อังกฤษ

    แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือทัพสิงโตพาทีมเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้เรียบร้อย ล่าสุดเพิ่งอุ่นเครื่องโดยอาศัยแกนหลักเป็นดาวรุ่งเสมอแชมป์โลก 4 สมัยอย่างเยอรมัน 0-0

    นัดก่อน มีกลุ่มแข้งอายุน้อยได้รับคำชมหลายราย ไม่ว่าจะเป็น จอร์แดน พิคฟอร์ด, รูเบน ลอฟตัส-ชีค และ แทมมี่ อบราฮัม

    อย่างไรก็ตาม ฟิล โจนส์ เป็นรายล่าสุดที่ถอนตัวออกไปแล้ว ทำให้นายใหญ่วัย 47 ปีดึงนักเตะจากทีมชุดยู-21 ขึ้นมาหลายรายทั้ง แองกัส กันน์, ลูอิส คุ๊ก และ โดมินิก โซลันกี้

    คาดว่าเกมนี้จะมีการปรับทัพบางตำแหน่ง โดยที่แน่ๆ โจ ฮาร์ท น่าจะได้โอกาสพิสูจน์ฝีมือแทน พิคฟอร์ด บ้าง

    บราซิล

    ด้านทัพแซมบ้าของ ตีเต้ ผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายแบบสบายๆ ตั้งนานแล้ว โดยล่าสุดก็เพิ่งอุ่นเครื่องถล่ม ญี่ปุ่น 3-1 จาก เนย์มาร์, มาร์เซโล่ และ กาเบรียล เชซุส

    นัดนี้ทีมแพทย์ของบราซิลยืนยันว่า ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ จอมทัพจาก ลิเวอร์พูล หายเจ็บพร้อมลงสนามได้แล้ว ขณะที่แกนหลักคนอื่นยังอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาเหมือนเดิม

    การจัดทัพก็คงใช้กลุ่มแข้งดีที่สุด มี ดาเนียล อัลเวส ยืนแบ็กขวา เช่นเดียวกันกับ เรนาโต้ ออกุสโต้ ที่จะกลับมาประจำแดนกลางอีกครั้ง ประสานกับ กาเซมิโร่ และ เปาลินโญ่  ส่วน คูตินโญ่ จะปั้นเกมรุกสนับสนุน เชซุส กับ เนย์มาร์ ขณะที่ เอแดร์ซอน นายประตู แมนฯ ซิตี้ จะต้องแย่งตำแหน่งกับ อลิสซอน ของ โรม่า

    11 ตัวจริงตามคาด

    อังกฤษ (3-5-2) : โจ ฮาร์ท - ไมเคิ่ล คีน, จอห์น สโตนส์, แกรี่ เคฮิลล์ - ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ลอฟตัส ชีค, เอริก ดายเออร์, เจค ลิเวอร์มอร์, แอชลี่ย์ ยัง - เจมี่ วาร์ดี้, มาร์คัส แรชฟอร์ด

    บราซิล (4-3-3) : อลิสซอน- ดาเนียล อัลเวส, มาร์กินโญส, ชูเอา มิรานด้า, มาร์เซโล่ - เรนาโต้ ออกุสโต้, กาเซมิโร่, เปาลินโญ่ -  ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, กาเบรียล เชซุส, เนยมาร์

    สนาม : เวมบลีย์ สเตเดี้ยม (ลอนดอน, อังกฤษ)