ตำแหน่งที่ปืนใหญ่จำเป็นมากที่สุดคือ เซนเตอร์ฮาล์ฟระดับท็อปที่มีทั้งความเร็วและการเล่นที่แน่นอน รวมไปถึงผู้เล่นริมเส้นที่จะเข้ามาเติมเกมรุกด้านข้างให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 

ตำแหน่ง "แบ็กซ้าย" ไม่ใช่สิ่งที่อาร์เซน่อลขาด ทว่าเป็นสิ่งที่ อูไน เอเมรี่ อยากจะ "อัพเกรด" ขึ้นไปอีกระดับ 

จริงอยู่ว่า นาโช่ มอนเรอัล เป็นผู้เล่นที่ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมนับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมในเดือนมกราคมปี 2013 แข้งชาวสเปนได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในฟูลแบ็กที่มีผลงานสม่ำเสมอที่สุดของพรีเมียร์ลีก 

อย่างไรก็ตาม มอนเรอัล จะอายุ 34 ปีในฤดูกาลหน้าแล้ว และในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา คุณสมบัติที่เคยโดดเด่นก็มีลดหายไปบ้างตามวัย เขาเริ่มมีปัญหากับการรับมือผู้เล่นที่มีความเร็วสูงและสามารถตัดเข้าในได้ดี 

ขณะที่ เซอัด โคลาซินัช ยังอยู่ในวัยฉกรรจ์ สรีระแข็งแกร่งเหมาะสมกับเกมพรีเมียร์ลีก ความดุดันและทรงพลังของแข้งบอสเนียฯ ตอบโจทย์การเป็นฟูลแบ็กที่ เอเมรี่ ต้องการเพราะสามารถวิ่งทะลุไลน์แนวรับคู่แข่งถึงสุดเส้นหลังแล้วเปิดบอลหักกลับมาได้

แต่ปัญหาของ โคลาซินัช คือเกมรับที่มักหลุดตำแหน่งเวลาเติมสูง เขารับมือลูกครอสได้ไม่ดีนัก เช่นเดียวกับการดักจังหวะโต้กลับของคู่แข่ง การผ่านบอลแถวกลางสนามผิดพลาดบ่อยครั้ง และเป็นเป้าถูกเพรสซิ่งได้ง่าย นั่นทำให้ เอเมรี่ เลือกใช้งานในตำแหน่งวิงแบ็กมากกว่าแบ็กซ้ายในระบบแบ็กโฟร์ 

ด้วยเหตุนี้ อูไน เอเมรี่ จึงต้องการแบ็กซ้ายที่มีความสมดุลทั้งเกมรุกและรับ อายุน้อย และมีศักยภาพที่จะพัฒนาได้อีกซึ่งทั้งหมดคือคุณสมบัติของ คีแรน เทียร์นี่ย์

คีแรน เทียร์นี่ย์ เป็กเด็กฝึกของเซลติกโดยตรง ได้โอกาสประเดิมสนามชุดใหญ่ในวัย 17 ปี เมื่อเดือนเมษายน ปี 2015 จากนั้นฤดูกาลต่อมาก็สามารถยึดตำแหน่งแบ็กซ้ายของทีมได้จาก เอมิลิโอ อิซากีร์เร่ 

4 ปีผ่านไปหลังลงสนามนัดแรกให้ทีม เทียร์นี่ย์ คว้าแชมป์ลีกสกอตแลนด์ได้ 4 สมัย, แชมป์สกอตติช คัพ 2 สมัย และ แชมป์สกอตติช ลีก คัพ อีก 2 สมัย โดยที่ฤดูกาล 2017-18 ภายใต้การนำของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ก็กวาดทั้งสามแชมป์ในประเทศกลายเป็นเทรเบิลแชมป์

พร้อมบุกตะลุยแบบไม่หวั่น

แม้วัยเพียง 22 ปี แต่ เทียร์นี่ย์ มีศักยภาพเต็มเปี่ยมรวมถึงประสบการณ์พอตัว ว่ากันว่าเขาเหนือกว่า แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ตอนอายุเท่ากันด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่า ฤดูกาลล่าสุดคือฤดูกาลของ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ที่ได้ฉายแสงเต็มที่จนก้าวไปเป็นแชมป์ยุโรป ขณะที่ เทียร์นี่ย์ มีปัญหาบาดเจ็บรบกวนบ่อยครั้ง 

อาการบาดเจ็บเป็นจุดที่น่าห่วงพอสมควร เทียร์นี่ย์ เคยเจ็บมาแล้วทั้งไส้เลื่อน, สะโพก และเอ็นข้อเท้า ตรงนี้เป็นจุดที่อาร์เซน่อลต้องภาวนาว่าจะไม่ซ้ำรอยจนกลายเป็นซ้ำซากหากดึงตัวมาร่วมทีมได้จริง

เทียร์นี่ย์ เคยรับหน้าที่กัปตันทีมทั้งในทีมชาติและสโมสรซึ่งเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงแคแรกเตอร์อันแข็งแกร่งและมีความเป็นผู้นำในตัวสูง ขณะที่อาร์เซน่อลมักถูกตั้งคำถามอยู่เสมอว่าใครกันคือผู้นำทีมที่พร้อมพาทีมก้าวไปข้างหน้า 

โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ เข้าสู่ช่วงปลายอาชีพหลายปีแล้วและมีข่าวว่าอาจถูกปล่อยตัวออกไปในซัมเมอร์นี้ ขณะที่ อารอน แรมซี่ย์ ก็ย้ายออกไปแล้วเช่นเดียวกับ ปีเตอร์ เช็ก ที่แขวนสตั๊ด อาร์เซน่อลจึงขาดผู้นำทีมที่ชัดเจน

ผู้เล่นอย่าง กรานิต ชาคา กับ ชโคดราน มุสตาฟี่ เคยมีประสบการณ์เป็นกัปตันทีมก่อนย้ายมา แต่จนถึงตอนนี้ก็ไม่สามารถนำทีมได้อย่างที่แฟนบอลคาดหวังเช่นเดียวกับสตาร์คนดังอย่าง เมซุต โอซิล ที่หลุดทีมบ่อยครั้งในยุค เอเมรี่ 

ดังนั้น การดึง คีแรน เทียร์นี่ย์ จึงไม่ใช่เพียงแค่คาดหวังในเรื่องฝีเท้า แต่ยังรวมถึงความเป็นไปได้ที่จะเป็นผู้จะเป็นผู้นำของทีมในอนาคต ยิ่งเป็นนักเตะบริติชด้วยแล้วยิ่งได้รับเสียงเชียร์จากแฟนบอลมากกว่าแข้งภาคพื้นยุโรป

ฤดูกาลแรกในการคุมอาร์เซน่อล อูไน เอเมรี่ ชื่นชอบและพยายามให้ฟูลแบ็กของทีมเติมเกมรุกโดยเฉพาะการพาบอลไปถึงสุดเส้นแล้วเปิดหักกลับมาในเขตโทษ ซึ่งสไตล์การเล่นแบบนี้ดูจะเหมาะกับ เทียร์นี่ย์ ไม่น้อย

ใน 5 แอสซิสต์ที่ทำได้เมื่อฤดูกาลที่แล้วล้วนเป็นการเปิดบอลจากพื้นที่ใกล้กับเส้นหลังประตูและเปิดแบบพุ่งเรียดเข้าเขตโทษคล้ายกับ โคลาซินัช 

เทียร์นี่ย์ มีสปีดต้นในการวิ่งระยะสั้นที่รวดเร็วซึ่งช่วยให้เติมเกมรุกเข้าไปในพื้นที่อันตรายคู่แข่งได้ตลอด การเปิดบอลอาจไม่ได้อยู่ระดับเดียวกับ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ที่สามารถครอสบอลโด่งได้ค่อนข้างมีประสิทธิภาพ แต่อาร์เซน่อลยุคหลังจากปล่อย โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ออกไปแล้วก็ไม่ได้เน้นโจมตีลูกกลางอากาศในแบบเดิมอีก 

ได้แชมป์มากมายกับเซลติก

ค่าเฉลี่ยการแอสซิสต์ของ เทียร์นี่ย์ ในลีกสกอตแลนด์ฤดูกาลล่าสุดอยู่ที่  1 ประตูต่อ 450 นาที (5 นัดเต็ม) ส่วนสถิติที่ดีสุดเคยทำได้ 6 ครั้งต่อฤดูกาล ขณะที่การเล่นด้านอื่นในฤดูกาลที่แล้วถือว่าดีกว่าทุกฤดูกาลที่ผ่านมา

แบ็กซ้ายวัย 22 ปี ครอสบอล 5.48 ครั้งต่อ 90 นาที และพยายามเลี้ยงบอล 5 ครั้งต่อนัดและเลี้ยงสำเร็จ 70 เปอร์เซ็นต์ อย่าไงก็ตาม การเล่นในพรีเมียร์ลีกก็มีโอกาสเผชิญหน้ากับปีกและฟูลแบ็กที่เขี้ยวกว่าในลีกแดนวิสกี้อย่างแน่นอน

อาร์เซน่อลคาดหวังเอาไว้ว่า คีแรน เทียร์นี่ย์ คือ เอคตอร์ เบเยริน ในเวอร์ชั่นแบ็กซ้าย และสิ่งที่แฟนบอลจะได้เห็นคือการมีส่วนร่วมในเกมที่มากกว่า เซอัด โคลาซินัช 

เทียร์นี่ย์ มีค่าเฉลี่ยผ่านบอล 60.44 ครั้งต่อ 90 นาทีเมื่อฤดูกาลแล้ว เป็นการผ่านบอลสำเร็จ 81.9 เปอร์เซ็นต์ เจาะลึกลงไปคือ ผ่านบอลเข้าไปในพื้นที่สุดท้าย (แยกสนามเป็น 3 ส่วน พื้นที่สุดท้ายคือตั้งแต่หน้าเขตโทษคู่แข่งจนถึงสุดเส้นหลัง) 8.71 ครั้ง และผ่านบอลเข้าเขตโทษ 5.58 ครั้ง 

ขณะที่สถิติของ โคลาซินัช คือผ่านบอล 44 ครั้งต่อ 90 นาที ผ่านบอลเข้าพื้นที่สุดท้าย 4.28 ครั้ง และผ่านบอลเข้าเขตโทษ 2.81 ครั้ง 

ถ้าดูในภาพรวมแล้ว คีแรน เทียร์นี่ย์ มีคล้ายกับ นาโช่ มอนเรอัล มากกว่าตรงที่ประสานงานกับเพื่อนร่วมทีมได้ดีและมองหาพื้นที่วิ่งเติมเพื่อสอดไปรับบอลแทงทะลุช่องอยู่ตลอดเวลา 

แฟนอาร์เซน่อลหลายคนขอบความแข็งแกร่งในการเติมเกมรุกสมฉายา "ไอ้รถถัง" ของ โคลาซินัช แต่ เทียร์นี่ย์ ก็จะมีลักษณะและสไตล์ต่างกันไป แบ็กซ็ายเซลติกไม่ได้กำยำ แต่ก็ปราดเปรียวและมีความเร็วจัดจ้าน

ความคล่องแคล่วตรงนี้ช่วยให้เทียร์นี่ย์ สามารถปรับเข้ากับสถานการณ์เฉพาะหน้าและจังหวะตัวต่อตัวได้ดีกว่า ทำให้มีแนวโน้มที่ เอเมรี่ จะเลือกใช้งานในระบบแบ็กโฟร์ตามปกติ ต่างจาก โคลาซินัช ที่เหมาะกับการเล่นวิงแบ็กมากกว่า 

เทียร์นี่ย์ ไม่หวั่นในการดวลกับคู่แข่งทางริมเส้นฝั่งซ้าย และพร้อมทั้งการเข้าบล็อกและพุ่งสกัด อย่างไรก็ตาม มีจุดน่าห่วงเล็กน้อยตรงที่ว่าเขาใช้เท้าขวาได้ไม่ดีนักซึ่งการเล่นในพรีเมียร์ลีกจะต้องเจอตัวรุกที่ครบเครื่องมากกว่าและสามารถโยกตัดเข้าในซึ่งนั่นเท่ากับบีบให้เทียร์นี่ย์ต้องใช้เท้าขวาบ่อยครั้ง 

เป็นอีกหนึ่งแกนหลักของสกอตแลนด์

แข้งทีมชาติสกอตแลนด์เป็นนักเตะที่แฟนบอลชื่นชอบในเรื่องความมุ่งมั่นและกล้าเล่น ไม่กลัวที่จะเข้าปะทะ มีหัวจิตหัวใจนักสู้แบบชาวสกอตต์ 

ฤดูกาลที่แล้ว เขาเข้าแท็กเกิ่ลไป 0.54 ครั้งต่อ 90 นาทีซึ่งอาจเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างต่ำแต่นั่นเพราะไม่ใช่มัวแต่พุ่งเสียบแบบไม่จำเป็น เขาไม่โดนใบเหลืองแต่แม้แต่ใบเดียวตลอดฤดูกาลที่แล้วทั้งที่ตำแหน่งการเล่นสุ่มเสี่ยงต่อการโดนจดชื่ออย่างมาก 

การชิงจังหวะเล่นตัดหน้าคู่แข่งคือจุดแข็งอีกอย่างของ เทียร์นี่ย์ ตรงนี้คล้ายกับการเล่นของ มอนเรอัล และยังสามารถเล่นเป็นปราการหลังในระบบแบ็กทรีได้อย่างที่รับหน้าที่ในทีมชาติสกอตแลนด์มาแล้วนัดเจอกับเบลเยียม บทบาทของ เทียร์นี่ย์ วันนั้นคือคอยคัฟเวอร์ในเวลาที่ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน เติมเกมรุกขึ้นข้างหน้า ซึ่งการได้รับความเชื่อมั่นให้เล่นตำแหน่งนี้ก็บ่งบอกเป็นอย่างดีถึงศักยภาพในการเล่นเกมรับ 

สิ่งที่ คีแรน เทียร์นี่ย์ จะต้องปรับตัวให้ได้คือการเล่นในพรีเมียร์ลีกมีความเร็วเร็วมาก สามารถปรับโหมดจากรับเป็นรุกได้เพียงเสี้ยววินาที ตรงนี้คือบททดสอบที่ท้าทายไม่น้อย 

ทีมปืนใหญ่พยายามยื่นข้อเสนอขอซื้อแนวรับวัย 22 ปีในหลายต่อหลายรอบ แต่ก็ยังไม่ได้รับการตอบรับจากเซลติกที่ต้องการค่าตัว 25 ล้านปอนด์ 

เรื่องเงินเป็นปัญหาสำหรับอาร์เซน่อลเพราะสมควรเพราะมีงบประมาทจำกัด ทว่าหากมั่นใจว่านี่คือตัวเลือกที่ใช่ พวกเขาก็ต้องกล้าลงทุนและอย่าปล่อยให้โอกาสหลุดมือ