ถึงตอนนี้ไม่รู้ว่าแฟน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังมีความกังวลว่า ปอล ป็อกบา จะอยู่กับทีมต่อไปอีกนานแค่ไหน
บางคนเสียดายที่ โชเซ่ มูรินโญ่ ยังไม่อาจเค้นศักยภาพของมิดฟิลด์ทีมชาติฝรั่งเศสชุดแชมป์โลกออกมาได้เหมือนกับที่เล่นนทีมชาติ บางคนก็นึกรำคาญปล่อยให้พ้นๆทีมไปซะเพราะอยู่ไปผลงานก็คงไม่ดีไปกว่านี้
ท่าทีแอ๊คอาร์ทกับผลงานที่ออกมาในสนามช่วงสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง ยังไม่รวมถึงทรงผมที่ขยันเปลี่ยนในทุกสัปดาห์เหมือนฟอร์มการเล่นที่คาดเดาอะไรไม่ได้เลย
กับค่าตัวระดับ 89 ล้านปอนด์ที่จ่ายไป หากสุดท้าย ป็อกบา เลือกที่จะเก็บข้าวของย้ายออกจากถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ถามว่าทัพ "ปีศาจแดง" ควรได้ค่าตัวเท่าไรเป็นการตอบแทน
แน่นอนว่าด้วยฝีเท้าระดับนี้ที่แม้อาจจะไม่ได้ใช้ออกมาเท่าที่ควรกับทีม แต่การพ่วงดีกรีแชมป์โลกก็ต้องบอกว่ามันสามารถช่วยเรียกราคาได้ไม่น้อยอยู่แล้ว
แถมอายุอานามเพิ่งจะ 25 ปีเท่านั้น ถือว่าเหลือเวลาให้ใช้งานได้อีกยาวๆเหมือนกัน คาดกันว่าน่าจะมีแตะหลัก 100 ล้านได้แบบสบายๆ
ถ้าถึงวันนี้แล้วใครกันล่ะที่จะเข้ามาเป็นตัวแทนในแผงมิดฟิลด์ของทีม
นับตั้งแต่ยุค เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มานั้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่เคยขาดแคลนกองกลางฝีเท้าเยี่ยมเลย อย่างน้อยๆก็ต้องมีติดทีม 2-3 คนทั้งตัวหลักและตัวสำรอง
ลองไปดูกันว่าหากที่สุดแล้วไม่มีชื่อ ปอล ป็อกบา อยู่ในทีม ใครกันที่จะเข้ามารับไม่ต่อในตำแหน่งกองกลางประจำสโมสร
เซอร์เกจ์ มิลินโควิช-ซาวิช
สโมสร : ลาซิโอ
กองกลางจาก ลาซิโอ สถาปนาตัวเองขึ้นมาเป็นหนึ่งในกองกลางดีที่สุดในโลกจากผลงานอันยอดเยี่ยมในช่วงสองปีหลังในกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี
ถ้าว่ากันด้วยศักยภาพแล้ว เซอร์เกจ์ มิลินโควิช-ซาวิช ถือเป็นหนึ่งในนักเตะที่ "ใกล้เคียง" กับ ปอล ป็อกบา มากที่สุดคนหนึ่ง ทั้งในเรื่องของรูปร่างที่ความสูงห่างกันเพียง 1 เซนติเมตร (ป็อกบา เตี้ยกว่า) หรือสไตล์การเล่นที่โดดเด่นยามปักหลักในแดนกลางและการพาบอลไปข้างหน้า
ความแข็งแกร่งถือว่าสู้ได้ไม่เป็นรอง, ลูกกลางอากาศมีดีไม่แพ้กัน, การเปลี่ยนเกมจากรับเป็นรุกก็มีทีเด็ดไม่น้อย
จุดอ่อนเดียวในตอนนี้ก็คือการผ่านบอลที่ดูจะยังไม่เนียนเท่าไร ยังมีข้อผิดพลาดให้เห็น แต่ด้วยวัยเพียง 23 ปี ยังมีเวลาที่จะพัฒนาอีกเยอะหากได้โค้ชเจ๋งๆคอยสอน
ปัญหาอย่างเดียวก็คือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาจจะต้องเผชิญหน้ากับยักษ์ใหญ่ที่ต้องการดึงตัวไปร่วมทีมเช่นกันอย่าง ยูเวนตุส และ เรอัล มาดริด ซึ่งคงไม่ปล่อยให้ "ปีศาจแดง" คว้าไปร่วมทีมแบบง่ายๆแน่ ยังไม่รวมถึง ต้นสังกัดอย่าง ลาซิโอ ที่ขวางทางย้ายมาแล้วในช่วงซัมเมอร์นี้
ติอาโก้ อัลกันตาร่า
สโมสร : บาเยิร์น มิวนิค
หนึ่งในกองกลางที่สร้างชื่อขึ้นมาตั้งแต่อายุ 20 ต้นๆ กับทีมอย่าง บาร์เซโลน่า แคืนี้ก็น่าจะการันตีได้ว่านักเตะคนนี้มีดีแค่ไหน
ติอาโก้ อัลกันตาร่า ถือเป็นหนึ่งในนักเตะคู่บุญของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่นอกจากจะผลักดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของทัพ "เจ้าบุญทุ่ม" ก็ยังดึงตัวไปร่วมงานกันที่ บาเยิร์น มิวนิค อีกด้วย ก่อนที่จะโยกมาคุม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2016
กองกลางทีมชาติสเปนถือว่ามิดฟิลด์จอม "เทคนิค" นักเตะในสไตล์ที่แฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โหยหา ปั้นเกมรุกได้ ประสานงานกับเพื่อนได้ มีลูกจ่ายที่ยอดเยี่ยมพร้อมกับจังหวะจบสกอร์ที่ไม่เลวเหมือนกัน
การมาของ ติอาโก้ จะช่วยให้เกมรุกของทัพปีศาจแดงที่ตื้อตันมีลูกแพรวพราวมาขึ้นในการกระชากบอลผ่านผู้เล่นคู่แข่ง ซึ่งดูจากการเคลื่อนที่ยามอยู่ในสนามน่าจะเป็นคนที่เล่นได้อย่างเข้าขากับ อเล็กซิส ซานเชซ ได้เป็นอย่างดี
แม้ว่าในช่วงหลังจะมีปัญหาอาการบาดเจ็บบ่อยครั้ง แต่เชื่อเถอะว่าหากได้ตัวมาร่วมทีมจะเป็นหนึ่งในนักเตะที่เหล่า "เร้ด อาร์มี่" ได้กรี๊ดกันแน่ๆ
ยูรี่ ตีเลอม็องส์
สโมสร : โมนาโก
คงจะพอคุ้นหูคุ้นตากับมาบ้างกับเจ้าหนูวัย 21 ปีหลังจากที่ได้วาดลวดลายในฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย กับทีมชาติเบลเยี่ยม
ที่น่าเหลือเชื่อก็คือ ยูรี่ ตีเลอม็องส์ ขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของ อันเดอร์เลช สโมสรในบ้านเกิดด้วยวัยเพียง 16 ปีเท่านั้น และไม่ได้แค่ลงมาแวบๆ ในปีแรกเจ้าตัวลงเล่นถึง 35 เกม เทียบกับเด็กในบ้านเราก้เพียงแค่เด็กมัธยมปลายเท่านั้นเอง
ช่วงระยะเวลา 4 ปีในบ้านเกิดต้องการบอกเจ้าตัว "เก่ง" ขึ้นเรื่อยๆเลย กับอายุเพียง 20 ปี แต่ลงเล่นให้ทีมรวมแล้วถึง 185 เกม พร้อมทั้งทะลวงตาข่ายไป 35 ลูก ก่อนถูกทาง โมนาโก กระชากเข้าสู่ทีมด้วยค่าตัวไม่เบาที่ 25 ล้านยูโร
ในปีแรกในลีก เอิง อาจจะยิงไม่ได้ในช่วง 24 เกมที่ลงเล่น แต่ในปีนี้ประเดิมลูกแรกได้เรียบร้อยหลังผ่านไป 4 เกมเท่านั้น
แม้ว่าประสบการณ์จะน้อยไปสักนิดและการเปลี่ยนแปลงลีกการเล่นอาจจะสร้างปัญหาอยู่บ้าง แต่เชื่อได้เลยว่าในอนาคตเจ้าหนูคนนี้จะขึ้นมาเป็นหนึ่งในสุดยอดกองกลางของโลกตามรุ่นพี่อย่าง เควิน เดอ บรอยด์ อย่างแน่นอน
รูเบน เนเวส
สโมสร : วูล์ฟส์
มิดฟิลด์ที่แฟนบอลในบ้านเราน่าจะคุ้นกันเป็นอย่างดีจากการค้าแข้งอยู่ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน น้องใหม่ที่เลื่อนชั้นขึ้นมาในฤดูกาลนี้
อดีตกัปตันทีมปอร์โต้ที่สวมปลอกแขนของทีมด้วยวัยเพียง 18 ปี 221 วัน ในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก ถือเป็นกัปตันทีมที่อายุน้อยที่สุดของการแข่งขันถ้วยใหญ่ของยุโรปเลย ก็ถือเป็นตัวบอกชั้นดีว่าเขามีฝีเท้าที่ไม่ธรรมดา
รูเบน เนเวส เลือกเส้นทานเดินครั้งสำคัญด้วยการอำลายักษ์ใหญ่ของโปรตุเกส และมาค้าแข่งกับทีม "หมาป่า" เมื่อฤดูกาลที่แล้วที่ยังอยู่ในแชมเปี้ยนชิพเท่านั้น ถือเป็นการตัดสินใจที่ไม่ธรรมเลยกับเด็กอายุ 20 ย้ายจากทีมที่การันตีเล่นบอลยุโรปทุกปีมาอยู่ในลีกรองของอังกฤษ
แต่แค่ปีแรกนี้แรกเจ้าตัวก็โชว์ฝีเท้าพาทีมเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดในฐานะแชมป์ด้วยการกดไป 6 ประตูจากการลงเล่น 42 นัด และแค่เปิดเกมแรกของฤดูกาลก็จัดการปั่นฟรีคิกสุดสวยในเกมที่ทีมเปิดบ้านเสมอกับ เอฟเวอร์ตัน 2-2
ไม่แปลกใจเลยที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เตรียมเบิกคลังของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 60 ล้านปอนด์เพื่อดึงตัวไปร่วมทีมในเดือนมกราคม ซึ่งแน่นอนว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ไม่อยู่นิ่งพร้อมที่จะทุ่มเงินแข่งเพื่อดึงดาวเตะวัย 21 ปีรายนี้มาร่วมทีม
อาเดรียง ราบิโอต์
สโมสร : ปารีส แซงต์-แชร์กแมง
นาทีนี้คงไม่มีกองกลางคนไหนเนื้อหอมเท่ากับ อาเดรียง ราบิโอต์ อีกแล้ว ไม่ใช่เพียงแค่ฝีเท้าดีเท่านั้น ซัมเมอร์หน้ายังจะเป็นการได้ตัวมาแบบไม่ต้องเสียค่าตัวด้วย
สตาร์จาก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง กำลังจะหมดสัญญากับต้นสังกัดในปี 2019 ซึ่งดูท่าแล้วคงจะอำลาทีมแน่ๆหลังไม่มีท่าทีที่จะต่อสัญญาฉบับใหม่กับทีมเลย
ว่าด้วยเรื่องฝีเท้าต้องบอกว่า ราบิโอต์ เป็นหนึ่งในกองกลางที่ได้ชื่อว่ามีศักยภาพดีพอที่จะเล่นให้กับทุกสโมสรในโลกนี้ และไม่ต้องแปลกใจที่หลายทีมจะต้องการตัวต่อให้จะไม่ได้แบบฟรีๆก็ตาม
มิดฟิลด์พรสวรรค์สูงเป็นนักเตะที่ครองบอลเหนียว จ่ายบอลดีและถือเป็นกองกลางที่ครบเครื่องคนหนึ่งทั้งบุ๋นทั้งบู๊ ซึ่งน่าจะตอบโจทย์ของ โชเซ่ มูรินโญ่ ได้เป็นอย่างดี
เพียงแต่การที่ต้องทุ่มทุนสร้างแถมต้องแย่งตัวกับ บาร์เซโลน่า, ยูเวนตุส และ เอซี มิลาน อาจจะทำให้ยูไนเต็ดต้องเหนื่อยหน่อย
