แต่เชื่อเหอะ กระแสดราม่าในบ้านเราอยู่ได้ไม่นานก็จางหายไปไม่เหมือนกับหนึ่งในเพลงดังของเขาที่ชื่อว่า 'ภาพจำ'

    ทว่าหากเพลงนั้นถูกยกมาให้กับกองเชียร์ เอซี มิลาน คงต้องบอกว่าถูกต้องเหมาะเจาะ

    ทุกวันนี้แม้ยักษ์หลับอย่างทัพรอสโซเนรี่จะผลงานดีขึ้นมาผิดหูผิดตา แต่ก็เทียบไม่ได้เลยกับความยิ่งใหญ่เกรียงไกรในสมัยอดีตที่มีนักเตะอย่าง ริคาร์โด้ กาก้า และ อังเดร เชฟเชนโก้ เป็นแกนหลัก

    ปัจจุบัน มิลาน ทีมเดียวกันนี้ไม่มีรางวัลสคูเด็ตโต้ติดมือเลยนับตั้งแต่ปี 2011

    แต่ขณะนี้พวกเขาอาจจะมีหวังได้เห็นเรื่องราวที่เหมือนเป็นเดจาวูเกิดขึ้นซ้ำรอย

    คริสตอฟ พิออนเท็ค กับ ลูคัส ปาเกต้า กำลังทำให้เหล่าแฟนบอลกระชุ่มกระชวยจนทำให้ความรู้สึกในช่วงต้นปี 2000 ย้อนกลับมาในหัวเช่นเดียวกับยุคของ เชฟเชนโก้ และ กาก้า

    ในตอนที่คู่หูยูเครนแอนด์บราซิเลี่ยนยังอยู่ภายใต้ร่มเงาของ มิลาน พวกเขาช่วยให้ทีมประสบความสำเร็จอย่างมากมายไม่ว่าจะเป็นในประเทศ และเวทียุโรป

    ความเก่งกาจเฉพาะตัวระดับ เชฟเชนโก้ กับ กาก้า ไม่ใช่ว่าจะหาใครมาแทนที่ได้ง่ายๆ

    การรู้ใจแบบไม่ต้องมองหน้าของทั้งคู่ได้รังสรรค์ทั้งความสวยงาม และประตูจนทำให้ทีมกลายเป็นที่หวั่นเกรงมากที่สุดในยุโรปเลยทีเดียว

    จนกระทั่งในที่สุด การครองบัลลังก์อย่างยาวนานของทั้งคู่ก็สิ้นสุดลง พร้อมนำพาความแห้งแล้งมาสู่ถิ่นซาน ซิโร่ แบบไม่มีหยุดหย่อน

    มันกินเวลามานานมาก

    กระทั่ง!!!

    พิออนเท็ค และ ปาเกต้า ปรากฎตัวขึ้นพร้อมกันในสีเสื้อมิลาน ซึ่งนั่นก็ทำให้สาวกรอสโซเนรี่กลับมามีความหวังว่าทีมรักจะกลับไปเป็นสุดยอดทีมอีกครั้ง

    ทั้งคู่ตบเท้าเข้าถิ่นซาน ซิโร่ ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยอีกคนมาจาก เจนัว ส่วนอีกคนมาจาก ฟลาเมงโก้

    ไม่มีใครคิดว่าพวกเขาจะปรับตัวให้เข้ากับทีมใหม่ สถานที่ใหม่ และบรรยกาศใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็ว

    แต่มันก็เกิดขึ้นในชั่วพริบตา

    แค่ย้อนกลับไปเพียงขวบปี ทั่วยุโรปมีใครรู้จักชื่อของ พิออนเท็ค บ้างไหม แต่ชั่วโมงนี้ทั้งผลงานกับ เจนัว ในช่วงครึ่งซีซั่นแรก และต่อยอดความร้อนแรงกับ มิลาน หลังจากนั้นทำให้หัวหอกทีมชาติโปแลนด์มีสกอร์ตามหลัง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในเซเรีย อา เพียงประตูเดียวเท่านั้น

    หัวหอกวัย 23 ปียิงไป 7 ประตู จาก 8 นัดรวมทุกรายการในถิ่นซาน ซิโร่ และนั่นก็ทำให้เขากลายเป็นทำสถิติเช่นเดียวกับยอดดาวดังอย่าง โอลิเวอร์ เบียร์โฮฟฟ์ ที่ยิงได้ตลอด 4 นัดแรกที่ลงตัวจริงในลีก

    ความเหมือนของดาวยิงเลือดโปลกับ เชฟเชนโก้ ก็คือเขามีสปีดต้นที่รวดเร็ว แถมยังเคลื่อนไหวได้อย่างชาญฉลาด และเฉียบคมมากในการจบสกอร์แบบตัวต่อตัว

    อิมแพ็คท์อย่างทันท่วงทีของเขาทำให้ มิลาน แทบยิ้มแก้มฉีก เนื่องจากที่้เหลือในทีมพวกเขาก็มีเพียง พาทริค คูโตรเน่ ซึ่งยังไร้ประสบการณ์ และ ฟาบิโอ บอรินี่ ที่ปัจจุบันแทบจะลืมการเล่นกองหน้าไปแล้ว

    แน่นอน หากมี แบทแมน ก็ต้องควบคู่ด้วย โรบิน และ โรบิน ที่จะคอยมาสนับสนุน แบทแมน อย่าง พิออนเท็ค ก็คือ ปาเกต้า

    แม้ดาวเตะวัย 21 ปีจะเพิ่งลงเล่นร่วมกับ พิออนเท็ค ได้ไม่นานเท่าไหร่ แต่พวกเขาก็โชว์การประสานงานได้อย่างรู้ใจรวมถึงทำแอสซิสต์ให้กันไปแล้ว

    ในขณะที่ กาก้า ในวัยเยาว์มี อันเดรีย ปีร์โล่, คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ และ เจนนาโร่ กัตตูโซ่ เป็นพี่เลี้ยง ตอนนี้ ปาเกต้า ก็มีทั้ง ฟร้องค์ เกสซีเย่ และ ตีเยมูเอ้ บากาโยโก้ ที่คอยช่วยเหลือเช่นเดียวกัน

    แม้สถิติเปิดตัวด้วยการยิง 1 ลูก และทำอีก 1 แอสซิต์จะยังไม่สามารถพูดได้เต็มปากว่า ปาเกต้า นั้นดีระดับเดียวกันกับพวกรุ่นพี่ แต่ด้วยเทคนิคเฉพาะตัว และทักษะที่แสดงออกมาก็บ่งบอกว่าเขาเองก็พร้อมที่จะก้าวขึ้นไปเป็นแข้งระดับโลกเหมือนกัน

    ลองมองดูในทีม มิลาน ตอนนี้สิ หากไม่นับ ซูโซ่ ที่เป็นตัวเรียกเสียงฮือฮาจากเหล่ากองเชียร์ด้วยทักษะชั้นยอดแล้ว มันก็แทบจะหาสิ่งเหล่านั้นจากใครไม่ได้เลยหากไม่ใช่ ปาเกต้า

    ยูเวนตุส อาจจะครองเจ้าของเวทีเซเรีย อา มาหลายปีหลัง และมันก็น่าผิดหวังที่ มิลาน กระเด็ดตกรอบยูโรปา ลีก ไปตั้งแต่ไก่โห่ ดังนั้นถ้วยโคปปา อิตาเลีย คือรายการเดียวที่พวกเขายังหวังได้ในซีซั่นนี้

    และหากสุดท้ายแล้วพวกเขาถึงขั้นผงาดคว้าแชมป์บอลถ้วยนั้นมาครองได้

    มันอาจเป็นจุดเริ่มต้นแสนสวยหรูที่ 'ภาพจำ' ในวันวานจะหวนกลับมาหาสาวกรอสโซเนรี่อีกครั้งนึง

    พาสต้า