อังกฤษ

หนึ่งเดือนหลังจากที่โชว์ฟอร์มเอาชนะ อิตาลี แกเร็ธ เซาธ์เกต ก็ต้องมีลูกทีมถอนตัวไปถึง 5 คน นำโดย จู๊ด เบลลิงแฮม ที่บาดเจ็บไหล่ เช่นเดียวกับ ลูอิส ดังค์, ลีวาย โคลวิลล์, เจมส์ แมดดิสัน,  คัลลั่ม วิลสัน ขณะที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด กับ แคลวิน ฟิลลิปส์ มาเข้าแคมป์ช้ากว่าคนอื่นด้วยเหตุผลส่วนตัว

จอห์น สโตนส์, เบน ชิลเวลล์ และ ลุค ชอว์ ก็ยังบาดเจ็บอยู่ ขณะที่ รีซ เจมส์ นั้นทาง เชลซี มีการตกลงกับทีมชาติว่าจะขอใช้เวลาเพื่อฟื้นฟูระดับความฟิตกับสโมสร นั่นทำให้ ริโก้ ลูอิส และ เอซรี่ คอนซ่า ถูกเรียกตัวติดธงครั้งแรก เช่นเดียวกับ โคล พาลเมอร์ ที่ได้รับประโยชน์จากการมองข้ามทั้ง ราฮีม สเตอร์ลิง และ เจมส์ วอร์ด-เพราส์ เช่นกัน

แม้ตัวเลือกของ เซาธ์เกต จะมีจำกัด แต่เขาก็สามารถทดลองผู้เล่น ซึ่งอาจได้เห็น แซม จอห์นสตัน, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, จาร์ร็อด โบเว่น และ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ได้รับโอกาส

มอลตา

สำหรับ ทีมของของเทรนเนอร์ มิเคเล่ มาร์โคลินี่ เรียกผู้เล่นมาเข้าแคมป์ 24 คน โดย เคมาร์ รีด ตัวรุกที่เกิดในจาเมกา ซึ่งค้าแข้งในมอลตามาตั้งแต่ปี 2016 ถูกเรียกติดธงครั้งแรกหลังได้รับสัญชาติในช่วงปลายเดือนตุลาคม

ตัวเด่นๆ อย่าง เท็ดดี้ ทอยม่า และ โจดี้ โจนส์ ก็อยู่ในทีมหลังไม่ได้เล่นในเดือนตุลาคม โดยรายแรกทำ 4 ประตู และ 2 แอสซิสต์ จาก 10 เกมในลีก เอิง กับ แร็งส์ ในฤดูกาลนี้

11 ตัวจริงตามคาด

อังกฤษ (4-3-3) : แซม จอห์นสตัน - ไคล์ วอล์คเกอร์, มาร์ค เกฮี, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, คีแรน ทริปเปียร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, คอเนอร์ กัลลาเกอร์ - จาร์ร็อด โบเว่น, แฮร์รี่ เคน, ฟิล โฟเด้น

มอลตา (3-4-1-2) : เฮนรี่ โบเนลโล่ - สตีฟ บอร์ก, ฌอง บอร์ก, เอ็นริโก้ เปเป้ - เคน อัททาร์ด, นิโคไล มุสแคต, แม็ทธิว กีเยาเมียร์, ไรอัน คาเมนซูลี่ - เท็ดดี้ ทอยม่า - โจดี้ โจนส์, พอล เอ็มบง

ผู้ตัดสิน : หลุยส์ โกดินโญ่ (โปรตุเกส)

อังกฤษ อาจสภาพทีมไม่พร้อมอยู่บ้าง แต่ตัวที่เรียกมาติดธงก็ยังถือว่าระดับไม่ได้ต่างกัน แถมนัดแบบนี้ผู้เล่นเหล่านั้นจะใส่เต็มเหนี่ยวเพื่อพิสูจน์ตัวเองด้วย ฝั่ง มอลตา ก็ไม่ได้มีพิษสงอะไร มองว่าพลพรรค สิงโตคำราม  มีลุ้นถล่มขาดลอยได้เลย

ผลที่คาด

อังกฤษ ชนะ มอลตา 5-0