การหกล้มจนเป็นแผลใหญ่ในเอเชียนเกมส์ ที่อินโดนีเซียของ “โค้ชโย่ง” และชาวคณะ มีน้ำหนักมากพอให้เกิดการเปลี่ยนแปลง (อีกครั้ง)
น่าสนใจว่าใคร “ดีพอ” มานั่งเก้าอี้ทีมชาติไทยชุดนี้ที่มีออร่า “ควมกดดัน” เคลือบอยู่
ฉับพลันหลังแยกทาง วรวุธ ไม่นาน สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ประกาศรับสมัครเฮดโค้ชคนใหม่ทันที หน้าไหนแน่ยื่นรีซูเม่มา ถูกใจเดี๋ยวเรียกสัมภาษณ์เอง
ทว่าด้วยข้อจำกัดที่สมาคมต้องการคือ เฮดโค้ชมี “โปรไลเซนส์” ติดตัวแล้วเท่านั้น เนื่องจากเป็นข้อกำหนดที่ “เอเอฟซี”ระบุไว้ในการคุมทีมทัวร์นาเมนต์ระดับเอเชีย ทำให้ชื่อส่วนใหญ่ที่เอเย่นต์ปามาใส่สมาคมฟุตบอลฯคือ กุนซือต่างชาติ
ขณะตัวเลือกเฮดโค้ชไทยมีแค่ เศกสรร ศิริพงษ์ ประธานสโมสร แอนด์ กุนซือ กำแพงเพชร เอฟซี ที่แม้จะโนเนมในวงการลูกหนัง ทว่ามี “โปรไลเซ่นส์” ครบถูกต้องตามสเปกที่เปิดรับ
อย่างไรก็ดี ผู้ยื่นใบสมัคร และเรียกเสียงฮือฮาจากคนลูกหนังได้มากสุดคือ อเล็กซานเดร์ กามา เฮดโค้ชมันสมองบราซิเลียน ที่ปัจจุบันนั่งเก้าอี้ สิงห์ เชียงรายฯ หลังควงเอเย่นต์สัญชาติเกาหลีใต้ เข้ามาฉีกยิ้มถึงสมาคม
แม้เจ้าตัวยังมีภารกิจพาทีมลุ้นโทรฟี่อีก 2 ใบในฤดูกาลนี้ ทั้ง ลีกคัพ และ เอฟเอ คัพ ทว่าด้วย “อนาคต” กับ “กว่างโซ้งมหาภัย” ที่ไม่แน่นอน หลังยังไม่ได้รับสัญญาฉบับใหม่ การดิ้นรนหางานใหม่คือทางออก
สำหรับผู้เขียน ถือเป็นชอยส์น่าสนใจสุด ในบรรดาตัวเลือกที่เข้ามาพลีกายให้สมาคม เนื่องจาก กามา มีประสบการณ์ทำงานในเมืองไทยมากกว่า 4 ปี และรู้จักมักจี่ฟุตบอลแถบเอเชียอย่างดี
เดบิวต์แดนปลาแดกเมื่อปี 2014 รับงานกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก่อนมีส่วนเสกความสำเร็จอย่างมากมายในถิ่นอีสานใต้
โดยเฉพาะปี 2015 ที่พา “ปราสาทสายฟ้า” กวาดเกลี้ยง 5 แชมป์ในฤดูกาลเดียว ก่อนจะแยกทางกับทีมในปีถัดมา
จากนั้นเข้ารับงานกับ สิงห์ เชียงรายฯ ในปี 2017 และสามารถพา “กว่างโซ้ง” คว้าแชมป์เอฟเอคัพ ได้สำเร็จ พาทีมโลดแล่นฟุตบอล เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก ได้เป็นหนแรกในประวัติศาสตร์สโมสร เช่นเดียวกับในซีซั่นนี้ ที่มีโอกาสบวกโทรฟี่ประดับตู้ให้ทีมได้อีก
ด้านความสัมพันธ์ขอบสนาม อเล็กซานเดร์ กามา ยังสนิทกับ วทันยา วงษ์โอภาสี อดีตผู้จัดการทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ชุดแชมป์ซีเกมส์ 2017 กอปรกับ “คุณเดียร์” ก็มีความสนิทชิดเชื้อกับทางสมาคมฟุตบอลฯเป็นอย่างดี
มองในมุมคนข่าวใช้คำว่าเป็น “เต็ง” นอนมา ในบรรดาผู้สมัครทั้งหมดคงไม่ผิด
กระแทกแป้นพิมพ์อย่างไม่มีเม้ม ผู้เขียนขอเป็นอีกหนึ่งเสียงเชียร์ให้ กามา เข้ามานั่งเก้าอี้ทีมชาติไทยคนต่อไป ด้วยเหตุผลบราซิเลียนรายนี้ มีคุณสมบัติเพียบพร้อมทุกอย่างที่ “ช้างศึก” ต้องการ
เปรียบ กามา เป็นผู้หญิงคงประมาณ “เป็นแม่ศรีเรือนในครัว เป็นอีตัวบนเตียง”
กอปรกับนับนิ้วคร่าวๆ เหลือเวลาอีกเพียง 4-5 เดือน สำหรับทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์เอเชียรอบคัดเลือก 2019 และรอบสุดท้ายปี 2020 ที่ไทยได้รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพหา 3 ชาติ ที่ดีสุด เป็นตัวแทนทวีปไปโม่ตีนในมหกรรมลูกหนัง โอลิมปิก ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
ด้วยกรอบเวลาเตรียมทีมมีจำกัด ฉะนั้นหากได้กุนซือที่คุ้นเคยกับนักเตะ รู้จักธรรมชาติผู้เล่นคนไหนเป็นอย่างไร น่าจะทำให้ความพร้อมดูลงตัวเร็วขึ้น มากกว่า การแต่งตั้งเฮดโค้ชที่ยังไม่มีประสบการณ์ลูกหนังในเมืองไทย
ซึ่งทั้งหมดทั้งมวล กามา มีครบทุกอย่างจากการตะบันชีวิตในแดนปลาแดกมากว่าสี่ซ้าห้าปี
ถึงกระนั้นยังต้องจับตาดูสถานการณ์ฝั่ง เชียงราย ว่าจะมอบสัญญาฉบับใหม่ให้หรือไม่ แต่จากสายข่าวข้างกายผู้เขียน มีโอกาสสูงที่กุนซือเลือดกาแฟจะไม่ได้คุมทัพ “กว่างโซ้ง” ต่อในฤดูกาลหน้า
นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดต่างๆของเงื่อนไขสัญญา ในการสัมภาษณ์กับสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ปลายเดือนตุลาคมอีก ว่าจะ “คลิก” กันทั้งสองฝ่ายหรือไม่
หากทุกอย่าง “ลงเอยกันด้วยดี” เหมือนอย่างที่พี่ อัสนี-วสันต์ บอกไว้ผ่านบทเพลง
การเปลี่ยนผ่าน “เก้าอี้” ตัวนี้ น่าสนใจอย่างสูงเลยทีเดียว
