แมนเชสเตอร์ ซิตี้

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า พาทีมทำผลงานดีต่อเนื่อง เกมล่าสุดถล่ม เซาธ์แฮมป์ตัน 6-1 ส่วนใน ชปล ก็บุกไปเอาชนะ ชัคตาร์ 3-0 นำจ่าฝูง

เกมนี้ กุนซือชาวสแปนิชยังไม่มี เคลาดิโอ บราโว่ และ เอเลียควิม ม็องกาล่า ที่เจ็บยาว ส่วน เควิน เดอ บรอยน์ เจ็บเพิ่ม

แต่พอมีข่าวดีที่ อิลคาย กุนโดกัน กับ นิโกลัส โอตาเมนดี้ หายเจ็บพร้อมเป็นตัวเลือกให้กับทีม

ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค

เปาโล ฟอนเซก้า กุนซือชาวโปรตุเกส มีผลงานในลีกที่ดีล่าสุดเชือด ดินา โมเคียฟ 2-1 แต่ใน ชปล. โดน ซิตี้ บุกยำ 0-3 ทำให้เพียงมี 2 คะแนน

ความพร้อมจะได้ตัว บอนดาร์ วาเลรี่ ดาวรุ่งของทีมพ้นโทษแบน 1 เกม นอกจากนั้นยังมีข่าวดีที่ มาร์ลอส และ ไตซอน สองแข้งบราซิลมีชื่อเดินทางมากับทีมด้วย

11 ผู้เล่นตามคาด

แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน - ไคล์ วอล์คเกอร์, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, เอเมอริก ลาปอร์กต์, แบ็งฌาแม็ง เมนดี้ - แบร์นาร์โด้ ซิลวา, แฟร์นันดินโญ่, ดาบิด ซิลบา - ราฮีม สเตอร์ลิง, กาเบรียล เชซุส, เลรอย ซาเน่

ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค (4-2-3-1) : อังเดร เปียตอฟ - บ็อกดาน บุตโก้, ดาวิต โคโชลาว่า, ยาโรสลาฟ ราคิตสกี้, อิสไมลี่ - มายคอน, ทาราส สเตปาเนนโก้ - มาร์ลอส, อลัน ปาทริค, ไตซอน - จูเนียร์ โมราเอส 

สนาม :   เอติฮัด สเตเดียม

ผู้ตัดสิน : วิคเตอร์ คาสไซ (ฮังการี)

ซิตี้ เหนือกว่าชัดเจนทั้งนักเตะและการเล่นในถิ่นตนเองแบบนี้ แม้ว่า ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค จะไม่ธรรมดาแต่เกมนี้มาเยือนแถมแนวรับยังหละหลวมเสียตลอดเลยมองว่าคงต้านความแรงของ เรือใบสีฟ้า ไม่ไหว และคงแพ้ออกไปตามคาด

ผลที่คาด : แมนฯ ซิตี้ ชนะ 3-0