ฝรั่งเศส

ดีดีเย่ร์ เดส์ช็องส์ พาทีมลงเล่นหนล่าสุดเมื่อปลายเดือนมีนาคมด้วยการบุกชนะ บอสเนีย 1-0 ในรายการฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนยุโรป

สภาะทีมยังพลาดใช้งาน โตมาส์ เลมาร์ แยวรุกที่ยังบบาดเจ็บต้นขาน่าจะซ้อมปลายสัปดาห์นี้ ในกรณีของนักเตะ เชลซี อาทิ เอ็นโกโล ก็องเต้, เกิร์ต ซูม่า และ โอลิวิเย่ร์ ชีรูด์ ต่างได้พักในนัดนี้

ระบบการเล่นคาดว่าเป็น 4-4-2 แบบ 'ไดมอนด์' มี อองตวน กรีซมันน์ ทำเกมหลัง คาริม เบนเซม่า และ คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้

เวลส์

โรเบิร์ต เพจ ทำหน้าที่ ไรอัน กิ๊กส์ ที่พลาดคุมทีมเพราะมีคดีความ ซึ่งผลงานล่าสุดในเวที ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนยุโรปคือการเปิดรังชนะ สาธารณรัฐเช็ก 1-0

นัดนี้คงไม่ใช้งาน อารอน แรมซี่ย์, โจ อัลเลน และ เบน เดวิส เป็นตัวจริงตั้งแต่แรกเพราะทั้งสามรายเพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บ แต่ในราย แกเร็ธ เบล, แดเนียล เจมส์ และ แฮร์รี่ วิลสัน คงนำทีมในแนวรุก

11 ผู้เล่นตามคาด

ฝรั่งเศส (4-3-1-2) : อูโก้ โยริส - แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์, ราฟาแอล วาราน, เพรสแนล คิมเพมเบ้, ลูกัส แอร์กน็องเดซ - ปลอ ป็อกบา, โกร็องแต็ง โตลิสโซ่, อาเดรียง ราบิโอต์ - อองตวน กรีซมันน์ - คาริม เบนเซม่า, คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้

เวลส์ (3-4-2-1) : แดเนียล วอร์ด - คริส เมแฟม, โจ โรดอน, ทอม ล็อคเยอร์ - คอนเนอร์ โรเบิร์ตส์, จอนนี่ วิลเลียมส์, อีธาน แอมพาดู, นีโค วิลเลียมส์ - แกเร็ธ เบล, แดเนียล เจมส์ - แฮร์รี่ วิลสัน

สนาม : อัลลิอันซ ริเวียร่า, นีซ 

ฝรั่งเศส ครบเครื่องกว่ามากเกมนี้ลงเล่นในประเทศตนเองด้วยจะเดินหน้ากดดัน เวลส์ อย่างต่อเนื่อง เวลส์ อาจจะมาสู้เต็มเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนลุย ยูโร แต่หากมองที่ศักยภาพและนักเตะโดยรวม ตราไก่ ดีกว่าจริงๆ แนวรุก เลส์ เบลอส์ น่าจะดุดันขึ้นด้วย เลยเชื่อว่า ฝรั่งเศส ได้เฮแน่นอน

ผลที่คาด : ฝรั่งเศส ชนะ 3-0