สำหรับ “โรดริโก้ เดอ ปอล” โดยพาทีมชาติอาร์เจนติน่า ผ่านเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลก 2022 รอบชิงชนะเลิศ ได้สำเร็จ เขาถือเป็นหนึ่งฟันเฟืองสำคัญในแดนกลาง อาศัยพลังงานแบบวิ่งสู้ฟัด เป็นการสนับสนุนเพื่อนร่วมทีมคนอื่นให้สามารถเล่นได้ง่ายขึ้น
ช่วงนี้ เราลองไปดูเส้นทางลูกหนังของเขากันหน่อยว่า กว่าจะก้าวมาเป็นนักเตะระดับโลก ต้องผ่านอะไรมาบ้าง รวมไปถึงแนวทาง และวิธีคิด ในการเล่นฟุตบอลของเขา
“ชีวิตเปลี่ยนแปลงไป ... ตั้งแต่การจากไปของคุณปู่”
โรดริโก้ เดอ ปอล คือเด็กจากย่านซารานดี ที่แทรกตัวอยู่ในเมืองหลวงของประเทศอาร์เจนติน่า เขาชื่นชอบการเล่นฟุตบอลมาตลอด แน่นอนว่า ความประทับใจแรกที่มีต่อกีฬานี้ เกิดขึ้นตอนที่พลพรรค “ฟ้าขาว” บุกไปเล่นฟุตบอลโลก 1998 รอบสุดท้าย
“ผมเริ่มเล่นฟุตบอล เพราะความสนุก” เดอ ปอล เริ่มเล่า “ในความทรงจำ และรูปถ่ายเก่าๆ ปรากฏภาพที่ผมสวมเสื้อบอล และถือลูกบอลเอาไว้ นอกจากสิ่งเหล่านี้ ผมก็ไม่สนใจอะไรอีกแล้ว โดยส่วนหนึ่ง อาจเป็นเพราะครอบครัวของผม ไม่มีเงินเพียงพอที่จะซื้อเครื่องเกมอย่างเซก้า หรือเพลย์สเตชั่น”
กระทั่งอายุ 8 ขวบ เขาตบเท้าเข้าสู่ระบบเยาวชนของราซิ่ง คลับ หนึ่งในสโมสรที่ประสบความสำเร็จมากสุดในประเทศ ก่อนใช้เวลา 10 ปีเต็ม ในการพัฒนาฝีเท้า จนก้าวมาเล่นทีมชุดใหญ่เป็นผลสำเร็จ
เดอ ปอล บอกถึงจุดเริ่มต้นว่า “การเข้าทีมเยาวชนของราซิ่ง คลับ ไม่ใช่สิ่งที่ผมวางแผนเอาไว้ ผมลองไปทดสอบดูกับเพื่อนสนิท จากนั้น สโมสรถามว่าผมเล่นตำแหน่งอะไร ? ผมตอบกลับไปว่าตำแหน่งหมายเลข 10 นั่นเป็นการปักหมุด ในการเล่นเพลย์เมคเกอร์ของผม”
เมื่อย่างเข้าสู่วัยรุ่น เขาต้องเจอกับแบบทดสอบครั้งใหญ่ เมื่อปู่เสียชีวิตไปอย่างไม่มีวันกลับ ทำให้เขาต้องเพิ่มเติมความเข้มแข็ง เพื่อก้าวมาเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของครอบครัว
“การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น จากการที่ปู่เสียชีวิต ท่านเป็นที่พึ่งพาของเรา และมักส่งผมไปฝึกซ้อมฟุตบอลเสมอ ตอนนั้นผมอายุ 14 ปี ท่านเจ็บป่วย ก่อนจากโลกนี้ไป ส่งผลให้ผมเสียหลักไปเลย”
“การจากไปของปู่ ทำให้ผมตัดสินใจเอาจริงเอาจังกับการเล่นฟุตบอลมากขึ้น มันไม่ใช่แค่สิ่งที่ผมสามารถทำได้ แต่ผมต้องทำมัน เพื่อเป็นการช่วยเหลือครอบครัว ส่วนที่เหลือคือการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ รวมถึงการรับมือกับความพ่ายแพ้ในรูปแบบต่างๆ”
ความมุ่งมั่นครั้งนั้น ส่งเขามาค้าแข้งบนแผ่นดินยุโรป ทั้งกับบาเลนเซีย ในสเปน รวมถึง อูดิเนเซ่ ในอิตาลี โดยผลงานในศึกกัลโช่ เซเรีย อา เขาเคยครองอันดับ 1 ในหลายสถิติ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสรรค์โอกาสสำคัญ, การผ่านบอลทะลุเข้าในกรอบเขตโทษคู่แข่ง, การเลี้ยงบอลผ่านคู่แข่ง และการดวลชนะคู่แข่ง
“หากผมต้องเลือกระหว่างการยิงประตู กับการแอสซิสต์ ผมชอบอย่างหลังมากกว่า” เดอ ปอล ที่ปัจจุบันเล่นกับสโมสรแอตเลติโก้ มาดริด กล่าวถึงสไตล์การเล่นของตัวเอง ที่เน้นการสร้างสรรค์เกมให้เพื่อนร่วมทีมเข้าไปจบสกอร์
“ผู้คนมักจะมองไปที่การยิง และการแอสซิสต์ สำหรับผม กำลังมองหาสถิติการแย่งบอลกลับมาครองด้วย ผมชอบจ่ายบอลมากกว่ายิงประตู บางเวลา คุณต้องพาตัวเองไปอยู่ในการเข้าเสียบสกัด ผมไม่มีปัญหากับการเล่นแบบนั้น”
ปัจจุบัน เดอ ปอล กลายเป็นสมาชิกของทีมชาติอาร์เจนติน่า ชุดใหญ่ ก่อนประเดิมโทรฟี่แรกในเส้นทางลูกหนังของตัวเองกับแชมป์ โคปา อเมริกา ตามมาด้วยแชมป์ชนแชมป์อย่าง “ฟินาลิสซิมา” พร้อมกับผลงานอันน่าประทับใจ ล่าสุด เขาพาทีมบ้านเกิดผงาดเข้าไปเล่นฟุตบอลโลก 2022 รอบชิงชนะเลิศ
โดยกล่าวว่า “พวกเราเป็นส่วนหนึ่งของทีม ในการเรียกตัว และลงเล่น ถือว่าเป็นการเติมเต็มความฝันอย่างหนึ่ง สิ่งที่คุณรู้สึกคือความรับผิดชอบ ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเลย ในการเป็นตัวแทนของชาวอาร์เจนไตน์ 45 ล้านคน”
“นักเตะที่ถูกเลือกมาติดทีมชาติ คือกลุ่มคนที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยเล่นด้วย เราทำงานกับทีมงานโค้ช และผสมผสานสิ่งต่างๆเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งผู้เล่น, แนวคิด และช่วงเวลา สิ่งสำคัญคือ ทุกคนรู้ว่าถูกคาดหวังให้ทำอะไร”
เดอ ปอล ทิ้งท้าย
