:::     :::

แค่เสียดาย แต่อย่าเสียใจ

วันพฤหัสบดีที่ 31 มกราคม 2562 คอลัมน์ ศาสดา On The Ball โดย ศาสดาลูกหนัง
5,861
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ลิเวอร์พูลทำได้แค่เสมอกับเลสเตอร์ ซิตี้ 1-1 ในรังแอนฟิลด์ แต่ยังนำจ่าฝูงอยู่หลังจากจบเดือนมกราคม


             น่าเสียดายจริงๆ นะครับ  แมนฯซิตี้ของเป๊ป อุตส่าห์สะดุดด้วยการแพ้นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ดของอดีตผู้จัดการทีมหงส์แดง อย่างราฟา เบนิเตซให้แล้วแท้ๆ และลิเวอร์พูลมีโอกาสที่จะทำแต้มหนีแมนฯซิตี้เป็น 7 คะแนนได้แบบนี้ แต่สุดท้ายก็ทำได้เพียงแค่เสมอกับผู้มาเยือนอย่าง “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งถ้าจะว่ากันตรงๆ ก็ถือว่าน่าเสียดายอยู่ไม่น้อย แต่ถ้าใครได้ดูทั้งเกมและลดอาการหัวร้อนลงไปได้แล้ว อาจจะต้องยอมรับจริงๆ นะครับ ว่าผลเสมอแบบนี้ก็ถือว่า “โชคดี” แล้วในระดับหนึ่ง กับในวันที่ยากลำบากแบบนี้แล้วลิเวอร์พูลไม่เพียงแต่จะรักษาระยะห่างจากทีมตามอย่างแมนฯซิตี้ ไว้ได้ แต่ยังทำคะแนนฉีกหนีออกไปได้อีกด้วย แม้จะเพิ่มแค่ 1 คะแนน ไม่ใช่ 3 คะแนนอย่างที่หลายคนหวังก็ตาม

สภาพทีม - สภาพอากาศไม่เป็นใจ





            
ลิเวอร์พูลนั้นได้พักยาวๆ ติดต่อกันหลายวัน จากการที่โปรแกรมการแข่งขันน้อยลง และดูเหมือนว่าปัญหาเรื่องอาการบาดเจ็บของผู้เล่นจะหมดปัญหาไป แต่ในความเป็นจริงแล้วปัญหาเรื่องอาการบาดเจ็บของผู้เล่นลิเวอร์พูลดูจะเรื้อรังกว่าที่คิด ทำให้ในนัดนี้ลิเวอร์พูลจัดทีมแบบพิลึกพิลั่น อยู่พอสมควร โดยตำแหน่งแบ็กขวาที่มีปัญหา คลอปป์เลือกที่จะใช้จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ในตำแหน่งนี้ มากกว่าที่จะใช้ราฟาเอล คามาโช่ที่ไม่มีประสบการณ์ในเกมสำคัญๆ แบบนี้ และใช้บริการของนาบี  เกอิต้า ในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลางหรือ บ๊อกซ์ทูบ๊อกซ์ ซึ่งเขาจะถูกดึงลงต่ำลงมาจากธรรมชาติในการเล่นของเขาซึ่งก็มาจากปัญหาความฟิตของฟาบินโญ่นั่นเอง และนอกเหนือจากปัญหาเรื่องผู้เล่นของลิเวอร์พูลแล้ว ปัญหาเรื่องสภาพอากาศก็มีส่วนในการเล่นของลิเวอร์พูลอยู่เหมือนกัน จากการที่มีหิมะตกหนักมากๆ ขนาดที่สนามของลิเวอร์พูลมีเครื่องละลายหิมะแล้วเราก็ยังเห็นสนามมีหิมะปกคลุมอยู่ตลอดเรื่อยๆ นั่นทำให้การควบคุมน้ำหนักบอล เป็นไปได้ยาก และด้วยธรรมชาติของทีมลิเวอร์พูลที่เน้นการต่อบอลและการเคลื่อนตัวค่อนข้างมากแบบนี้ อากาศที่หนาวเย็นจัด และสภาพสนามค่อนข้างไม่เป็นใจกับพวกเขาเลยจริงๆ




จุดเปลี่ยนสำคัญ 



            
จริงๆ เกมนี้ลิเวอร์พูล ถือว่าไม่ได้เล่นแย่อะไรมากมายนักนะครับ พวกเขาเริ่มต้นได้สวยงามมากๆ ด้วยซ้ำจากการขึ้นนำตั้งแต่ไก่โห่จาก ซาดิโอ มาเน่ และพวกเขาก็พยามหาโอกาสส่องประตูที่ 2 อยู่เรื่อยๆ เพียงแต่ยังไม่สามารถเอาชนะการเซฟของชไมเคิ่ลได้เท่านั้น จนล่่วงเลยมาถึงจุดเปลี่ยสำคัญจุดแรก คือการเสียฟาวล์โดยไม่จำเป็นจากแอนดี้ โรเบิร์ตสันช่วงท้ายเกม  เพราะจริงๆ แล้วจังหวะนั้นเขาไม่จำเป็นต้องทำฟาลว์ก็ได้แต่ก็เข้าพรวดไป และจากฟรีคิกครั้งนี้เอง ก็เป็นเหตุมาให้ลิเวอร์พูลเสียประตูตีเสมอไปจนได้ ทั้งๆ ที่จะหมดเวลาอยู่แล้ว ซึ่งถือว่าน่าเสียดายจริงๆ เพราะถ้าหมดครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ 1-0 ลิเวอร์พูลอาจจะได้ 3 คะแนนจากเกมนี้ไปในท้ายที่สุดก็ได้ 

             


            
จุดเปลี่ยนที่สำคัญมากๆ อีกอย่าง คือ  การตัดสินของกรรมการ”  นั่นเองครับ ว่ากันตรงๆ คือ ต่อให้คุณแช่งลิเวอร์พูลยังไงก็ตาม ถ้าคุณมีความเป็นกลางพอ คุณจะเห็นได้เลยว่า เกมนี้กรรมการค่อนข้างไม่เป็นใจกับลิเวอร์พูลซักเท่าไรครับ  การเป่านกหวีดหลายๆ ครั้งส่งผลเสียมากกว่าผลดีกับฝั่งเจ้าบ้านชัดเจน  ทั้งจังหวะที่แฮร์รี่ แมกไกวร์ สกัดมาเน่ ในจังหวะหลุดเดี่ยว ซึ่งถ้าโหดๆ หน่อยจะให้ใบแดงยังได้ แต่ก็ให้แค่ใบเหลือง โอเคจังหวะนี้อาจจะไม่ชัดเจน ยกประโยชน์ให้จำเลยได้ แต่จังหวะที่สมควรจะเป็นจุดโทษมากๆ จากจังหวะหลุดเข้าไปล่อเป้าของนาบี เกอิต้า และจังหวะที่มาเน่ได้โอกาสยิงเหน่งๆ แต่กรรมการจับเป็นลูกล้ำหน้าไปซะอย่างนั้น  ซึ่งถ้าว่ามองกันจริงๆ จังหวะลูกที่เลสเตอร์ได้ประตูตีเสมอ ก็ลักษณะคล้ายๆ แบบนี้ แต่กรรมการดันไม่เป่าล้ำหน้าเฉย (ไม่ได้บอกว่าแมกไกวร์ล้ำนะครับ) จุดเปลี่ยนสำคัญนี้เองที่ฉุดแต้มของลิเวอร์พูลให้หยุดอยู่เพียงแค่ 1 คะแนนในเกมนี้



เทพีแห่งโชคยังอยู่ข้างหงส์แดง           


            
ถึงจะบอกว่าเสียดายยังไงก็ตาม แต่ถ้ามองกันในแง่ของความเป็นจริง ยังถือว่าลิเวอร์พูลยังโชคดีอยู่ครับ รูปเกมแบบนี้ เกมที่ไม่ค่อยเป็นใจแบบนี้ ถ้าเป้นปกติหรือปีก่อนๆ บอกเลยว่า “พัง” ไปแล้ว แต่นี่ลิเวอร์พูลยังสามารถเก็บแต้มในเกมแบบนี้ได้ และยิ่งโชคดีอีกชั้น ที่ในเกมที่ลิเวอร์พูลสะดุดแบบนี้ ทีมคู่แข่งอย่างแมนฯ ซิตี้ ก็ยังมาสะดุดด้วยเหมือนกัน ลองคิดง่ายๆ ว่า ถ้า แมนฯซิตี้ เก็บ 3 คะแนนได้กับนิวคาสเซิ่ล และลิเวอร์พูล สะดุดเสมอแบบนี้ แต้มที่ห่างจาก 5 คะแนนในความเป็นจริง  จะเหลือแค่ 2 คะแนน ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นจริง สถานการณ์ของลิเวอร์พูลจะลำบากกว่านี้เยอะมากพอสมควรเลยทีเดียวครับ


 




             การสะดุดของพวกเขาในเกมนี้แค่ “น่าเสียดาย” ครับแต่ในการลุ้นแชมป์ลีกของพวกเขา เรียกได้ว่าไม่มีอะไรที่เสียหายเลย การสะดุดแบบนี้แต่กลับมีช่องว่างของคะแนนเพิ่มมากขึ้นเสียด้วยซ้ำ  สถานการณ์ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ไม่ว่าจะยังไงก็ตามที่ 1 ของตารางตอนนี้ยังเป็นลิเวอร์พูลเหมือนเดิม และทุกอย่างยังอยู่ในมือของพวกเขาเหมือนเดิมครับ

 

จบเดือนมกราคมแล้ว การชิงชัยเหลืออีกแค่ 14 เกม เวลางวดเข้ามาเรื่อยๆ ยิ่งเกมเหลือน้อยลงเท่าไหร่ ฝ่ายที่จะกดดันก็คือ ทีมที่ไล่ตามครับ ในขณะที่ทีมนำแค่รักษาช่องว่างให้เท่าเดิม หรืออย่างน้อยไม่พลาดให้โดนแซงง่ายๆ คำว่า “ผู้ชนะ” ไม่มีทางหนีไปไหนครับ

 

จนกว่าจะถึงวันนั้น ... อดทนกันหน่อยนะ เหล่าเดอะ ค็อป ทั้งหลาย ไหนๆก็รอมาตั้ง 29 ปีแล้ว รออีกนิดจะเป็นอะไรไป

 

 

 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด