เปิดฉากกันไป 4 เกมแล้วสำหรับศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ก็มีทั้งทีมที่ทำผลงานได้ตามความคาดหมายรวมถึงดีและแย่กันไปตามเรื่องราว
ที่ยอดเยี่ยมกว่าเพื่อนคงจะหนีไม่พ้น วัตฟอร์ด ที่หาญกล้าคว้าชัย 4 เกมรวดเคียงคู่กับ ลิเวอร์พูล และ เชลซี สองทีมลุ้นแชมป์ของตาราง ส่วนที่ย่ำแย่คงเป็นสดมสรไหนไไปไม่ได้นอกจาก เวสต์แฮม ที่ทุบคลังกว่า 100 ล้านปอนด์ แต่ลงเอยด้วยการแพ้ 4 เกมรวด เป็นทีมเดียวในลีกที่ยังไม่มีแต้มติดมือ
แต่ที่น่าจับตามากกว่าก็คงเป็นเรื่องของบรรดานักเตะที่โยกย้ายถ่ายเทในซีซั่นนี้ทั้งมาใหม่และหน้าเดิมที่เปลี่ยนสโมสร
คนที่ถูกยกให้ย่ำแย่สุดๆก็คงเป็น เฟลิเป้ อันแดร์ซอน กองกลางค่าตัวแพงจาก เวสต์แฮม ที่ทุ่มทุน 36 ล้านปอนด์ ดึงมาจาก ลาซิโอ จากฟอร์มเทพในอิตาลีกลายเป็นสุนัขไม่รับประทานในพรีเมียร์ลีก
ส่วนคนที่ยังทรงๆก็อย่าง ริยาด มาห์เรซ ที่กระสันเหลือเกินกับการย้ายมาเล่นให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กระทั่งสำเร็จลุล่วง แต่ก็รวมก็ยังไม่ได้แจ่มแจ๋วเหมือนสมัยที่อยู่ เลสเตอร์ ซิตี้
หรือจะเป็น เฟร็ด กองกลางจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ใช้งบประมาณดึงตัวมาร่วมทีมด้วยเม็ดเงิน 47 ล้านปอนด์ แต่ก็ยังไม่ถือว่าโดดเด่นอะไรเท่าไร
ขณะที่ทาง ลูกัส ตอร์เรยร่า ที่อาจจะดูมีผลงานที่ใช้ได้ แต่กลับยังไม่มีโอกาสออกสตาร์ทเป็นตัวจริงให้ทัพอาร์เซน่อล ทำได้ก็แค่ลงเล่นในฐานะตัวสำรอง ก็ถือว่าอยู่ในช่วงกำลังปรับตัวไป
ทางด้านของ นาบี เกอิต้า กองกลาง ลิเวอร์พูล ก็ถูกเกมรุกอันดุดันของทีมกลบรัศมีไปจนหมด แต่ก็ถือว่าอยู่ในมาตรฐาน
แต่ก็มีคนที่มาปุ๊ป ดีปั๊ปเลยเหมือนกัน โชว์ฟอร์มช่วยให้ทีมมีผลงานที่ดีอยู่ในขณะนี้
ลองไปดูกันว่ามีใครกันบ้างที่ทำให้แฟนบอลและต้นสังกัดใหม่รู้สุึกว่าคุ้มค่าการลงทุนสักหน่อย
เกปา อาร์ริซาบาลาก้า (เชลซี)
จาก : แอธเลติก บิลเบา
ค่าตัว 71.6 ล้านปอนด์
ย้ายมาสู่รั้วสแตมฟอร์ด บริดจ์พร้อมความกดดันมหาศาลทั้งในเรื่องของค่าตัวที่เป็นผู้รักษาประตูที่แพงที่สุดในโลก รวมถึงการที่ต้องเป็นตัวแทนของ ติโบต์ กูร์กตัวส์
แม้จะมีจังหวะที่แสดงความไม่มั่นใจอยู่บ้างโดยเฉพาะในช่วงออกสตาร์ทแรกที่ดูเกร็งๆและเตะเปิดเกมไม่ดีเท่าไรนัก แต่ก็ค่อยปรับตัวให้เข้ากับแนวรับได้ดีขึ้นเรื่อยๆ
มือกาววัย 23 ปี กับหน่วยก้านที่สูงระดับ 189 เซนติเมตร ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ใช้ได้ ผลงานกับต้นสังกัดเก่าถือว่ามีดีเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นคงไม่ติดทีมชาติสเปนไปลุยฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย
หลังจากที่ปรับตัวเข้ากับเกมก็มีจังหวะเซฟสวยๆให้เห็นกันบ้าง เพราะเกมรับของ "สิงห์บลูส์" เองก็ไม่ใช่ว่าจะแข็งแกร่งอะไรเท่าไร
อย่างน้อยก็ดูดีกว่า ดาบิด เด เคอา สมัยที่ย้ายมาเล่นในอังกฤษใหม่ๆกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ละกัน
คะแนน : 7.5/10
จอร์จินโญ่ (เชลซี)
จาก : นาโปลี
ค่าตัว : 57 ล้านปอนด์
ถือเป็นนักเตะคู่บุญของ เมาริซิโอ ซาร์รี่ นายใหญ่คนใหม่ที่ต้องได้รับความดีความชอบไปเต็มๆกับการดึงกองกลางทีมชาติอิตาลีมาร่วมทีม
แค่การที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ต้องการดึง จอร์จินโญ่ ไปอยู่ด้วยกันที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็พอจะมองเห็นได้ว่านักเตะคนนี้มีดีแค่ไหน
การมาของกองกลางวัย 26 ปีช่วยให้แดนกลางของ เชลซี ดูไหลลื่นขึ้น แม้ว่าหลักๆแล้วจะเล่นเป็นกองกลางตัวรับ แต่ทักษะด้านการจ่ายบอลของสตาร์รายนี้ถือว่าไม่ธรรมดา ช่วยให้ทีมมีทีเด็ดทีขาดจากจังหวะตักบอลข้ามแนวรับหรือผ่านบอลเรียดได้ดียิ่งขึ้น
ผลงาน 1 ประตูจาก 4 เกม แม้ว่าจะมาจากจุดโทษ หากดูจากสภาพโดยรวมของทีมนั้นดูดีขึ้นกว่าแต่ก่อน โดยเฉพาะในครองบอลที่ดูเหนียวแน่นกว่าเดิมอย่างชัดเจน
มั่นใจได้เลยว่าเขาคือหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้ เชลซี ก้าวไปประสบความสำเร็จได้ในปีนี้
คะแนน : 8/10
อาลีสซง (ลิเวอร์พูล)
จาก : โรม่า
ค่าตัว : 66.8 ล้านปอนด์
ไม่ต้องแปลกใจเลยว่าการมาของ อาลีสซง ช่วยให้แฟนบอล ลิเวอร์พูล เพิ่มพูนความมั่นใจในเกมรับของทีมมากขึ้นเป็นทวีคุณจากฤดูกาลที่ผ่านมา
ฝันร้ายจาก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกกับการทำหน้าที่ของ ลอริส คาริอุส ถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้มที่มาพร้อมกับเกมรับอันแข็งแกร่ง ซึ่งเป็นปัจจัยในการลุ้นแชมป์ตามที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ เคยกล่าวเอาไว้ว่า "หากจะลุ้นแชมป์ เกมรับต้องดี"
แม้จะแบกค่าตัว 66.8 ล้านปอนด์อยู่บนบ่าแตนั่นไม่ได้มีผลกระทบกับผลงานของนายทวารทีมชาติบราซิลเลยแม้แต่น้อย แต่เขากลับจะมั่นใจมากกว่าเดิมด้วย ซึ่งนั่นช่วยให้บรรดาแนวรับแข็งแกร่งตามไปด้วย
แม้ว่าก่อความผิดพลาดเล็กๆในการเสียประตูให้กับ เลสเตอร์ ซิตี้ ในเกมลีกนัดล่าสุด แต่จากฟอร์มเซฟประตูอันยอดเยี่ยมบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่านั่นคืออุบัติเหตุ ซึ่งความผิดพลาดในเกมนั้นก็แค่ทำให้ทีมเสียประตูแรกในลีกฤดูกาลนี้ แต่ชัยชนะยังคงเก็บไป 4 เกมรวด
เชื่อได้เลยว่ามั่นจะยิ่งทำให้เจ้าตัวระมัดระวังยิ่งกว่าเดิม ซึ่งจะส่งผลดีกับ "หงส์แดง" อย่างแน่นอน
คะแนน : 8/10
ริชาร์ลิซอน (เอฟเวอร์ตัน)
จาก : วัตฟอร์ด
ค่าตัว : 44 ล้านปอนด์
คะแนน : 8.5/10
ย้ายมาพร้อมกับคำถามตัวเบ้อเร่อกับค่าตัวระดับ 44 ล้านปอนด์ว่า เอฟเวอร์ตัน บ้ารึเปล่ากับการทุ่มเงินมหาศาลแลกกับนักเตะที่เพิ่งย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ลีกได้แค่ปีเดียว
ผลงาน 5 ประตูจาก 38 เกมกับ วัตฟอร์ด อาจจะดูมีทิศทางที่ดี แต่อย่างน้อยควรจะรอดูอีกสักปีรึเปล่าว่าจะไหวไหมกับซีซั่นที่สองในลีกหฤโหดอย่างเมืองผู้ดี
แต่สตาร์ชาวบราซิลก็แสดงให้เห้นว่าเขาก้าวขึ้นมาอีกระดับ และพร้อมสำหรับการขึ้นไปเล่นในสโมสรที่ใหญ่ขึ้น เห็นได้ชัดจากฝีเท้าและความทุ่มเทที่มากขึ้นเป็นทวีคูณ
3 ประตูจาก 2 เกมแรกเป็นตัวบ่งบอกชั้นดีว่า "ทอฟฟี่" คิดถูกที่ทุ่มเม็ดเงินหมาศาลดึงตัวมาร่วมทีม น่าเสียดายในเกมที่สามกับ บอร์นมัธ ดันไปเสีย "ค่าโง่" เอาหัวไปโขก อดัม สมิธ ในเกมกับ บอร์นมัธ จนดดนใบแดงไล่ออกไป
ถือเป็นประสบการณ์อันล้ำค่าที่เจ้าตัวต้องเผชิญ ซึ่งก็ออกมาขอโทษแฟนบอลเป็นที่เรียบร้อย พร้อมรับโทษแบน 3 เกมต่อจากนี้
แต่แฟนๆทอฟฟี่มั่นใจว่าเจ้าตัวจะกลับมาพร้อมกับความมุ่งมั่นมากกว่าเดิม และคงจะไม่ทำอะไรโง่ๆแบบนี้อีก
ฌอง มิเชล เซรี (ฟูแล่ม)
จาก : นีซ
ค่าตัว : 18 ล้านปอนด์
ต้องยอมรับว่า ฌอง มิเชล เซรี คือนักเตะใหม่ที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นเหนือใครเมื่อมองจากฟอร์มส่วนตัวและขนาดของทีมอย่าง ฟูแล่ม
จากที่ได้รับความสนใจจากทีมยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรปทั้ง เชลซี, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รวมถึง บาร์เซโลน่า แต่กลับเลือกย้ายมาอยู่กับ "เจ้าสัวน้อย" ชนิดงงกันไปทั่วก่อนที่เจ้าตัวจะเฉลยว่าย้ายมาเพราะได้รับความเชื่อมั่นของทีมน้องใหม่พรีเมียร์ลีก
ค่าตัว 18 ล้านปอนด์ ถือว่าไม่มากไม่น้อย แต่ผลตอบแทนที่ได้รับจากช่วงสี่เกมแรกของฤดูกาลถือว่าคุ้มค่าทีเดียว
1 ประตูกับ 1 แอสซิสต์ จากการประเดิมพรีเมียร์ลีกต้องบอกว่ายอดเยี่ยม โดยเฉพาะประตูที่ทำได้ในเกมกับ เบิร์นลี่ย์ ซึ่งกลายเป็นประตูยอดเยี่ยมประจำเดือนสิงหาคมที่เจ้าตัว กดด้วยขวานอกเขตโทษเยื้องมาทางซ้ายบอลพุ่งเสียบใต้คานเข้าไปอย่างสวยงาม
เชื่อได้เลยว่าเขาคนนี้จะเป็นหัวใจหลักในการช่วยให้ทีมอยู่รอดปลอดภัยได้ในฤดูกาลนี้
คะแนน : 9/10