความคิดนี้ ”

ข้อนี้ทำให้นักเตะทุกคนรู้สึ กสงบ และมั่นคง นั่นทำให้พวกเขาพร้อมทำงานกับ บอร์ดาลาส อย่างเต็มที่ จนสะท้อนออกมาเป็นผลงานที่เกิ นคาดในช่วง 8 นัดแรก 

แต่หนทางยังอีกยาวไกล ยังมีอุปสรรคอีกมากรออยู่ ผลงานในวันนี้ แม้น่าชื่นใจ แต่ไม่อาจการันตีใดๆ ยังพูดไม่ได้ว่าประสบความสำเร็จ แค่ว่า บอร์ดาลาส เริ่มต้นได้ดีจนน่าประหลาดใจเท่ านั้น ซึ่งเหล่าแฟนๆไอ้ค้างคาวก็หวั งอย่างยิ่งว่ามันจะเป็นการต่ อยอดนำไปสู่การกลับมาของทีมรั กอีกครั้ง 

เจมส์ ลา ลีกา