"จัสติน ไคลเวิร์ต" คืออีกหนึ่งในคนที่กำลังพิสูจน์ตัวเองกับคำพูดนั้น ด้วยการเดินตามรอยความสำเร็จของคุณพ่อออย่างพาทริค ไคลเวิร์ต อดีตกองหน้าทีมชาติฮอลแลนด์
หลังจากแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวกับทางอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม, จัสติน ในวัยเพียงแค่ 19 ปี ก็ตกเป็นที่หมายปองของบรรดาสโมสรยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรป
อย่างไรก็ตาม ช่วงซัมเมอร์นี้ เจ้าตัวสร้างความประหลาดใจ ด้วยการย้ายออกมาหาความท้าทายนอกบ้านเกิดเป็นครั้งแรกในชีวิตกับโรม่า ทีมดังในศึกกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี
ช่วงนี้เราไปดูบทสัมภาษณ์ของเขากันหน่อย เกี่ยวกับความคาดหวังกับโรม่า และแบบทดสอบที่พร้อมเผชิญในวันข้างหน้า
จุดอ่อน และจุดแข็งของคุณคืออะไร ?
"ผมเป็นนักเตะที่รวดเร็ว และชอบดวลตัวต่อตัวกับคู่แข่ง ผมคิดว่าตัวเองหาจังหวะทำประตูได้ดี อย่างไรก็ตาม ผมยังต้องพัฒนาตัวเองต่อไปเรื่อยๆ เพราะผมเป็นนักเตะที่อายุยังไม่มากนัก โดยเฉพาะการลงมาช่วยเกมรับ ผมสามารถทำให้มันดีขึ้นได้"
อะไรคือความแตกต่างระหว่างการซ้อมที่ฮอลแลนด์ และอิตาลี ?
"ที่ฮอลแลนด์ เราไม่ได้นอนค้างที่สโมสรในทุกวัน ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมกับที่นี่ เพราะเราจะได้ทำความรู้จักเพื่อนร่วมทีมคนอื่นมากขึ้น และสามารถพัฒนาร่วมกันได้ ผมชอบมัน อีกอย่างคือเรื่องของอาหาร และผู้คน ซึ่งการทำงานร่วมกัน จะทำให้เราสามารถเป็นคนที่เก่งขึ้นได้ ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องดีต่อทีมเลย"
เป้าหมายสำคัญในฤดูกาลนี้ล่ะ ?
"เป้าหมายที่สำคัญสำหรับผมหรอ ? มันไม่ใช่แค่เรื่องของผมเพียงคนเดียว ไม่ใช่แค่ที่ผมทำในฮอลแลนด์ แต่ผมต้องการทำมากกว่านั้น ผมอยากแสดงให้โลกเห็นความสามารถของผม ผมยังเด็กอยู่ แต่ผมสามารถเรียนรู้อะไรได้เยอะที่นี่ ผมแทบรอการแข่งขันไม่ไหวแล้ว ด้วยกลุ่มผู้เล่นที่เรามี ผมเชื่อว่าเราจะทำได้ดีในฤดูกาลที่จะถึงนี้"
คุณพ่อของคุณเคยเล่นในลีกอิตาลี (เอซี มิลาน 1997-98) เขาให้คำแนะนำอะไรคุณบ้าง ?
"ใช่ครับ พ่อพูดถึงเรื่องนี้เหมือนกัน เพราะพ่อเล่นที่นี่เป็นระยะเวลา 1 ปี แต่เราไม่ได้แค่พูดถึงเรื่องนั้นนะ มันยังมีเรื่องของทุกอย่างในการเป็นนักเตะอาชีพ ขั้นตอนที่ต้องเจอ ผมต้องการเดินรอยตามพ่อ และประสบความสำเร็จเหมือนท่านด้วย"
คุณอยากอยู่โรม่า ไปนานๆหรือเปล่า หรือว่ามีสโมสรที่อยากไปต่อ ?
"การออกจากอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ไปยังสโมสรใหญ่ในอิตาลี ถือเป็นก้าวที่สำคัญของผม สโมสรต้องการปรับปรุง ผมหวังจะเป็นเช่นนั้นเหมือนกัน หากเราทำผลงานได้เป็นอย่างดี โรม่า ก็จะสามารถเดินไปข้างหน้าด้วย โดยเวลาหลังจากนั้น ไม่มีใครล่วงรู้หรอก บางที ผมอาจจะอยู่ที่นี่จนแขวนสตั๊ดก็ได้นะ หรือบางทีอาจจะไม่ สุดท้ายเราก็จะได้เห็นกันเอง"
มุมมองของคุณต่อลีกอิตาลี คุณคิดว่ามันใหญ่เทียบเท่าพรีเมียร์ลีก หรือไม่ ?
"ผมไม่ได้มองว่ากัลโช่ เซเรีย อา ด้อยกว่าลาลีกา หรือพรีเมียร์ลีก เลยนะ ในอิตาลี มีสโมสรที่ยิ่งใหญ่ มีนักเตะที่ยอดเยี่ยม คุณสามารถมองได้จากการที่คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ย้ายทีมเข้ามาเล่นที่นี่ ดาวรุ่งรายอื่นก็จะตามมาเช่นเดียวกัน บางที กัลโช่ อาจจะผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มันถูกกู้คืน และกลับมาอยู่ในระดับสูงอีกครั้ง"
อะไรที่ทำให้คุณตัดสินใจย้ายมาโรม่า ?
"นี่คือสโมสรที่สำคัญต่ออาชีพลูกหนังของผม ไม่เพียงแค่ในฐานะนักฟุตบอล แต่รวมถึงในฐานะคนๆหนึ่งด้วย"
พูดถึงการพิสูจน์ตัวเองหน่อย ?
"เป็นคำถามที่ดีนะ ผมต้องการแสดงออกในสนามแข่งขัน ผมจะทำมันออกมาให้ดีที่สุด เราจะได้เห็นกัน ผมคิดว่ากลุ่มนักเตะที่เรามี ไม่ใช่แค่เฉพาะตัวผม มันสามารถเป็นไปได้ เราจะแสดงออกมาให้เห็นในการแข่งขัน คนเราสามารถพูดอะไรก็ได้ แต่สุดท้าย คุณต้องทำผลงานในสนาม นั่นเป็นสิ่งที่ผมต้องการทำ และผู้เล่นคนอื่นก็คิดเหมือนกัน"
การที่โรม่า มีฟรานเชสโก้ ต๊อตติ มันมีความหมายมากแค่ไหน ?
"สำหรับโรม่า, ต๊อตติ ถือว่าเป็นตำนานไปแล้ว ผมอยากเป็นเหมือนกับเขาในสักวันหนึ่ง ในการเป็นที่เคารพ คุณต้องแสดงออกมาผ่านฝีเท้า ผมมีโอกาสได้คุยกับเขาเหมทือนกัน ตอนที่ผมย้ายมาใหม่ๆ ผมไม่แน่ใจว่า เขามีอิทธิพลในการเซ็นสัญยของผมหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ เขาเป็นตัวอย่างที่ดีต่อตัวผม และทุกคนที่เล่นให้กับโรม่
