เชลซี

    สิงห์บลูส์ ซึ่งคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ มาแล้ว 6 ครั้งในรอบศตวรรษนี้มากที่สุดเท่ากับ อาร์เซน่อล แพ้เพียงเกมเดียวจาก 12 นัดในรายการนี้ (ชนะ 8 เสมอ 3)

    กุนซือ แฟร้งค์ แลมพาร์ด จะยังไม่มี แทมมี่ อบราฮัม กองหน้าดาวซัลโวที่เจ็บเข่า ส่วน เอ็นโกโล่ ก็องเต้, คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย และ คริสเตียน พูลิซิช ก็ยังชวดต่อไปเหมือนเดิม

    นอกจากนี้ อันเดรียส คริสเตนเซ่น ก็เป็นอีกรายที่ไม่สามารถลงสนามได้เนื่องจากเจ็บมาจากเกมล่าสุด แต่คาดว่า เกปา อาร์รีซาบาลาก้า จะได้คืนตัวจริงเฝ้าเสา หลังจากถูกดร็อปในเกมพรีเมียร์ลีกมาหลายสัปดาห์แล้ว

    ลิเวอร์พูล

    หงส์แดงแพ้มา 2 จาก 3 นัดหลังสุดรวมทุกรายการ พวกเขาเอาชนะได้เพียงแค่เกมเดียวจาก 6 นัดเยือนหลังสุดในเอฟเอ คัพ (เสมอ 2 แพ้ 3)

    เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมันจะได้ โจ โกเมซ ฟิตกลับมมาอีกครั้ง หลังเจ็บเล็กน้อยจนพลาดลงเล่นในเกมแพ้ วัตฟอร์ด อย่างน่าเซอร์ไพรส์

    นอกจากนี้ เจมส์ มิลเนอร์ ก็จะคืนทีม หลังหายหน้าไปตลอด 2 นัดหลังสุด แต่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (เอ็นหลังหัวเข่า), นาบี เกอิต้า (สะโพก) และ เซอร์ดาน ชากิรี่ (น่อง) ยังชวดเหมือนเดิม ขณะที่ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ก็ติดทีมยู-19 ไปแข่งยูฟ่า ยูธ ลีก รอบ 16 ทีมกับ เบนฟิก้า ที่โปรตุเกส

    11 ตัวจริงตามคาด

    เชลซี (4-3-3) : เกปา อาร์รีซาบาลาก้า - รีซ เจมส์, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, เคิร์ท ซูม่า, เอแมร์ซอน - มาเตโอ โควาซิช, จอร์จินโญ่, เมสัน เมาท์ - เปโดร โรดริเกซ, มิชี่ บาตชูอายี่, วิลเลี่ยน

    ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อาเดรียน - เนโก้ วิลเลี่ยมส์, โฌแอล มาติป, เดยัน ลอฟเรน, เจมส์ มิลเนอร์ - อดัม ลัลลาน่า, เปโดร ชิริเบย่า, เคอร์ติส โจนส์ - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ทาคูมิ มินามิโนะ, ดิว็อก โอริกี้

    ผู้ตัดสิน : คริส คาวานาฟ

    เชลซี ฟอร์มไม่ดีเลยในช่วงหลัง แม้เกมนี้จะได้เฝ้ารัง แต่ ลิเวอร์พูล เองก็เน้นขึ้นกว่ารอบก่อนหน้านี้เยอะ เหล่านักเตะจากทีมชุดใหญ่ก็จะได้ลงเล่นสลับกับดาวรุ่งบางรายในนัดนี้ เชื่อว่าหงส์แดงไม่ได้เป็นรองสักเท่าไหร่ และน่าจะไม่แพ้ในเวลา 90 นาที

    ผลที่คาด

    เชลซี เสมอ ลิเวอร์พูล 2-2