6 เดือนที่ผ่านมา จอร์จินโญ่ ได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในการเซ็นสัญญาที่น่าตื่นเต้นมากที่สุดในพรีเมียร์ลีก
เขาได้รับการซื้อจาก เชลซี ในเวลาเพียง 3 ชั่วโมงหลังจากที่สิงห์บลูส์แต่งตั้ง เมาริซิโอ ซาร์รี่ เข้ารั้งบังเหียนกุนซือคนใหม่ พร้อมด้วยข่าวลืออย่างรุนแรงว่าอดีตคู่หูจาก นาโปลี จะได้กลับมาร่วมงานกันอีกครั้งในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์
ภายใต้การคุมทัพของ ซาร์รี่ จอร์จินโญ่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดในเวทีกัลโช่ เซเรีย อา และถูกจับตาจากบรรดาหลายทีมยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรป
แต่เพลย์เมกเกอร์ตัวลึกซึ่งมีรูปแบบการเล่นที่เหมือนกับ ชาบี อลอนโซ่ และ อันเดรีย ปีร์โล่ กลับยังไม่เคยทำแอสซิสต์ให้กับสิงห์บลูส์เลยแม้แต่ครั้งเดียวในฤดูกาลนี้ แม้เราจะได้เห็นสถิติตัวเลขผ่านบอลเกือบ 2,000 ครั้งในพรีเมียร์ลีก หลังผ่านเกมล่าสุดกับ นิวคาสเซิ่ล เมื่อช่วงสุดสัปดาห์
ก็อย่างที่คุณคาดไว้นั่นแหละ บรรดาแฟนๆ และนักวิเคราะห์เริ่มมองว่าดาวเตะค่าตัว 57 ล้านปอนด์ในซัมเมอร์ที่ผ่านมากำลัเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากอยู่บ้างเหมือนกัน
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา การเล่นของเขาใจกลางสนามหญ้าเป็นไปแบบเรียบง่าย หากเทียบเป็นกราฟก็เหมือนเส้นตรง เมื่อเขาผ่านบอลถึง 101 ครั้ง โดยมีค่าเฉลี่ยความแม่นยำสูงถึง 91.1% เลยทีเดียว
แต่จุดบกพร่องตรงที่ตัวสนับสนุนบริเวณพื้นที่สุดท้ายไม่ได้ช่วยสร้างประโยชน์สักเท่าไหร่เลย มันจึงเป็นงานยากที่บอลซึ่งผ่านจากเท้าของเขาจะไปสู่เป้าหมายแบบมีประสิทธิภาพ ขณะที่เขาก็แสดงความพยายามที่จะเอาชนะไลน์ประกบของ นิวคาสเซิ่ล อย่างชัดเจน
หลังจบเกมนั้น ซาร์รี่ ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาเลยว่าเขาอยากจะถอด จอร์จินโญ่ ออกจากสนาม หลังจากเล่นได้ค่อนข้างหน้าผิดหวัง แต่เขาก็บอกว่าเมื่อมองไปยังซุ้มม้านั่งสำรองของ เชลซี มันก็ไม่มีตัวเลือกอื่นที่ดีไปกว่านี้เลย
แน่นอนว่าอ็อปชั่นที่ชัดเจนของกุนซือชาวอิตาเลี่ยนคือ เชส ฟาเบรกาส แต่ดาวเตะสแปนิชได้กล่าวคำอำลากับแฟนสิงห์บลูส์ หลังจากเสร็จสิ้นการย้ายไปยัง โมนาโก เพื่อร่วมงานกับเพื่อเก่าอย่าง เธียร์รี่ อองรี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ซาร์รี่ เองก็ได้รับการคาดหมายว่ากำลังมองหานักเตะมาแทนที่ตำแหน่งที่ว่างลงของมิดฟิลด์สแปนิชในเดือนมกราคมนี้ โดยที่ผ่านมาก็มีข่าวเป็นระยะกับทั้ง นิโกล่า บาร์เรลล่า ของ กายารี่ และเพลย์เมกเกอร์อาร์เจนไตน์อย่าง เลอันโดร ปาเรเดส ซึ่งอยู่ในท็อปลิสต์
ในขณะที่บางคนก็แนะนำว่าไม่ต้องไปมองไกลที่ไหน แต่คนใกล้ตัวอย่าง เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ซึ่งโดนเปลี่ยนตำแหน่งการยืนตั้งแต่ที่ จอร์จินโญ่ เข้ามาก็สามารถกลับมาประจำการที่เดิมของเขาได้
แต่!!!
เอาเข้าจริงพวกเราก็จับผิดเขามากเกินไปรึเปล่า
???
หลังจากทั้งหมดที่พูดถึง จอร์จินโญ่ เขาก็ยังคงอยู่ในช่วงปรับตัวกับ เชลซี ลีกที่เขาเคยเล่นมากับลีกอังกฤษนั้นต่างกันลิบลับ และระยะเวลาเพียงครึ่งซีซั่นก็อาจจะยังเร็วเกินไปที่จะทำให้เขาปรับตัวได้แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ อีกทั้งสิงห์บลูส์ในตอนนี้ก็ยังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านรอยต่อระหว่างผู้จัดการทีมคนเก่ากับกุนซือคนใหม่
ยิ่งไปกว่านั้น มันอาจไม่ใช่ความผิดอะไรของ จอร์จินโญ่ เพราะบรรดาแฟนบอล และผู้เชี่ยวชาญบางคนยังไม่เข้าใจเลยว่าจริงๆ แล้วบทบาทของเขาคืออะไรในระบบการเล่นของ ซาร์รี่
ความจริงที่ว่านั้นก็คือเขาไม่ได้ถูกเซ็นสัญญาเข้ามาเพื่อทำประตู หรือแอสซิสต์แต่อย่างใด ทว่าเขามาเพื่อทำการคอนโทรลจังหวะการครอบครองบอลของทีม ซึ่งทั้งหมดนั้นมันอาจเป็นการผ่านบอลง่ายๆ แต่มีความแม่นยำที่สูงมาก
แก่นแท้จริงๆ ของบทบาท จอร์จินโญ่ ก็คือการผ่านบอล และก็ผ่านบอลไปเรื่อยๆ แบบนั้นนั่นแหละ ทั้งหมดในการยืนตำแหน่งของเขาอยู่ในแนวลึก ซึ่งนั่นมันทำให้เจ้าตัวอยู่ห่างไกลจากโอกาสช่วยทีมทำประตู หรือแอสซิสต์
นี่คือนักเตะที่เป็นส่วนสำคัญต่อระบบ และสไตล์การวเล่นอันเลื่องชื่อของ ซาร์รี่ โดยเขาได้พิสูจน์มันมาแล้วกับ นาโปลี แต่มันก็เพียงยังไม่ได้ผลที่ลอนดอนเท่านั้นเอง
นั่นทำให้ จอร์จินโญ่ เป็นอัจฉริยะตรงกลางสนามของ เชลซี ในระบบ ซาร์รี่ แล้วแบบนั้นหรือ
???
จะว่างั้นก็ได้ แต่เราก็ต้องยอมรับตามตรงเหมือนกันว่าเขายังช้าไปสำหรับบอลพรีเมียร์ลีก ธรรมชาติของบอลอังกฤษคุณจะต้องรู้จังหวะในการเล่นให้เร็ว หรือบางทีก็ดึงช้าได้ นั่นแหละคือประโยชน์สูงสุด
เกมกับ นิวคาสเซิ่ล นั้นชัดเจนเลยว่าเขายังช้ามากเกินไป และหลายครั้งทีมก็เสียผลประโยชน์ ดังนั้นไฮไลท์สำคัญก็คือเขาต้องพยายามปรับปรุงตัวเองให้มีส่วนร่วมสร้างสรรค์เกมรุกให้ทีมมากกว่านี้
แต่ก็นั่นแหละ ความอดทนคือกุญแจสำคัญในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้
อยู่ที่ จอร์จินโญ่ นั่นแหละว่าจะยกระดับก้าวข้ามผ่านความหวังที่ค่อนข้างสูงของกองเชียร์ได้อย่างไร
ไม่ต้องไปพูดถึงปัญหาเรื่องกองหน้าให้วุ่นวายนะ
เพราะนั่นคือเรื่องใหญ่ที่ใครต่างก็รู้กันดีอยู่แล้ว...
พาสต้า
