ทีมของ อูไน เอเมรี่ มีปัญหาหลัก 2 จุดคือ เซนเตอร์แบ็กและตัวรุกริมเส้น 

ในช่วง 2 เดือนหลังหรือตั้งแต่ขึ้นธันวาคมจนถึงปลายมกราคมในตอนนี้ ปืนใหญ่เผชิญกับปัญหารุมเร้าหนักหน่วงจนส่งผลต่อฟอร์มการเล่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

หลังเปิดหัวด้วยการแพ้ใน 2 นัดแรก เอเมรี่ พาทีมไร้พ่าย 22  นัดติดในทุกรายการ ก่อนเสียสถิติในกลางเดือนธันวาคมที่พ่ายต่อเซาธ์แฮมป์ตัน 2-3 

ในเกมนั้นต้องเข็น โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ เซนเตอร์คนเดียวที่เพิ่งฟิตกลับมาลงสนาม ขนาบข้างด้วย สเตฟาน ลิชต์สไตเนอร์ และกองหลังจำเป็นอย่าง กรานิต ชาคา เพราะ โซคราตีส ปาปาสตาโธปูลอส กับ ชโคดราน มุสตาฟี่ ต่างติดโทษแบนพร้อมกัน 

ก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน ร็อบ โฮลดิ้ง ที่กำลังเล่นได้ดีมากต้องโชคร้ายบาดเจ็บหนักพักยาวทั้งฤดูกาลหลังเดี้ยงจากเกมบุกเสมอแมนฯ ยูไนเต็ด 2-2 

กลายเป็นผู้เล่นคนที่ 2 ของทีมที่ต้องปิดเทอมฤดูกาลนี้ต่อจาก แดนนี่ เวลเบ็ค ที่เจ็บในเกมยูโรปา ลีก กับสปอร์ติ้ง ลิสบอน 

  หลังพ่ายต่อนักบุญ อาร์เซน่อลเสียท่าติดๆ กันในการลงเล่นฟุตบอลถ้วยกลางสัปดาห์ที่โดนสเปอร์สล้างแค้นบุกชนะมา 2-0 ในถ้วยคาราบา คัพ จากนั้นก่อนสิ้นปี ลิเวอร์พูลเปิดแอนฟิลด์บอมบ์เละอีก 5-1 กองหลังหมดสภาพสุดๆ

เข้าสู่เดือนมกราคมพร้อมความหวังในการปรับเปลี่ยนทีม อูไน เอเมรี่ ดันแจ้งข่าวร้าย การเสริมทัพผู้เล่นใหม่ต้องใช้วิธี "ยืม" เท่านั้น ตีความอีกอย่างก็คือ "ไม่มีเงิน" 

ในช่วงเวลานี้ ฟอร์มการเล่นของทีมระส่ำอย่างเห็นได้ชัดโดยเฉพาะเกมลีกนอกบ้านที่ไม่ชนะ 5 นัดติด และเสียไปถึง 12 ประตู 

สุดสัปดาห์ที่แล้วเรียกฟอร์มเก่งเปิดบ้านอัดเชลซี 2-0 แต่นัดต่อมาในเอฟเอ คัพ ก็พลาดท่าต่อแมนฯ ยูไนเต็ดจนตกรอบคาบ้าน 

แต่ที่เสียหายอย่างมากใน 2 นัดหลังสุดคือการที่มีผู้เล่นบาดเจ็บถึง 3 คน หนึ่งในนั้นคือ เอคตอร์ เบเยริน ที่พักยาวทั้งฤดูกาลเป็นรายที่ 3 หลังเอ็นหัวเข่าฉีก

เอคตอร์ เบเยริน ปิดเทอมยาวไปอีกราย

เบเยริน เจ็บจากเกมกับเชลซี ส่วนอีก 2 คนคือ  กอสซิแอลนี่ กับ โซคราตีส ที่เป็นคู่เซนเตอร์ตัวจริงเจ็บจากกับแมนฯ ยูไนเต็ด

อาร์เซน่อล ยืนยันอย่างเป็นทางการเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า กอสซิแอลนี่ ยังมีอาการบวมที่ใบหน้าและกรามหลังถูกปุ่มสตั๊ดของ โรเมลู ลูกากู ในจังหวะเข้าแย่งบอล ต้องนี้ยังประเมินไม่ได้ว่าต้องพักนานเพียงใดเพราะต้องดูอาการกันแบบวันต่อวัน

ส่วน โซคราตีส ระบุแล้วว่าจะพลาดช่วยทีมจนถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์หรือหนึ่งเดือนเต็มเพราะอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้า 

จากปกติที่ทีมไม่ค่อยสมบูรณ์มากนักอยู่แล้ว ปัญหาก็เลยบานปลายไปกันใหญ่และทำให้ อูไน เอเมรี่ ปวดหัวอย่างมาก

กุนซือชาวสแปนิชเคยออกมาให้สัมภาษณ์อยากได้เซนเตอร์และตัวรุกริมเส้นตำแหน่งละ 1 คน แต่เพราะขีดจำกัดเรื่องเงินทุนทำให้การควานหาแข้งใหม่ในเดือนนี้เป็นไปอย่างยากลำบาก 

นักเตะหลายต่อหลายคนตกเป็นข่าวเชื่อมโยง แต่มีที่จริงจังหน่อยก็คือ เดนิส ซูอาเรซ ของบาร์เซโลน่า 

บาร์ซ่าต้องการขายขาดหรือยืมได้แต่ต้องพ่วงอ็อปชั่นบังคับซื้อขาดที่ 20 ล้านปอนด์ในช่วงซัมเมอร์ แต่อาร์เซน่อลยืนกระต่ายขาเดียวขอยืมเพียวๆ เท่านั้น และไม่ต้องมีเงื่อนไขอื่นใดปะปน การเจรจาจึงยืดเยื้อหลายวันและล่มไปแล้วรอบหนึ่ง

หลังเกมพ่ายแมนฯ ยูไนเต็ด มีตัวละครใหม่เพิ่มเติมคือ อีวาน เปริซิช ที่บีบีซียืนยันว่าอาร์เซน่อลได้ติดต่อไปยังอินเตอร์ มิลาน จริงเพื่อขอยืมมาใช้งานจนถึงจบฤดูกาล พร้อมอ็อปชั่นซื้อขาดที่ 35 ล้านปอนด์

อูไน เอเมรี่ ปวดหัวทั้งเรื่องในและนอกสนาม

ขณะที่รายของ ซูอาเรซ ก็ยังสนใจอยู่เช่นเดียวกับ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ดาวรุ่งจากปารีส แซงต์-แชร์กแมง ที่เคยร่วมงานกับ เอเมรี่ มาแล้ว

ในรายของ เปริซิช ถือว่าน่าสนใจและน่าจะเป็นการเสริมทัพที่ดีเพราะเล่นริมเส้นได้ยอดเยี่ยม สามารถเพิ่มมิติในเกมรุกให้อาร์เซน่อลได้ เพียงแต่ในรายละเอียดก็มีเรื่องให้ต้องคิดไม่น้อย 

ฟอร์มในฤดูกาลนี้ของ เปริซิช ดร็อปลงพอสมควรนับตั้งแต่ฟุตบอลโลกที่ช่วยให้ทีมชาติโครเอเชียเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ อินเตอร์จึงอยากขายออกไปในเดือนนี้เลยหากได้ราคา 35 ล้านจริงเพราะอาจเรียกไม่ได้ขนาดนี้ในช่วงซัมเมอร์ 

นอกจากนี้ อีกไม่ถึงสัปดาห์ (2 ก.พ.) เปริซิช ก็มีอายุครบ 30 ปีแล้ว ทีมอย่างอาร์เซน่อลซื้อนักเตะอายุขนาดนี้ด้วยค่าตัวระดับนี้ยิ่งต้องคิดให้มากเพราะนั่นเท่ากับว่าเอางบที่น่าจะมีในช่วงซัมเมอร์มาใช้ถึง "ครึ่งนึง" ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น อีก 30-40 ล้านปอนด์ที่เหลือจะพอหรือไม่สำหรับการเสริมทัพตำแหน่งอื่น

ด้วยอายุหลักสามแบบนี้ การจะขายต่อเพื่อให้กำไรยิ่งเป็นไปได้ยาก นั่นจึงเป็นเป็นเหตุให้อาร์เซน่อลลังเลใจอย่างมากและต้องการยืมก่อนแล้วค่อยตัดสินใจอีกทีในช่วงซัมเมอร์

สถานการณ์ล่าสุด อีวาน เปริซิช แบะท่าพร้อมย้ายอยู่แล้วถึงขนาดขอขึ้นบัญชีย้าย ทำให้ ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ ต้องถอดชื่อออกจากทีมในนัดล่าสุดที่อินเตอร์บุกเยือนโตริโน่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

อีวาน เปริซิช พร้อมย้ายแต่ปืนใหญ่จะดึงตัวได้สำเร็จหรือไม่

จูเซ็ปเป้ มาร็อตต้า ผู้อำนวยการกีฬากล่าวยืนยันถึงเรื่องนี้ "เปริซิชขอย้ายทีม แต่เรายังไม่ได้รับข้อเสนอที่เหมาะสมสำหรับเขา เราจะรอดูกันในวันต่อไป เราจะรับฟังความต้องการของเปริซิช เขาขอย้ายทีมแล้ว เราพร้อมทำให้เขาพอใจ แต่ขณะเดียวกันเราก็ต้องการเม็ดเงินที่เหมาะสมด้วย"

เงื่อนปมของดีลนี้จะคล้ายดีลของ ซูอาเรซ คืออาร์เซน่อลต้องการยืมอย่างเดียว ขณะที่ต้นสังกัดจริงต้องการขายขาด หรือไม่ก็ต้องบังคับซื้อในช่วงซัวเมอร์ 

รอดูกันครับว่าสุดท้ายแล้ว "ใจ" ของฝ่ายไหนจะหนักแน่นมากกว่ากัน ซึ่งด้วยสถานการณ์ที่บีบบังคับสุดๆ แบบนี้ อาร์เซน่อล ดูจะเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบไม่น้อยและมีเวลาเป็นตัวเร่งให้ต้องรีบตัดสินใจ

อย่างไรก็ตาม ว่ากันตามจริงตอนนี้แล้ว ตำแหน่งตัวรุกยังไม่ใช่จุดที่เป็นปัญหามากสุด เพราะสิ่งที่ เอเมรี่ ต้องการแบบด่วนนรกแตกคือ "เซนเตอร์แบ็ก" หลังคู่เซนเตอร์อีก 2 คนเจ็บในนัดล่าสุด 

ตอนนี้จึงเหลือเพียง ชโคดราน มุสตาฟี่ คนเดียวที่มีประสบการณ์ ขณะที่ คอนสแตนตินอส มาฟโรปานอส กำลังเรียกฟิตอย่างสุดกำลังหลังเจ็บไปนานครึ่งปี แนวโน้มอาจถูกเข็นลงในเกมกับคาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ วันอังคารนี้ต่อให้ไม่เต็มร้อยก็ตาม

เว้นเสียแต่ว่า เอเมรี่ จะงัดลูกไม่เดิมคือให้ กรานิต ชาคา หรือไม่ก็ สเตฟาน ลิชต์สไตเนอร์ มายืนแก้ขัดอีกครั้ง

เกมกับคาร์ดิฟฟ์อาจพอเอาตัวรอดไปได้ แต่นัดต่อไปที่ต้องไปเยือนแมนฯ ซิตี้ ก็บอกได้เลยว่ามีโอกาสสูงมากกับความเป็นไปได้ 2 อย่าง 

ไม่ "เละเป็นโจ๊ก" ก็ "เละเป็นขี้"