:::     :::

ลูกากู นักปฏิวัติ

วันอังคารที่ 29 สิงหาคม 2560 คอลัมน์ ผีตัวที่ 13 โดย โกสุ่ย
10,076
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
สิ่งที่ถูกอกถูกใจแฟนๆ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในตอนนี้คงหนีไม่พ้นแนวรุกที่ดุดันและทรงพลัง

สามเกมที่ผ่านมาคงได้เห็นถึงการเข้าทำและจังหวะต่อเกมที่รวดเร็ว เนียนตา และมีประสิทธิภาพที่มากกว่าฤดูกาลก่อน (เอาจริงๆ มันพาลให้หวนไปนึกถึงเกมรุกสมัยป๋าเลยทีเดียว)

จะว่าไปแล้วแนวรุกของปิศาจแดงชุดนี้ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมาก มาร์คัส แรชฟอร์ด, อองโตนี่ มาร์กซิยาล, เฮนริค มคิทาร์ยาน, ฆวน มาต้า หรือ ปอล ป็อกบา ก็ยังอยู่

ใช่ แนวรุกที่ว่ามาคือแนวรุกจากฤดูกาลที่กดรวมกันไปเพียง 54 ดอก แต่มาดูฤดูกาลนี้สิ พวกเขาเล่นได้รวดเร็ว ดุดัน และเฉียบขาดกว่าเดิม

แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปชัดเจนและเห็นผลทันตาคือการเข้ามาของชายที่ชื่อ โรเมลู ลูกากู

สิ่งที่หัวหอกร่างยักษ์วัย 24 ปีนี้นำเข้ามาคือมิติการเล่นที่สามารถช่วยให้แนวรุกคนอื่นได้เฉิดฉายได้มากขึ้น

มันเป็นเรื่องที่น่าสนใจ เพราะหากใครติดตามการเล่นของปิศาจแดงตลอดสามนัดที่ผ่านมาจะเห็นความแตกต่างชัดเจน

จุดศูนย์การในการบุกของพวกเขามักจะเห็นชายที่ชื่อ ลูกากู มีส่วนร่วมอยู่เสมอ

อดีตกองหน้าเอฟเวอร์ตัน จะลงมาช่วยพักบอล อาศัยความใหญ่บังกองหลังแล้วจ่ายออกไปให้ตัวรุกที่สอดขึ้นมา วิธีการนี้ได้ผลดีนักแล เพราะมันเป็นการเปิดพื้นที่ให้กับเพื่อร่วมไปถึงเปิดช่องในแนวรับของคู่แข่ง

ย้อนกลับไปในเกมที่เจอกับสวอนซี

แฟนบอลผีแดง (หรือทีมอื่น) นึกภาพตามในจังหวะที่ได้ประตูที่สองในนาที 80

ลูกากู พักบอลคืนมาให้ อองโตนี่ มาร์กซิยาล ลากจี้ขึ้นไปก่อนจะปล่อยให้ เฮนริค มคิทาร์ยาน ไหลคืนหัวหอกชาวเบลเยี่ยมซัดเสียบตาข่าย

นั่นคือวิธีการเล่นที่เพิ่มเติมเข้ามา ทำให้แนวรุกของทีมสอดประสานได้อย่างลงตัว ลูกากู เป็นทั้งตัวพัก ตัวจ่าย ตัวเปิดช่อง และตัวจบสกอร์ในคนๆเดียว




หรือถ้าใครยังไม่เห็นภาพก็ลองย้อนไปดูประตูที่ 4 ในเกมที่สนามลิเบอร์ตี้ นั่นไง

จังหวะสวนกลับที่เฉียบคมก็เริ่มมาจากลูกากูอีกเช่นกัน

จารย์กู้' ลงต่ำไปเอาบอลก่อนจะฝากมาให้ ปอล ป็อกบา ควบตะบึงขึ้นหน้าซึ่งในจังหวะนั้นเป็นการดวลกัน 3 ต่อ 2 ระหว่าง นักเตะปิศาจแดงและหงส์ขาว

บทสรุปลงท้ายด้วยการโยกไปสับด้วยขวาของมาร์กซิยาล 

สรุปจากที่เล่ามาเสียยืดยาวคือ การมาของ โรเมลู ลูกากู นั่นทำให้ภาพเกมรุกในหัวของ โชเซ่ มูรินโญ่ แจ่มชัดและแสดงออกมาเป็นภาพบนสนามให้แฟนบอลเห็นเต็มสองตาจากผลงานที่ผ่านมา

อ๊ะ ... เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนคงนึกภาพเปรียบเทียบกับ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เราต้องแยกกันให้ชัดเจนว่ารูปแบบที่มูรินโญ่นำมาใช้กับหัวหอกทั้งสองคนนั้นแตกต่างกัน

ด้วยวัยที่ต่างกันสิบปี ลูกากูสามารถวิ่งพล่านในสนามชนิดที่ไม่ต้องกลัวหมดแรง เพราะพะยี่ห้อของดาวยิงคนนี้คือ ถึก บึกบึน แข็งแกร่ง สู้งาน ต่างจากซลาตันที่อายุปาไป 35 จะให้มาเล่นแบบนั้นก็คงไม่ไหว

ตำแหน่งการยืนของซลาตันคือจะอยู่ลึกสุดในแดนหน้า โดยอาศัยความเก๋า สัญชาติญาณ ในการเล่น มีบ้างในบางจังหวะที่เขาจะถ่างตัวเองหรือลงมาช่วยแต่ไม่บ่อยเหมือนอย่างที่ลูกากูแสดงให้เห็น

เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะมาสอดประสานกันอย่างลงตัวในตอนที่ซลาตันกลับมาฟิตสมบูรณ์อีกครั้ง




แต่ตอนนี้กับแนวรุกที่กำลังเป็นไป ถือว่าลงตัวและเป็นสิ่งที่น่าพอใจของทุกคน

พลังในการเข้าทำ ความเร็ว ความเฉียบคม ความเข้าใจซึ่งกันและกัน สิ่งเหล่านี้คือส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ทีมเดินหน้าไปสู่จุดที่วางเอาไว้

75 ล้านปอนด์ อาจจะดูแพง และถูกใครหลายคนถ่มถุยในตอนที่เพิ่งย้ายมา แต่สิ่งที่ลูกากูมอบคืนกลับมานั่นมันเริ่มที่จะเห็นดอกผล

แม้จะถูกวางหน้าที่ให้สอยตาข่ายฝ่ายตรงข้าม แต่มูรินโญ่กลับมองเห็นสิ่งอื่นในตัวลูกากู และสามารถงัดมันออกมาให้เป็นประโยชน์ต่อทีมได้อย่างยอดเยี่ยม

อาจจะเร็วไปที่จะบอกได้แบบเต็มปากว่า 75 ล้านปอนด์ ของลูกากูคุ้มค่า แต่จากทิศทางที่แสดงออกมาในตอนนี้ถือว่ากำลังไปได้สวย

เส้นทางอันยาวไกลที่กำลังทอดยาวอยู่ข้างหน้า แนวรุกชุดนี้จะพาทีมไปถึงจุดไหน

... น่าติดตามเป็นอย่างมาก


โกสุ่ย



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด