ฝรั่งเศส

ซิลแว็ง ริโปลล์ กุนซือ ฝรั่งเศส พาทีมเข้ารอบสุดท้ายมาในฐานะแชมป์กลุ่มเอชในรอบคัดเลือก ไม่แพ้เลยตลอด 10 เกมที่ลงสนาม โดยทีมใช้ทัวร์นาเม้นต์ โมริซ เเรเวลโล่ ทัวร์นาเม้นต์ เป็นการเตรียมพร้อม ซึ่งทีมจบอันดับ 3 ของรายการ

สภาพทีมไม่มี เกนแต็ง แมร์แล็ง กับ ซาช่า โบอี้ สองกองหลังที่เจ็บถอนตัวไป แต่แข้งที่แฟนบอลคุ้นหูติดทีมมาครบทั้ง ปิแอร์ กาลูลู, โลอิก บาเด้, เคเฟรน ตูราม และ อามีน กูอีรี่ ติดทีมมาครบ

อิลล็อง เมส์ลิเยร์ ยืนผู้รักษาประตู กองหลัง บาโฟเด้ ดิยากาเต้, ปิแอร์ กาลูลู, โลอิก บัลเด้ และ นีลส์ เอ็นกุนกู ประสานงาน มิดฟิลด์มี เคเฟรน ตูราม, แม็กซ็องซ์ กาเกเร่ต์ และ เอ็นโซ่ เลอ ฟี กองหน้า รายาน แชร์กี้, อามีน กูอีรี่ และ มิเชล โอลิเซ่ ล่าตาข่าย

อิตาลี 

เปาโล นิโคลาโต้ เทรนเนอร์ อิตาลี ทีมแชมป์กลุ่มเอฟ เข้ามาเล่นรอบสุดท้ายโดยไม่แพ้ใครในรอบคัดเลือกเช่นกัน โดยทีมเรียกแข้งดังติดทีมครบครัน โดยมีถึง 8 คนที่เคยก้าวไปเล่นทีมชุดใหญ่มาแล้วด้วย

เกมนี้จะมี มาร์โก แคร์เนเซ็คคี่ เฝ้าเสา กองหลัง จอร์โจ้ สกัลวินี่, มัตเตโอ โลวาโต้ และ ลอเรนโซ่ ปิโรล่า เป็นสามประสาน แดนกลาง ราอุล เบลลาโนว่า, ฟาบิโอ มิเร็ตติ, นิโกโล่ โรเวลล่า, ซานโดร โตนาลี่ และ เดสตินี่ อูโดกี้ ประสานงาน กองหน้า นิโกโล่ คัมเบียกี้ กับ ลอเรนโซ่ โคลอมโบ ล่าตาข่าย

11 ผู้เล่นตามคาด

ฝรั่งเศส (4-3-3) : อิลล็อง เมส์ลิเยร์ - บาโฟเด้ ดิยากาเต้, ปิแอร์ กาลูลู, โลอิก บัลเด้, นีลส์ เอ็นกุนกู - เคเฟรน ตูราม, แม็กซ็องซ์ กาเกเร่ต์, เอ็นโซ่ เลอ ฟี - รายาน แชร์กี้, อามีน กูอีรี่, มิเชล โอลิเซ่

อิตาลี (3-5-2) : มาร์โก แคร์เนเซ็คคี่ - จอร์โจ้ สกัลวินี่, มัตเตโอ โลวาโต้, ลอเรนโซ่ ปิโรล่า - ราอุล เบลลาโนว่า, ฟาบิโอ มิเร็ตติ, นิโกโล่ โรเวลล่า, ซานโดร โตนาลี่, เดสตินี่ อูโดกี้ - นิโกโล่ คัมเบียกี้, ลอเรนโซ่ โคลอมโบ

สนาม : คลูจ อารีน่า, คลูจ-นาโปก้า

ผู้ตัดสิน : อัลลาร์ด ลินฮูต (เนเธอร์แลนด์)

ความน่าจะเป็นของเกม

สองทีมที่ถูกมองว่ามีโอกาสคว้าแชมป์มาเจอกัน ฝรั่งเศส ถือว่าแนวรุกอันตรายที่เดียว แต่ว่าแผงกองกลางของ อิตาลี แต่ละคนถือว่าไม่ธรรมดาชื่อชั้นแทบจะดูดีกว่าด้วยซ้ำ เกมเปิดสนามแบบนี้คงไม่มีใครอยากจะแพ้ ดูแล้วคงเล่นกันแบบระวังตัวและน่าจะแบ่งแต้มกันไป

ผลที่คาด

ฝรั่งเศส เสมอ อิตาลี 1-1