แมนฯ ซิตี้

เรือใบ กำลังมองหาโอกาสเข้ารอบชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ เป็นปีที่ 2 ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 3 ในประวัติศาสตร์สโมสร โดยก่อนหน้านี้เคยทำได้ในปี 1933-93 และ 1955-56

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือชาวสเปน จะต้องประเมิน เออร์ลิง ฮาลันด์, เควิน เดอ บรอยน์ และ มานูเอล อคานจี หลังทั้งหมดต้องออกจากสนามก่อนถึงช่วงดวลจุดโทษในเกมแชมเปี้ยนส์ลีก กลางสัปดาห์

สำหรับ ไคล์ วอล์คเกอร์ ที่เพิ่งหายเจ็บเอ็นหลังหัวเข่ากลับมาและเล่นครบ 120 นาทีกับ เรอัล มาดริด ก็ต้องประเมินความพร้อมเช่นกัน แต่ จอห์น สโตนส์ และ นาธาน อาเก้ น่าจะกลับมาพร้อมลงสนามแล้ว ส่วนตำแหน่งผู้รักษาประตู สเตฟาน ออร์เตก้า รับสัมปทานในรายการนี้

เชลซี

สิงห์บลูส์ ตกรอบ 5 จาก 6 ครั้งหลังสุดที่ต้องพบกับทีมแชมป์เก่าเอฟเอ คัพ ทว่าพวกเขาก็เอาชนะได้ในครั้งล่าสุดที่พบกับทีมแชมป์เก่า โดยเชือด แมนฯ ยูไนเต็ด 1-0 ในรอบก่อนรองชนะเลิศ เมื่อปี 2017

เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ จะยังขาดทั้ง รีซ เจมส์, คริสโตเฟอร์ เอ็นกุนกู, เลสลี่ย์ อูโกชุควู, เวสเล่ย์ โฟฟาน่า และ โรมีโอ ลาเวีย ที่บาดเจ็บทั้งหมด ขณะที่ เชซาเร่ คาซาเด ติดคัพไท

ในรายของ ราฮีม สเตอร์ลิง, โรเบิร์ต ซานเชซ (ป่วยทั้งคู่), อักเซล ดิซาซี่ และ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ (ปัญหาเล็กน้อยที่ไม่ระบุเจาะจง) ซึ่งพลาดเกมวันจันทร์ที่ถล่ม เอฟเวอร์ตัน จะต้องรอประเมินก่อนเกม ส่วน ลีวาย โคลวิลล์ นั้นหายหน้ามาตลอด 6 เกมหลังสุดจากปัญหาที่นิ้วเท้า

11 ตัวจริงตามคาด

แมนฯ ซิตี้ (4-1-4-1) : สเตฟาน ออร์เตก้า - ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, รูเบน ดิอาส, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล - โรดรี้ เอร์นานเดซ - ฟิล โฟเด้น, เควิน เดอ บรอยน์, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, เฌเรมี่ โดกู - เออร์ลิง ฮาแลนด์

เชลซี (4-2-3-1) : จอร์เจ เปโตรวิช - มาโล กุสโต้, เทรโวห์ ชาโลบาห์, ติอาโก้ ซิลวา, มาร์ก กูกูเรย่า - มอยเสส ไกเซโด้, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ - โคล พาลเมอร์, คอเนอร์ กัลลาเกอร์, มิไคโล มูดริค - นิโกลัส แจ็คสัน

ผู้ตัดสิน : ไมเคิ่ล โอลิเวอร์

แมนฯ ซิตี้ อาจดูเหนือกว่าก็จริง แต่การเจอ เชลซี ในฤดูกาลนี้นั้นเรียกว่ากินไม่ลงเลย แถมนัดนี้คือโอกาสลุ้นถ้วยแชมป์เดียวที่เหลือของ สิงห์บลูส์ ด้วย มองว่ายังไงคงใส่เต็มเหนี่ยวแน่ เชื่อว่าพอมีลุ้นเสมอในเวลาปกติได้ หรือหากแย่ก็ไม่น่าแพ้ขาด

ผลที่คาด

แมนฯ ซิตี้ เสมอ เชลซี 2-2