ในโลกลูกหนังไม่มีใครไม่รู้จักนักเตะที่ชื่อ อาร์เยน ร็อบเบน ปีกชาวดัตช์ที่โลดแล่นในวงการมานานร่วม 2 ทศวรรษ นับตั้งแต่เริ่มเล่นฟุตบอลกับ โกรนิงเก้น เมื่อปี 2000 

ก่อนจะย้ายมาสร้างชื่อกับ พีเอส ไอนด์โฮเฟ่น ในปี 2002 จนกระทั่ง เชลซี คว้าตัวร่วมทีมอีก 2 ปีต่อมาและย้ายมาเล่นกับ เรอัล มาดริด ในปี 2007 จากนั้นจึงโยกมาอยู่กับ บาเยิร์น มิวนิค ตั้งแต่ปี 2009 จนถึงปัจจุบันและกำลังจะอำลาทีมเสือใต้หลังจบซีซั่นนี้ 

ลีลาการเล่นของ ร็อบเบน ที่คุ้นตาแฟนบอลมากที่สุดคือการลากบอลจากกราบขวาตัดเข้ากลางก่อนสับไกยิงด้วยเท้าซ้ายข้างถนัด แม้คู่แข่งจะทราบดีถึงแนวทางการเล่นของมิดฟิลด์วัย 35 ปี แต่หลายต่อหลายครั้งก็พลาดท่าเสียประตูให้ปีกชาวดัตช์แบบรู้ทั้งรู้ 

ตลอดช่วง 2 ทศวรรษในอาชีพค้าแข้งโดยเฉพาะช่วงที่เล่นกับ บาเยิร์น มิวนิค ตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมามีช่วงเวลาในความทรงจำของร็อบเบนและแฟนบอลที่ติดตามผลงานของปีกชาวดัตช์เสมอมา ซึ่งมี 10 โมเมนต์สำคัญดังนี้ 

1.เกมประเดิมสนามกับ โวล์ฟสบวร์ก, วันที่ 29 สิงหาคม 2009

ตอนที่ ร็อบเบน ย้ายจาก เรอัล มาดริด มาค้าแข้งกับ บาเยิร์น มิวนิค ในช่วงซัมเมอร์ปี 2009 มีการตั้งข้อสงสัยว่าปีกชาวดัตช์จะเข้ากับทีมดังแคว้นบาวาเรียมากน้อยเพียงใด 

ร็อบเบน ไม่ต้องใช้เวลานานนักในการตอบข้อสงสัยเหล่านั้นด้วยการหุบปากเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตั้งแต่เกมประเดิมสนามกับ โวล์ฟสบวร์ก ซึ่งเป็นเจ้าของแชมป์บุนเดสลีกาซีซั่น 2009-2010

เขาเปิดตัวบนเวทีบุนเดสลีกาด้วยการเป็นตัวสำรองลงมาเล่นแทน ฮามิต อัลตินท็อป ก่อนปีกชาวดัตช์จะกดคนเดียวสองประตูในช่วงครึ่งเวลาหลัง ซึ่งมาจากการทำทางของ ฟร้องค์ ริเบรี่ ทั้งสองประตู ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของคู่หู'ร็อบเบน-ริเบรี่'ก่อนทีมเสือใต้จะขย้ำแชมป์เก่าจมเขี้ยว 3-0 หลังได้ประตูเบิกร่องตั้งแต่ช่วงกลางครึ่งแรกจาก มาริโอ โกเมซ

2.แฮตทริคแรกในบุนเดสลีกา, วันที่ 17 เมษายน 2010

มันอาจเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจที่ ฟร้องค์ ริเบรี่ ไม่มีส่วนร่วมกับการทำแฮตทริคแรกของ ร็อบเบน ในเกมกับ ฮันโนเวอร์ นัดที่ 31 ของซีซั่น 2009-2010 

มาร์ค ฟาน บอมเมล, ฟิลิปป์ ลาห์ม กับ อนาโตลี ติมอสชุค เป็นคนทำทางให้ปีกชาวดัตช์ นอกจากจะเป็นการทำแฮตทริคแรกกับทีมเสือใต้แล้ว ร็อบเบน ยังทำอีกหนึ่งแอสซิสต์ในเกมดังกล่าวที่ถล่มคู่แข่งขาดลอย 7-0

3.แชมป์บุนเดสลีกาครั้งแรก, ผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปี 2010

เพียง 2 สัปดาห์หลังการทำแฮตทริคแรก, ร็อบเบน ฉลองการคว้าแชมป์บุนเดสลีกาครั้งแรกของเขากับ บาเยิร์น มิวนิค หลังยิง 2 ประตูในเกมชนะ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน 3-1 

ร็อบเบน จบซีซั่นด้วยการเป็นดาวซัลโวประจำทีมเสือใต้จากการยิง 16 ประตู ซึ่งเป็นผลงานดีสุดอันดับ 2 ในสีเสื้อบาเยิร์นและต่อมาปีกชาวดัตช์ได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของลีกเมืองเบียร์ 

4.โชว์ฟอร์มเทพสยบ ซังต์ เพาลี, วันที่ 7 พฤษภาคม 2011

บาเยิร์น มิวนิค เสียบัลลังก์แชมป์ให้ ดอร์ทมุนด์ ในซีซั่น 2010-11 แต่อาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้ถ้าหาก ร็อบเบน ไม่บาดเจ็บในช่วงครึ่งแรกของฤดูกาล 

เมื่อฟิตกลับมาลงสนาม ปีกชาวดัตช์ยังทำผลงานยอดเยี่ยมด้วยการยิง 12 ประตูและทำ 14 แอสซิสต์ ทว่า บาเยิร์น มิวนิค เข้าป้ายอันดับ 3 ตามหลังแชมป์ ดอร์ทมุนด์ ถึง 10 คะแนน 

ความโชคร้ายตกอยู่กับ ซังต์ เพาลี ในเกมก่อนนัดสุดท้ายของฤดูกาล หลังทีมเสือใต้ไม่มีความปราณียิงสลุตคู่แข่งด้วยสกอร์ 8-1 ซึ่ง ร็อบเบน ยิงสองประตูกับทำ 3 แอสซิสต์ 

5.ทริเปิ้ลแชมป์

ร็อบเบน กลับบ้านมือเปล่าในซีซั่น 2011-12 หลังพลาดแชมป์บุนเดสลีกาให้ทีมคู่ปรับ ดอร์ทมุนด์ ก่อนพ่าย เชลซี ในนัดชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกจนเป็นปีที่ปีกพ่อมดอยากลบมันไปจากความทรงจำ 

ก่อน บาเยิร์น มิวนิค จะกลับมาผงาดอีกครั้งในซีซั่น 2012-13 ซึ่ง ร็อบเบน ช่วยทีมเสือใต้สร้างประวัติการณ์คว้า'ทริเปิ้ลแชมป์'ทั้ง บุนเดสลีกา, ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก กับ เดเอฟเบ โพคาล 

บาเยิร์น กระชาก ดอร์ทมุนด์ ตกจากบัลลังก์ลีกเมืองเบียร์และร็อบเบนยังนำทีมเสือใต้สยบทีมเสือเหลืองในรอบชิงชนะเลิศของศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งมันเป็นหนึ่งในภาพประวัติศาสตร์ของสโมสรที่แฟนบอลไม่อาจลืมเลือน 

6.ขิงแก่ยิ่งเผ็ด, ซีซั่น 2014-15

คนส่วนใหญ่มองว่า ร็อบเบน จะมีแรงกระตุ้นน้อยลงเมื่ออายุแตะหลัก 30 ปี แต่ปีกชาวดัตช์พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาเป็นเหมือนขิงที่ยิ่งแก่ยิ่งเผ็ดไม่ได้คลายพิษสงลงแม้แต่น้อยและยังดูดีขึ้นเมื่ออายุมากขึ้นอีกด้วย

ร็อบเบน ยิงประตูแตะเลขสองหลักเป็นครั้งที่ 4 ใน 5 ซีซั่นในฤดูกาล 2013-14 และยังดีขึ้นในปีถัดไปด้วยการกระทุ้ง 17 ประตู เป็นสถิติดีสุดในอาชีพบนเวทีบุนเดสลีกาและยังทำอีก 7 แอสซิสต์ในฤดูกาลนั้นด้วย 

7.ชนะเกมที่ 100 บนเวทีบุนเดสลีกา, ฤดูกาล 2014-15

ศึกบุนเดสลีกา ซีซั่น 2014-15 เป็นอีกหนึ่งฤดูกาลที่มีความสำคัญในอาชีพค้าแข้งของ อาร์เยน ร็อบเบน เช่นเดียวกัน

แมตช์การแข่งขันที่ 24 ของฤดูกาล ที่ บาเยิร์น มิวนิค บุกชนะ ฮันโนเวอร์ 3-1 เป็นการนำทีมเสือใต้คว้าชัยเกมที่ 100 ของปีกชาวดัตช์ด้วยจำนวนเกมที่สั้นสุดในประวัติศาสตร์เพียง 126 นัดเท่านั้น 

แม้ว่า ร็อบเบน จะต้องรอทำสถิติดังกล่าวจากการลงเล่นกับทีมเสือใต้ถึง 6 ฤดูกาล แต่ถ้าหากเขาไม่บาดเจ็บ ปีกชาวดัตช์มีโอกาสนำทีมคว้าชัยชนะครบ 100 เกมด้วยจำนวนนัดลงเล่นน้อยกว่าเดิมแน่ 

8.นักเตะเร็วสุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก, เวิลด์ คัพ 2014

สปีดความเร็วของ ร็อบเบน ทำลายล้าง เซร์คิโอ รามอส แนวรับตัวเก่งของทีมกระทิงจนหัวหมุน ก่อนปีกชาวดัตช์จะกดคนเดียวสองประตูนำ ฮอลแลนด์ โค่นแชมป์เก่า สเปน ในศึกฟุตบอลโลกปี 2014 แบบขาดลอย 5-1 

ตามข้อมูลระบุว่าจังหวะที่ ร็อบเบน พุ่งทะยานไปข้างหน้าระยะ 15.55 เมตรโดยใช้เวลาเพียง 1.61 วินาที ซึ่งเทียบเป็นความเร็วประมาณ 22 ไมล์ต่อชั่วโมงและรามอสคงรู้ซึ้งดีว่าปีกชาวดัตช์รวดเร็วแค่ไหน 

จากชัยชนะเหนือ สเปน 5-1 ตั้งแต่เกมเปิดทัวร์นาเมนต์ทำให้ ฮอลแลนด์ ของ ร็อบเบน เดินต่อไปจนเกือบสุดทางและคว้าอันดับ 3 จากศึกฟุตบอลโลกปีนั้น ส่วนทีมกระทิงที่เคยเอาชนะพวกเขาในนัดชิงชนะเลิศเมื่อ 4 ปีก่อนต้องแพ็คกระเป๋ากลับบ้านหลังจบรอบแบ่งกลุ่ม

9.คริปโตไนท์ของ ดอร์ทมุนด์, วันที่ 4 พฤศจิกายน 2017

ซูเปอร์แมน อ่อนเรี่ยวแรงเพราะ'คริปโตไนท์'ฉันท์ใด ร็อบเบน ก็เป็นเหมือน'คริปโตไนท์'ของ ดอร์ทมุนด์ ฉันท์นั้น แม้นักเตะเสือเหลืองจะรู้ดีถึงพิษสงของปีกชาวดัตช์ แต่ก็ยังเอาไม่อยู่โดยเฉพาะเกมเยือน'ซิกนาล อีดูน่า ปาร์ค'ในเดือนพฤศจิกายนปี 2017

ร็อบเบน สวมปลอกแขนกัปตันทีม บาเยิร์น มิวนิค ลงสนามหลัง มานูเอล นอยเออร์ กับ โธมัส มุลเลอร์ ไม่มีส่วนร่วมกับเกมดังกล่าว ก่อนปีกชาวดัตช์จะฉลองการทำประตูที่ 11 จากการลงเล่น 19 เกมที่เผชิญหน้ากับทีมเสือเหลือง โดยเบิกร่องตั้งแต่นาที 17 ก่อนทีมเสือใต้จะบุกขย้ำเสือเหลืองด้วยสกอร์ 3-1

'คุณไม่สามารถป้องกันเขาได้ด้วยตัวคุณเพียงลำพัง เขาทั้งเร็วและฉลาดเป็นกรด'มาร์เซล ชเมลเซอร์ แบ็กซ้ายดอร์ทมุนด์ยอมรับหลังเกม

10.100 ประตูและคว้าแชมป์บุนเดสลีกาสมัยที่ 8? 

การบาดเจ็บมีส่วนทำให้ ร็อบเบน มีส่วนร่วมกับบุนเดสลีกาซีซั่นนี้เพียง 10 เกม รวมเวลาเท่ากับ 543 นาที แต่ปีกชาวดัตช์มักจะกลับมาถูกที่ถูกเวลายามที่ทีมเสือใต้ต้องการเสมอ 

ร็อบเบน เพิ่งยิงเพียง 3 ประตูในซีซั่นนี้ ปีกชาวดัตช์ยังต้องการอีก 2 ประตูในการลงเล่น 2 นัดสุดท้ายของฤดูกาลเพื่อยิงครบ 100 กับทีมเสือใต้และคว้าแชมป์ลีกเมืองเบียร์สมัยที่ 8 ส่งท้าย นั่นคือความเป้าหมายก่อนการอำลาถิ่น'อัลลีอันซ์ อารีน่า'

บาเยิร์น มิวนิค มีโปรแกรมเยือน ไลป์ซิก ก่อนลงเตะเกมสุดท้ายของซีซั่นนี้ด้วยการเปิดบ้านรับมือ แฟร้งค์เฟิร์ต ซึ่ง ร็อบเบน ยังมีโอกาสที่จะปิดฉากกับทีมเสือใต้ด้วยเป้าหมายดังกล่าว