ความฝันเกิดขึ้นกับทุกคนไม่ว่าจะเป็นในวงการไหน เพราะมันไม่ต่างจากจุดเริ่มต้นของสิ่งเล็กๆที่อาจะกลายเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต

เช่นเดียวกับวงการฟุตบอลที่นักเตะทุกคนต่างมีความฝันที่แตกต่างกันไป แต่สิ่งที่คล้ายกันคือทุกคนอยากจารึกชื่อไว้ในพงศาวดารลูกหนักและเป็นที่จดจำของทุกคน

ชื่อของ แดเนี่ยล เจมส์ กลายมาเป็นที่ถูกพูดถึงกันอย่างมากในช่วงที่ผ่านมาโดยเฉพาะในหมู่แฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ต่างตื่นเต้นกับผลงานและฝีเท้าของแข้งรายนี้

ความเร็ว ใจสู้ และการเล่นที่น่าตื่นเต้น ทำให้ เจมส์ กลายเป็นที่จดจำของแฟนบอลอย่างเร็ว และถูกคาดหมายว่าจะก้าวมาเป็นหนึ่งในอาวุธอันตรายของปิศาจแดงในซีซั่นนี้

กับเกมแรกที่เพิ่งผ่านไปในนัดที่ ยูไนเต็ด เปิดบ้านสอย เชลซี 4-0 แม้จะมีเวลาอยู่ในสนามประมาณ 17-20 นาที แต่นักเตะทีมชาติเวลส์คนนี้ก็แสดงผลงานที่ตื่นตาและถูกกล่าวถึงอย่างมากโดยเฉพาะประตูปิดกล่องของเขา

พลันที่เขายิงบอลแฉลบแนวรับ สิงโตน้ำเงินคราม และเห็นลูกลอยเข้าเสาไกล 'ดีเจ' หันเหทิศทางไปยังมุมธงพร้อมระเบิดสีหน้าดีใจพร้อมตะโกนปลดเปลื้องสิ่งที่อยู่ในอกออกมา

วินาทีที่เขาชี้นิ้วขึ้นบนท้องฟ้านั่นคือสัญญาณที่บ่งบอกและส่งต่อไปยัง 'บิดา' ผู้ล่วงลับว่าลูกคนนี้ได้เริ่มทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ในสนามที่เขาวาดฝันไว้มาตั้งแต่เด็ก

"พวกเขาต้องภูมิใจกับผมแน่นอน" เจมส์ กล่าวหลังถูกถามถึงความรู้สึกของครอบที่เห็นขาทำประตูใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด

"พวกเขาอยู่บนอัฒจันทร์ ผมไม่รู้ว่าพวกเขาอยู่ส่วนไหนของสนาม ผมพยายามมองหาพวกเขาแต่มันยากมากในการมองหาผ่านแฟนบอลจำนวนมหาศาล สำหรับพวกเขาและตัวผมเอง อย่างที่ผมบอกไปว่ามันไม่สามารถอธิบายได้ การได้มาอยู่ที่นี่เป็นครั้งแรกถือเป็นความภาคภูมิใจ การได้ลงสนามและแสดงให้คนอื่นๆเห็นว่าทำไมผมถึงมาอยู่ที่นี่คือสิ่งที่ยอดเยี่ยม"

จุดเริ่มต้นที่สวยงามเหมือนเป็นการปูทางไปยังเป้าหมายที่ง่ายขึ้น แม้เส้นทางที่ทอดยาวอยู่ตรงหน้ายังมีขวากหนามและบททดสอบให้พิสูจน์อีกมาก แต่ความมั่นใจที่เพิ่มพูนและสัญญาณที่ดีที่ถูกส่งออก ไม่แปลกที่นักเตะและคนอื่นๆจะคาดหวังถึงสิ่งที่ดีกว่าที่ผ่านมา

ตัวนักเตะเองก็ยังคงมุ่งมั่นและก้มหน้าทำงานต่อไป ไม่มีคำว่าหลงระเริงหรือได้ใจเพราะเป้าหมายของเขาจะไม่หยุดอยู่เพียงเท่านี้

"ผมไม่ได้ลงตัวจริงแต่มันไม่ได้ทำให้ผมหัวเสียแต่อย่างใด ผมเพียงแค่ทำตัวให้พร้อมลงสนามและผมคิดว่าทุกๆคนเล่นในส่วนของการคว้าชัย"

"ในการลงสนาม ผมลงเล่นในด้านขวาและด้านซ้าย ผมสนุกกับตำแหน่งทั้งสองจุดมากกว่าคนอื่นๆ ผมรู้ดีว่าจังหวะสวนกลับจะเกิดขึ้น ดังนั้นมันเกี่ยวกับการอยู่ในถูกที่ถูกเวลา ขอขอบคุณที่ผมอยู่ในจุดนั้น ผมรู้ว่าการแฉลบมันเป็นเรื่องของโชค แต่มันก็ได้ผลกับการยิงของผม"

กับความรู้สึกที่เอ่อล้นออกมาหลังจากทำประตูรวมไปถึงช่วงจบเกมที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด มันยากที่ เจมส์ จะอธิบายออกมาเป็นพูดได้หมด แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือสีหน้าที่แสดงออกได้อย่างตรงไปตรงมา

แน่นอน ความตื่นเต้นสุมอยู่ในอกของเด็กวัย 21 ปีรายนี้ กับการได้ลงเล่นในสนามที่มีมนต์ขลังมากที่สุดแห่งของโลก แต่เขากลับทำได้ดีและรับมือกับมันได้อย่างยอดเยี่ยม

ยิ่งการทำประตูได้ตั้งแต่เกมแรกก็คงไม่ต่างจากการลดภารแรงกดดันออกไปได้มากพอสมควร

"แน่นอน ผมคิดแบบนั้นนะ" 'ดีเจ' เผยเมื่อถูกถามถึงความรู้สึกที่ยิงประตูได้

"สำหรับผมมันยังไม่เข้ากับระบบมากนัก แต่การถูกเปลี่ยนลงสนาม ทำประตูในสถานที่แบบนี้ ในเกมประเดิมสนาม มันเป็นครั้งแรกที่ผมได้ลงเล่นในสนามแห่งนี้ การทำประตูคือฝันที่เป็นจริง"

"ผมตื่นเต้นมาก แต่จะไม่ขอบอกว่าผมประหม่า ผมลงสนามตอนที่เรานำ 3-0 ดังนั้นมันคือการลงไปและสนุกกับตัวเอง แสดงให้เห็นว่าทำไมผมถึงถูกดึงมาที่นี่ นั่นคือสิ่งที่เป็นไป ในตอนที่สกอร์ 3-0 เราพยายามสวนกลับตลอดและนั่นเข้ากับการเล่นของผมอย่างมาก การลงสนามและทำประตู คุณไม่สามารถอธิบายมันออกมาได้เลย"

ถึงตรงนี้มันอาจจะเป็นเพียงงานแรกที่เพิ่งจบลงไป และหลังจากนี้ เจมส์รวมไปถึงนักเตะคนอื่นๆในทัพปิศาจแดงต้องเดินหน้าสู่ภารกิจที่ 2 ในการออกไปเยือน วูล์ฟแฮมแตัน

แต่ก็อย่างที่เรียนไป สิ่งที่สำคัญคือความมั่นใจในตัวนักเตะที่เพิ่มพูนมากขึ้น นั่นคือสิ่งสำคัญที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา พยายามใส่ลงไปในทีมของเขา

การทำงาน, การพัฒนา และความมั่นใจ คือหลักการ 3 ข้อสำคัญที่ โซลชา มักจะพูดถึงตลอดในฤดูกาลนี้ และนั่นคือสิ่งที่พวกเขาแสดงออกมาและได้รับจาเกมแรก

"ผมมั่นใจว่า (แดเนี่ยล เจมส์) จะจดจำช่วงเวลานี้ไปตลอดชีวิตของเขา เขามีช่วงหน้าร้อนที่ยากลำบากจากชีวิตส่วนตัว และการเริ่มต้นเส้นทางอาชีพเช่นนี้ ผมจึงยินดีกับเขาอย่างมาก" 

... ความฝันในการลงสนามและทำประตูใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด ได้กลายเป็นความจริง นับจากนี้ไปคือการก้าวไปยังจุดหมายถัดไปของ แดเนี่ยล เจมส์ นั่นคือออกสตาร์ตเป็นจริง และยึดตำแหน่งในทีมชุดแรกมาครอง

อาจจะมีการแข่งขันที่สูงแต่นั่นคือแรงผลักดันชั้นดีของบรรดานักเตะในทีมที่ต้องพัฒนาผลงาน และรีดฟอร์มออกมาซึ่งมันจะส่งผลดีไปยังสโมสรโดยตรง

เจมส์ คือหนึ่งในนั้น ที่ต้องพยายามให้มากขึ้นและสร้างความประทับใจให้กับ โซลชา เพื่อโอกาสในการเดินลงสนามตั้งแต่นาทีแรก

โอกาสมาถึงแล้ว เส้นทางแห่งความฝันที่เขาวาดฝันไว้ตั้งแต่เด็กๆ ถูกเปิดออกมาและมันอยู่ที่เขาว่าจะสามารถผลักดันตนเองให้เดินไปยังจุดหมายที่วางไว้หรือไม่

สิ่งนี้ไม่มีใครรู้ มีเพียง แดเนี่ยล เจมส์ เท่านั้นที่ต้องพิสูจน์ด้วยตนเองจากผลงานในสนามที่กำลังรอให้เขาแสดงมันออกมาให้ทุกๆคนได้เห็นว่าเขาคือ ‘ของจริง’