???

    เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ในปัจจจุบันกำลังดูเหมือนกองหน้าที่ยอดเยี่ยมที่สุดในลีกอังกฤษที่กลายเป็นฮีโร่ในแต่ละวันที่เดินลงสู่สนาม

    การพุ่งทะยานของ ฟาน ไดค์ ในฤดูกาลนี้มันเหมือนกับว่าเขากำลังวิ่งแบบไม่หยุด ขณะที่คนอื่นๆ เอาแต่เดินเล่นกันไปมา แน่นอนว่าการเปรียบเทียบนั้นอาจไม่เวิร์คเท่าไหร่ เพราะในความเป็นจริงมันไม่ได้มีเหงื่อออกจากหน้าผากของแข้งดัตช์แมนเลยในตอนจบเกม

    ฟอร์มของเขาในตรงกลางของแผงแบ็กโฟร์ทำให้ ลิเวอร์พูล กลายเป็นทีมที่มีแนวรับดีที่สุดในลีกแบบน่าตกใจ เมื่อเทียบกับหลายปีที่ผ่านมา

    หากไม่มีอุบัติเหตุร้ายแรงเกิดขึ้นแบบไม่คาดฝัน เซนเตอร์ฮาล์ฟวัย 27 ปีคนนี้น่าจะผงาดคว้าตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอเมื่อจบซีซั่น

    เขาจะกลายเป็นกองหลังคนแรกที่ได้รางวัลนี้นับตั้งแต่ จอห์น เทอร์รี่ ทำได้เป็นคนสุดท้าย

    ย้อนกลับไปในช่วงที่ เทอร์รี่ ยังครองความรุ่งเรืองบนลีกสูงสุดเมืองผู้ดี ช่วงเวลาดีที่สุดของเขากับ เชลซี เกิดขึ้นในปี 2004-05

    มันก็เช่นเดียวกับ ฟาน ไดค์ เขามีคำตอบทั้งหมดสำหรับการเป็นปราการหลังชั้นยอดในลีกระดับท็อป แต่การนำศิลปะของการป้องกันมาเป็นจุดเด่นไม่ใช่เพียงอย่างเดียวที่ ฟาน ไดค์ และ เทอร์รี่ ในปี 2004-05 ได้ทำไว้

    สิ่งที่เหมือนกันอีกอย่างก็คือ ตอนนี้หงส์แดงแพ้เพียงเกมเดียวในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ต่อ แมนฯ ซิตี้ ส่วน เชลซี เองก็แพ้เพียงนัดเดียวในลีกปี 2004-05 ต่อทีมเรือใบเหมือนกันในช่วงครึ่งซีซั่นแรก

    แต่ แมนฯ ซิตี้ ในตอนนั้นกับตอนนี้มันก็เทียบกันไม่ได้หรอก เพราะขุมกำลังช่างต่างกันเหลือเกิน

    เวลานี้ทีมเรือใบมีทั้ง เซร์คิโอ อเกวโร่, ลีรอย ซาเน่ และ ราฮีม สเตอร์ลิง ขณะที่ย้อนกลับไปเกิน 10 ปียังเป็นพวก พอล บอสเวลท์, ซุน จี ไห่ และ จอน แม็คเคน ที่เป็นตัวชูโรง

    แต่ก็อีกนั่นแหละ ตราบใดที่ อัลเบร์โต้ โมเรโน่ หรือ เดยัน ลอฟเรน ไม่ก่อเหตุผิดพลาด หรือทำอะไรเหวอๆ หงส์แดงก็จะกลายเป็นทีมที่มีเกมรับแข็งแกร่งที่สุดในพรีเมียร์ลีกเช่นเดียวกับ เชลซี ในปี 2005 และมันก็จะโยงความเหมือนระหว่าง ฟาน ไดค์ และ เทอร์รี่ ได้อีกครั้ง

    ความยอดเยี่ยมที่คล้ายกันของทั้งสองยังไม่หมดแค่นั้น

    ในความสำเร็จส่วนตัวที่เราหยิบยกเรื่องนี้มาพูด พวกเขาก็ต่างคว้านักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนในพรีเมียร์ลีกมาได้เหมือนกัน ของอดีตแนวรับสิงห์บลูส์เกิดขึ้นเมื่อเดือนมกราคม ปี 2005 ส่วน ฟาน ไดค์ นั้นเพิ่งจะได้ไปเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมานี่เอง นั่นเป็นเส้นทางที่สามารถก้าวไปสู่การเป็นแข้งยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอ

    นอกจากนี้ ทั้งสองยังสามารถคุยโม้โอ้อวดกันได้ถึง 3 ประตูที่ทำในลีกของแต่ละฤดูกาลของตัวเอง

    ในรายของ เทอร์รี่ ยิงได้ 2 เม็ดในเกมพบ ชาร์ลตัน ก่อนที่จะระเบิดตาข่ายใส่ อาร์เซน่อล ขณะที่ ฟาน ไดค์ มีชื่อบนสกอร์บอร์ดในเกมพบ วูล์ฟส์ และก็อีก 2 ลูกกับ วัตฟอร์ด

    แต่สิ่งหนึ่งที่ยังเป็นเครื่องหมายคำถามอยู่ก็คือ สุดท้ายแล้ว เทอร์รี่ พา เชลซี ก้าวไปถึงแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2004-05

    แต่สำหรับ ลิเวอร์พูล เมื่อผ่านเกมกับ เบิร์นลี่ย์ ไปในคืนวันอาทิตย์ก็จะเหลือโปรแกรมอีก 8 นัด

    ต้องรอดูกันว่าเมื่อตอนจบของละครเรื่องนี้มาถึง ฟาน ไดค์ จะทำได้เหมือนกับ เทอร์รี่ อย่างสมบูรณ์แบบรึเปล่า

    เดอะ ค็อป ทั้งหลายเองก็คงหวังให้มันเป็นแบบนั้น

    พาสต้า