เมื่อยังไม่มีใครทราบแบบแน่ชัดว่า "เอแด็น อาซาร์" จะอยู่กับเชลซี ต่อไปในฤดูกาลหน้าหรือไม่ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า เขายังเป็นฟันเฟืองสำคัญ และซูเปอร์สตาร์หมายเลขหนึ่งของทีม ในการพาทีมไล่ล่าความสำเร็จที่ยังหลงเหลือในฤดูกาลนี้
ช่วงนี้เราไปพบกับบทสัมภาษณ์แบบสบายๆของดาวเตะทีมชาติเบลเยี่ยม กัน ถึงเรื่องราวต่างๆ ทั้งในและนอกสนาม
ช่วยเล่าความทรงจำวัยเด็กให้เราฟังหน่อย ?
"ผมมีความทรงจำมากมายเกี่ยวกับลูกฟุตบอล ผมมักเตะฟุตบอลกับพี่น้องในสวน พร้อมกับมีหินด้วย ผมมีความทรงจำที่ดีๆมากมายจริงๆ"
ช่วงเวลาที่เริ่มเข้าสู่ระบบเยาวชนกับทีมเล็กๆที่บ้านเกิดล่ะ ?
"ผมเริ่มต้นที่นั้น พร้อมกับเพื่อนๆ ผมมีเพื่อนมากมายอยู่ในทีมตอนนี้ เป็นเรื่องดี กับการเล่นฟุตบอลกับเพื่อนในหมู่บ้านเล็กๆ รวมถึงเล่นให้กับทีมเล็กๆด้วย ผมเล่นฟุตบอลอยู่ที่นั่นประมาณ 5-6 ปี จากนั้นก็ย้ายไปร่วมทีมที่ใหญ่กว่า นั่นคือที่ตูบิเซ่"
ที่ตูบิเซ่ ช่วยพัฒนาฝีเท้าของคุณอย่างไรบ้าง ?
"มันง่ายมากเลย ในการย้ายไปร่วมทีมตูบิเซ่ ผมได้เรียนรู้อะไรมากมายจากที่นั่น เพราะนี่คือสโมสรที่ยอดเยี่ยม และประกอบไปด้วยนักเตะที่ยอดเยี่ยมเช่นเดียวกัน ดังนั้น มันจึงเป็นเรื่องดีต่อตัวผมเอง ผมบอกกับครอบครัวว่า ผมอยากย้ายไปทีมที่ดีกว่า จากนั้น ครอบครัวก็ตอบกลับมาว่า -โอเค งั้นเราลองไปที่ตูบิเซ่- มันเป็นทางเลือกที่ดีเลย หลังจากนั้น ผมก็ตัดสินใจย้ายไปเล่นในประเทศฝรั่งเศส"
เมื่อคุณย้ายไปร่วมระบบอะคาเดมี่ของลีลล์ คุณพบความเปลี่ยนแปลงในแง่มุมใดบ้าง ?
"มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย โดยเฉพาะกับเด็กชายอายุ 14 อย่างผม มันเปลี่ยนแปลงทุกอย่างไป ผมออกห่างจากบ้าน และต้องไปหลับนอนที่สนามฝึกซ้อม ผมได้เข้าเรียนที่โรงเรียนที่นั่นด้วย ผมมีความทรงจำหลายอย่างที่นั่น เมื่อผมอายุได้ 16 ขวบ ผมก็ได้มีโอกาสไปฝึกซ้อมกับทีมชุดใหญ่ ในที่สุด ผมก็ได้เล่นฟุตบอลอาชีพอย่างเป็นทางการ"
พี่น้องของคุณอีก 3 คนเป็นนักฟุตบอลทั้งหมด มีการแข่งขันระหว่างพวกคุณบ้างหรือไม่ ?
"มันเป็นแบบนั้นเสมอ เรามักเลนฟุตบอลกันแบบดวลตัวต่อตัว หรือไม่ก็ 1 เจอ 2 ถือว่าเป็นอะไรที่สนุกมาก ซึ่งชัยชนะ หรือว่าความพ่ายแพ้ไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุด เราแค่สนุกกับทุกเหตุการณ์ หากย้อนเวลากลับไปทำแบบนั้นได้อีกครั้ง ผมก็จะทำมันอย่างแน่นอน"
คุณเล่นฟุตบอลด้วยกันที่บ้าน เมื่อได้กลับมาพบกันหรือเปล่า ?
"ไม่มากหรอก เพราะเราต่างต้องเล่นให้กับสโมสรของตัวเอง หากคุณมีเวลาว่าง ก็อยากใช้มันไปกับการพักผ่อนมากกว่า พร้อมกับใช้เวลาเล่นกับบรรดาลูกๆของตัวเองด้วย อย่างไรก็ตาม ผมหวังว่าสักวัน ผมจะได้เล่นร่วมกับน้องชายในนามทีมชาติ และสโมสรเดียวกัน บางที มันอาจจะเกิดขึ้นในสักวันหนึ่ง"
คุณเป็นพี่ชายคนโต คุณคิดว่ามันช่วยให้คุณเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ในฐานะของผู้เล่นหรือไม่ ?
"ผมไม่รู้จริงๆ หากว่าผมกลายเป็นแบบอย่างให้กับน้อง ผมก็จะพยายามทำแบบนั้น ผมคิดว่ามีหลายอย่างที่น้องสามารถเรียนรู้จากตัวผมได้ เมื่อคุณเกิดก่อน และแสดงตัวอย่างที่ดีให้เห็น รวมถึงเป็นแบบอย่างที่ดีด้วย"
คุณมักจะพูดเสมอว่า ตัวเองต้องการสิ่งที่ดีที่สุด คุณมีวิธีการอย่างไร ในการบรรลุเป้าหมายนั้น ?
"หากผมต้องการความเป็นที่สุด ผมจำเป็นต้องยิงประตูมากๆ และทำงานให้หนัก เพราะนั่นคือสิ่งที่ทุกคนคิด ดูอย่างคริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นตัวอย่างก็ได้ หากผมต้องการเป็นที่สุด ก็ต้ลองทำงานของตัวเองต่อไป ยิงประตูให้มากๆ และชนะเกมการแข่งขันให้เยอะๆ รวมถึงคว้าแชมป์มาครองให้มากที่สุดด้วย"
ในการแข่งขันพรีเมียร์ลีก และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เกือบทุกฤดูกาล คุณเป็นคนที่โดนทำฟาวล์เป็นจำนวนมาก ทำไมฝ่ายตรงข้ามถึงพยายามจะหยุดคุณ ?
"ผมไม่รู้ว่านั่นเป็นเรื่องที่ดีหรือไม่ แต่มันเป็นวิธีการเล่นที่ผมชอบ ผมชอบครองบอล และมันอยู่กับเท้า ผมพยายามเล่นในแนวทางนั้น แม้มันจะจบลงด้วยการโดนไล่เตะก็ตาม ผมชอบที่จะเรียกฟรีคิก หรือเรียกจุดโทษให้กับทีม พร้อมกับพาทีมเก็บชัยชนะ นั่นคือฟุตบอลของผม คู่แข่งอาจจะไล่ทำฟาวล์ผม แน่นอนว่า ผมไม่สนใจหรอก"
ผู้เล่นเชลซี คนไหนที่มีอิทธิพลต่อคุณ ?
"มีหลายคน โดยเฉพาะดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ซึ่งเป็นตำนานของสโมสรแห่งนี้ ผมเป็นเกียรติมากที่ได้เล่นร่วมกับแฟร้งค์ แลมพาร์ด และได้เรียนรู้อะไรจากเขา คนที่ผมกล่าวมา เอาชนะมาหมดทุกอย่างแล้ว ถ้าผมก้าวไปอยู่ระดับนั้นบ้าง ผมคงมีความสุขมากๆ”
คุณชอบดูกีฬาชนิดไหนอีกบ้าง ?
"ผมชอบดูบาสเก็ตบอลเอ็นบีเอ ผมพยายามดูทุกครั้ง เมื่อผมมีเวลา และไม่สายจนเกินไป ความจริงผมชอบกีฬาหลากหลายประเภท ผมดูการแข่งขันแฮนด์บอล และรักบี้ ผมชอบบรรยากาศของเกมเหล่านี้"
