ผจก.ทีม แกเร็ธ เซาธ์เกต กำลังจะนำ 'สิงโตคำราม' ลงเตะเกมตัดเชือกฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ที่อาจจะเป็นหนเดียวของชีวิตท้าชนกับ โครเอเชีย กลางสัปดาห์นี้ (11 ก.ค.) 

ดูสิว่าหากวัดตัว-ต่อ-ตัว กับทีมชุดเมื่อ 28 ปีก่อน ซึ่งพ่ายต่อเยอรมัน ตะวันตก แบบน่าเจ็บใจในการดวลจุดโทษ ชุดไหนควรผ่านไปชิงชนะเลิศ 

ทีมชาติอังกฤษชุดเวิลด์ คัพ 2018

ผู้รักษาประตู 

เวิลด์ คัพ#1990 : ปีเตอร์ ชิลตัน (40 ปี, ดาร์บี้) 

หนึ่งในผู้รักษาประตูที่ดีสุดชาวอังกฤษ รวมถึงติดธงมากสุดประวัติศาสตร์ 125 นัด ทั้งนี้เจ้าตัวโลดแล่นตั้งแต่เกิดมากว่า 4 ทศวรรษ พร้อมดีกรี 2 แชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ กับสโมสร ฟอเรตส์ 

เวิร์ล คัพ#2018 : จอร์แดน พิคฟอร์ด (24 ปี, เอฟเวอร์ตัน)  

พิคฟอร์ด มีความเจิรญเติบโตในอาชีพตลอด 5 ปี หลังสุด ใครจะเชื่อว่ามือกาวที่โดนส่งไปเล่นแบบยืมตัวกับทีมนอกลีก กำลังจะขึ้นสู่ทำเนียบจอมหนึบสหราชอาณาจักรที่ประสบความสำเร็จมากสุดตลอดกาลคนหนึ่ง 

จอมหนึบค่าย เอฟเวอร์ตัน อาจเพิ่งเดบิวต์ในถิ่น กูดิสัน พาร์ค แต่ก็มีผลงานตามสถิติดีสุดในหมู่จอมหนึบผู้ดี ซึ่งความไว้ใจของ ผจก.ทีม แกเร็ธ เซาธ์เกต ก็ได้รับการตอบแทนนทัวร์นาเมนต์ที่รัสเซียทั้งเซฟโทษ รอบ 16 ทีม เจอกับ โคลอมเบีย หรือ สามเซฟสำคัญรอบก่อนรองชนะเลิศหักด่าน สวีเดน  

ชิลตัน (ซ้าย) ประกบ พิคฟอร์ด (ขวา) 

กองหลัง

เวิลด์ คัพ#1990 : มาร์ก ไรท์ (26 ปี, ดาร์บี้)  

ประตูโทนของ ไรท์ ในนัดสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่ม ให้อังกฤษอาชนะ อียิปต์ คือจุดเปลี่ยนสำคัญส่ง 'สิงโตคำราม' ทะลุเตะน็อคเอาต์หลังจากประเดิม 2 นัดแรกด้วยผลเสมอ ไอร์แลนด์ กับ ฮอลแลนด์

ไรท์ เป็นกองหลังสไตล์อ่านเกมเฉียบขาด ขึ้นเกมจากแดนหลังได้อย่างราบเรียบ จนกลายเป็นกองหลังชาวอังกฤษค่าตัวแพงสุดในซัมเมอร์นั้นเมื่อย้ายสู่ ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 2.2 ล้าน ปอนด์ 

เวิร์ล คัพ#2018 : ไคล์ วอลเกอร์ (28 ปี, แมนฯ ซิตี้) 

แม้ว่าจะโดนปรับจาก แบ็กขวามาเล่นสต็อปเปอร์ขวา ทว่ากองหลังความคล่องตัวสูงก็ถือว่าสอบผ่าน แม้ช่วงแรกๆจะออกลูกเป๋ให้เห็นบ้าง ในเกมรอบแบ่งกลุ่มที่เสียจุดโทษแบบไม่ละเอียดต่อ ตูนิเซีย

ดาวเตะจาก แมนฯ ซิตี้ เป็นอรกคนที่เส้นทางอาชีพเติบโตจากทีมเล็ก สู่ค่ายใหญ่ไล่จาก เชฟฯ ยูไนเต็ด, ท็อตแน่ม และปัจจุบันปักหลัก ณ เอติฮัด สเตเดี้ยม ด้วยค่าหัวสูงถึง 50 ล้าน ปอนด์ มีส่วนกับแชมป์พรีเมียร์ลีก และ คาราบาว คัพ ฤดูกาลล่าสุด 

ไรท์(ซ้าย) กับ วอลเกอร์ (ขวา) 

เวิลด์ คัพ#1990 : เทอร์รี่ บุตเชอร์ (31 ปี, เรนเจอร์ส)  

ภาพติดตาแฟนนานุแฟนคือกองหลังใจสู้ที่สวมเสื้อขาวที่เปื้อนเลือด แล้วใช้ผ้ากอซพันศรีษะลงสนามในเกมพบกับ สวีเดน 

ซึ่งไม่ได้มีดีแค่หัวจิตหัวใจ แต่ฝีเท้าก็ดีกรีเคยเป็นแชมป์ ยูฟ่า คัพกับทีม อิปสวิช หรือช่วย เรนเจอร์ส ซิว 3 สกอตติช พรีเมียร์ชิพ  

เวิร์ล คัพ#2018 : จอห์น สโตนส์  (24 ปี, แมนฯ ซิตี้) 

สโตนส์ อาจผลงานติดหล่มเป็นแค่สำรองของ แมนฯ ซิตี้ ช่วงกลางถึงปลายฤดูกาล 2017-18 แต่เขายังได้รับความเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมจาก ผจก.ทีมชาติ แกเร็ธ เซาธ์เกต ให้เป็นตัวหลักที่ รัสเซีย 

ด้วยทักษะการใช้เท้าที่ยอดเยี่ยม รวมถึงขึ้นเกมจากแนวรับได้ ยังมีทีเด็ดเรื่องพังตาข่ายการันตี 2 สกอร์นัดถล่ม ปานามา 6-1 รอบแบ่งกลุ่ม 

บุตเชอร์ นักบอลหัวเลือด (ซ้าย) ภาพติดตา ขณะที่ สโตนส์ (ขวา) ตอนนั้นยังไม่เกิด

เวิลด์ คัพ#1990 : เดส วอลเกอร์ (24 ปี, ฟอเรสต์)  

ได้รับอานิสงค์ติดทีมชาติมา เวิลด์ คัพ 1990 เพราะเป็นตัวหลักของสโมสรพลังในตอนนั้นอย่าง ฟอเรสต์ จนมีเพลงที่แต่งมายกย่องว่า "แกไม่มีทางชนะ... เดส วอลเกอร์!" ก็เพราะแย่งบอลเก่งแถมสกัดแม่น

วอลเกอร์ รับโอกาสย้ายไปเล่นที่ เซเรีย อา เมื่อปี 1992 แต่ไมรุ่งจึงกลับมาซบตัก เชฟฯ เว้นส์เดย์ แทนในฤดูกาลต่อจากนั้น  

เวิร์ล คัพ#2018 : แฮร์รี่ แม็คไกวร์ (25 ปี, เลสเตอร์) 

ทะลุปล้องมาเป็นตัวจริงของทีมชาติอังกฤษแบบเหลือเชื่อเช่นกันด้วยคุณสมบัติแข็งแกร่ง, ถึก และเล่นลูกกลางอากาศโดดเด่น โดยเฉพาะให้ขึ้นไปขวิดในกรอบคู่แข่ง 

เจ้าของส่วนสัน  6 ฟุต-4 นิ้ว เป็นคนเบิกร่องนัดชนะ สวีเดน 2-0 รอบที่ผ่านมา ทั้งนี้ต้องบอกว่าพัฒนาการตลอด 1 ฤดูกาลนับจากย้ายพ้น ฮัลล์ สู่ค่าย เลสเตอร์ ช่วยได้มาก  

วอลเกอร์ (ซ้าย) เด่นในทัวร์นาเมนต์ปี 1990 ขณะที่ แม็คไกวร์ (ขวา) ค่อยๆสร้างชื่อๆ

เวิลด์ คัพ#1990 : พอล พาร์เกอร์ (26 ปี, คิวพีอาร์)  

พิสูจน์ตัวเองจนจองตำแหน่งแบ็กขวา แล้วสร้างผลงานโดดเด่นที่ เวิลด์ คัพ ฉบับอิตาเลี่ยน เขาเป็นตัวขับเคลื่อนริมเส้นได้ทั้ง 90 นาทีไม่หมด  

ซึ่งจากความโดดเด่นใต้ชายคา ลอฟตัส โร้ด จึงถูกแมนฯ ยูไนเต็ด ซื้อมาด้วยค่าตัว 1.5 ล้าน ปอนด์ พร้อมซิวแชมป์ลีกปี 1991  

เวิร์ล คัพ#2018 : คีแรน ทริปเปียร์ (27 ปี, ท็อตแน่ม) 

อีกหนึ่งขุนพลอ่อนประสบการณ์ระดับนานาชาติ ทว่ามาแจ้งเกิดเต็มตัวกับทัวร์นาเมนต์ที่รัสเซีย นับเป็นอาวุธเด็ดของ 'สิงโตคำราม' จากการครอสเท้าขวา 

อดีตเด็กปั้น แมนฯ ซิตี้ ทว่าแจ้งเกิดไม่สำเร็จจึงต้องระเห็จพึ่งใบบุญ เบิร์นลี่ย์ การเพาะบ่มจนสุกงอมทำให้ก้าวสู่แข้งโปรด เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ในสังกัด ท็อตแน่ม  

พาร์เกอร์ (ซ้าย) ขึ้นเกมไม่มีหมดแรง ส่วน ทริปเปียร์ (ขวา) บอลครอสอันตราย

เวิลด์ คัพ#1990 : สจ๊วร์ต เพียร์ซ (28 ปี, ฟอเรสต์)  

หนึ่งในเพชรฆาตที่สังหารจุดโทษพลาดเกมพ่าย เยอรมัน รอบตัดเชือก ทว่าหากตัดเรื่องนี้ออกไปนี่คือตัวขึ้นเกมทางกราบซ้ายที่ทรงประสิทธิภาพแถมด้วยทีเด็ดฟรีคิก

เพียร์ซ มีหัวใจนักสู้ แถมปลุกระดมในห้องแต่งตัวจนเพื่อนพ้องมีลูกบ้าตามไปด้วย 

เวิร์ล คัพ#2018 : แอชลี่ย์ ยัง (33 ปี, แมนฯ ยูไนเต็ด) 

แม้จะโดนค่อนขอดว่าอยู่ในโหมดสูงวัย แต่คนนามสกุล ยัง บนขวบปีที่ 33 กลับสมารถเล่นวิงแบ็กซ้ายได้แบบเรียบเนียนจนลืมดูบัตรประชาชน 

อดีตขุนพล วัตฟอร์ด และ แอสตัน วิลล่า เคยเล่นแต่ปีกมาตลอดอาชีพ แถมถนัดเท้าขวา ทว่าประสบการณ์ผ่านร้อน-ฝน ยาวนานก็ชนะใจจนแย่งตำแหน่งจาก แดนนี่ โรส แบ็กธรรมชาติสำเร็จ

เพียร์ซ (ซ้าย) เห็นหน้าก็คึก ส่วน ยัง (ขวา) อายุไม่เป็นอุปสรรค 

กองกลาง 

เวิลด์ คัพ#1990 : เดวิด แพล็ต  (23 ปี, แอสตัน วิลล่า)   

ผู้เล่นอายุน้อยจากทัวร์นาเมนต์นั้นที่แจ้งเกิดบนประเทศ อิตาลี กระทั่งได้ย้ายมาเกี่ยวประสบการณ์กับ เซเรีย อา จริงๆ ทั้งกับ บารี่, ยูเวนตุส และ ซามพ์โดเรีย จนกลับบ้านเกิดเมืองนอนปี 1995 ที่ อาร์เซน่อล  

กับเวิลด์ คัพ 1990 เขาทำประตูที่น่าจดจำในรอบ 16 ทีม พบกับ เบลเยียม ด้วยลูกวอลเลย์งามหยด แล้วยังเต้นกวนบาทาฉลองกับ บึตเชอร์ และ คริส ว็อดเดิ้ล  

เวิร์ล คัพ#2018 : จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (28 ปี, ลิเวอร์พูล) 

เป็นผู้เล่นที่ต่างกับ แพล็ต อย่างสิ้นเชิง เฮนเดอร์สัน คือผู้นำของ อังกฤษ ในแดนกลางปักหลักหน้าสามปราการหลัง รักษาตำแหน่งรวมถึงตั้งจังหวะช้า-เร็ว  

มิดฟิลด์จาก ลิเวอร์พูล เริ่มจากการเป็นแฟนบอล ซันเดอร์แลนด์ กระทั่งก้าวสู่นักเตะ 'แมวดำ' ไต่เต้าถึงกัปตัน 'หงส์แดง' และเข้าชิงชนะเลิศ ยูฟ่า ชปล.ฤดูกาลล่าสุดแม้จบฐานะพระรอง  

แพล็ต (ซ้าย) เน้นสร้างสรรค์ ส่วน เฮนเดอร์สัน (ขวา) หนักทางคุมเชิง

เวิลด์ คัพ#1990 : พอล แกสคอยน์ (23 ปี, ท็อตแน่ม)  

ชายผู้เป็นดังแสงจากดวงดาว หากจะหาคำจำกัดความของ แกสคอยน์ ในทัวร์นาเมนต์มันคงเป็นลูกจ่ายให้ ลิเนเกอร์ พังตาข่าย แคเมอรูน รอบก่อนรองชนะเลิศ 

ช็อตคลาสสิคของ 'แกซซ่า'คือหลั่งน้ำตาเพราะโดนใบเหลืองแล้วทราบว่าต้องถูกกักรอบชิงชนะเลิศ หากผ่านไปถึง 

เวิร์ล คัพ#2018 : เดเล่ อัลลี  (22 ปี, ท็อตแน่ม) 

อัลลี คืนชีพในนัดล่าสุดที่ ซามาร่า เมื่อโหม่งลูก 2-0 ให้ อังกฤษ ตอกหมุดใส่ สวีเดน พร้อมกรุยทางสู่รอบรองชนะเลิศอีกครั้งในรอบเกือบ 3 ทศวรรษ  

อดีตเคยเล่นระดับ ลีก วัน กับ เอ็มเค ดอนส์ เมื่อ 3 ปีมานี้เอง ทว่าก็พัฒนาตัวเองกลายเป็นมิดฟิลด์เชิงรุกซึ่งอันตรายสุดในลีก ทั้งที่ราคาซื้อมาเพียง 5 ล้าน ปอนด์  

แกซซ่า (ซ้าย) จอมสีสัน บทบาทเดียวกับ อัลลี (ขวา) แต่รุ่นหลังทัวร์นาเมนต์นี้เงียบๆ

เวิลด์ คัพ#1990 : คริส ว็อดเดิ้ล (29 ปี, มาร์กเซย)

เด็กรุ่นหลังอาจคุ้นเคยกับ ว็อดเดิ้ล ฐานะผู้บรรยายทางหน้าจอโทรทัศน์ ทว่าใครจะจำได้ว่านี่คือชาวอังกฤษที่เลี่ยงบอลได้พริ้วสุดคนหนึ่ง  

ค่าตัว 4.5 ล้าน ปอนด์ เมื่อปี 1989 คือเมื่อครั้งย้ายสู่ มาร์กเซย ซึ่งแพงสุดอันดับ 3 ประวัติศาสตร์  

เวิร์ล คัพ#2018 : เจสซี่ ลินการ์ด (25 ปี, แมนฯ ยูไนเต็ด) 

อีกผู้เล่นที่กลายมาเป็นตัวหลักของ ผจก.ทีม แกเร็ธ เซาธ์เกต เมื่อปีก่อนนี่เอง ทั้งนี้ต้องให้เครดิต โชเซ่ มูรินโญ่ กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งปรับแต่งจนกลายเป็นตัวสร้างโอกาสและจบสกอร์สำหรับเวิลด์ คัพ ที่รัสเซีย 

นี่คือผลผลิตจาก อะคาเดมี่ 'ปีศาจแดง', เป็นเด็กถิ่น และลูกยิใส่ ปานามา น่าจะสร้างแรงบันดาลใจแก่รุ่นหลังเพียบ

ว็อดเดิ้ล (ซ้าย) เลี้ยงบอลพริ้ว ส่วน ลินการ์ด (ขวา) สไตล์จุดประกาย

กองหน้า 

เวิลด์ คัพ#1990 : ปีเตอร์ เบียร์ดสลี่ย์ (29 ปี, ลิเวอร์พูล)  

คว้าแชมป์กับ ลิเวอร์พูล รวมถึง 1 รายการ หลังจากถูก เควิน คีแกน ซื้อจาก นิวคาสเซิ่ล เมื่อปี 1987 ด้วยค่าตัว 1.9 ล้าน ปอนด์ 

ด้วยความสามารถล้นเหลือและเป็นตัวจริงคนเดียวในทีมชุดนี้ที่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 1989-90 ด้วยทักษะผ่านบอลและกึ๋นสูง จึงได้เบอร์#7 พร้อมบทบาทกองหน้าสายปั้น 

เวิร์ล คัพ#2018 : ราฮีม สเตอร์ลิ่ง (23 ปี, แมนฯ ซิตี้) 

สไตล์การเล่นของทัวร์นาเมนต์นี้ใกล้เคียงกับ เบียร์ดสลี่ย์ เมื่อกว่า 28 ปีก่อน แม้วันนี้ ราฮีม จะยังไม่สามารถทำประตูได้ แต่นี่คือตัวป่วนเกมป้องกันคู่แข่งอย่างดี 

แข้งจาก แมนฯ ซิตี้ มีปีที่ยอดเยี่ยมกับต้นสังกัดพัง 23 ประตู จากทุกรายการพร้อมสองแชมป์  

บทบาทของ เบียร์ดสลี่ย์ (ซ้าย) เมื่อปี 1990 ใกล้คียง สเตอร์ลิ่ง (ขวา) ในอีก 28 ปี ต่อมา

เวิลด์ คัพ#1990 : แกรี่ ลิเนเกอร์ (29 ปี, ท็อตแน่ม)  

เห็นหน้า เห็นตาบ่อยทางจอแก้ว แต่หากสืบดีๆจะรู้ว่านี่คือชายที่ยิงถึง 10 ประตู ในฟีฟ่า เวิลด์ คัพ รอบสุดท้าย โดยกดสี่เม็ดที่ อิตาลี หรือ บอลโลก ปี 1986 คว้ารองเท้าทองทำจากจำนวน 6 สกอร์ 

ขึ้นหิ้งเดียวกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ( 7 ประตู) หรือ ลิโอเนล เมสซี่ ( 6 ประตู) 

เวิลด์ คัพ ปี 1990 มีลูกไฮไลท์คือตีเสมอ เยอรมัน 1-1 ด้วยการจบสกอร์เท้าซ้ายสุดเฉียบขาดเสียบเสาไกล

เวิร์ล คัพ#2018 : แฮร์รี่ เคน (24 ปี, ท็อตแน่ม) 

ณ ตอนนี้ ยิงไปแล้ว 6 ลูก มากสุดตลอดกาลในหนึ่งทัวร์นาเมนต์เท่ากับ ลิเนเกอร์ เรียบร้อน แล้วมีโอกาสคว้ารองเท้าทองคำที่ รัสเซียด้วย 

เคน ก้าวมาเป็นกองหน้าที่อันตรายสุดของโลก จึงไม่แปลกใจที่ ท็อตแน่ม จับเซ็นยาว 6 ปี มูลค่าสัญญา 90 ล้าน ปอนด์ อยู่เป็นหลักชัยกับ ท็อตแน่ม ไปนานๆ  

สองกองหน้าต่างยุค ลิเนเกอร์ (ซ้าย) กับ เคน (ขวา) แต่มีจุดร่วมคือท็อตแน่ม