:::     :::

จาก'MSN'สู่'GSM'

วันจันทร์ที่ 21 ตุลาคม 2562 คอลัมน์ ลูกหนังนอกกรอบ โดย JOKE
2,665
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
'GSM' กรีซมันน์-ซัวเรซ-เมสซี่ แนวรุกเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดของ บาร์เซโลน่า เริ่มประสานงานกันได้ดีขึ้นตามลำดับจนทำประตูพร้อมกันครั้งแรกในเกมบุกขย่ม เออิบาร์ 3-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาพร้อมขึ้นแท่นจ่าฝูงครั้งแรกของซีซั่น

สังเวียน'อีปูรูอา'ถูกบันทึกหน้าประวัติศาสตร์ว่า 3 แนวรุกโฉมใหม่ของ บาร์เซโลน่า ทั้ง ลิโอเนล เมสซี่, หลุยส์ ซัวเรซ และ อองตวน กรีซมันน์ ลงเล่นร่วมกันตลอด 90 นาทีและยิงประตูพร้อมกันนัดแรก

กรีซมันน์ ซัดเบิกร่องตั้งแต่นาที 13 จากการวางบอลยาวของ เกลม็องต์ ล็องเล่ต์ ให้กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสหลุดเดี่ยวเข้าไปล่อเป้านายทวารเออิบาร์ 

เมสซี่ ทำประตูที่สองช่วงนาที 58 ซึ่งทั้ง หลุยส์ ซัวเรซ กับ กรีซมันน์ มีส่วนร่วมกับการทำประตูดังกล่าวก่อนกองหน้าชาวฝรั่งเศสจะดีดต่อให้กองหน้าชาวอาร์เจนไตน์กดเป็น 2-0


ปิดท้ายด้วยการทำประตูของ หลุยส์ ซัวเรซ นาที 66 หลัง กรีซมันน์ แทงทะลุช่องให้ เมสซี่ ลากลุยเข้าเขตโทษ แม้จะหาจังหวะสับไกเองได้ก็ตาม แต่ซุปตาร์อาร์เจนไตน์เลือกไหลนิ่มๆให้กองหน้าทีมชาติอุรุกวัยเป็นคนปิดบัญชี 

นั่นคือผลงานของสามประสานเวอร์ชั่นล่าสุดของทีมอาซูลกราน่า'กรีซมันน์-ซัวเรซ-เมสซี่'ที่สาวกบาร์เซโลนิสต้ารอคอย นอกจากการทำประตูได้ทั้งสามคนแล้วยังมีโอกาสซ้อมความเข้าใจกันและกันหลัง เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ ปล่อยให้เล่นร่วมกันจนกระทั่งจบเกมด้วย 


บัลเบร์เด้ เคยส่งแนวรุก'GSM'ออกสตาร์ทพร้อมกันครั้งแรกของซีซั่นนี้ตั้งแต่เกมรับมือ บียาร์เรอัล เมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่ง กรีซมันน์ ยิงประตูขึ้นนำตั้งแต่ช่วงต้นเกม แต่ เมสซี่ โชคร้ายบาดเจ็บบริเวณกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลังจนถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วงพักครึ่ง ขณะที่ หลุยส์ ซัวเรซ ถูกถอดออกจากสนามช่วงนาที 78 ส่วนกองหน้าชาวฝรั่งเศสลงเล่นจนจบเกมก่อนจะเฉือนชนะทีมเรือดำน้ำเหลืองแบบหืดจับ 

ก่อนจะได้โอกาสออกสตาร์ทพร้อมกันอีกครั้งในเกมกับ อินเตอร์ มิลาน บนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกรอบแบ่งกลุ่มที่'คัมป์ นู'เมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา 


บาร์เซโลน่า เสียท่าให้ทีมเยือนตั้งแต่ช่วงต้นเกมจากการทำประตูของ เลาตาโร่ มาร์ตีเนซ แต่ทัพอาซูลกราน่าทวงคืนสองประตูรวดในช่วงครึ่งหลังจากการเหมาของ หลุยส์ ซัวเรซ ซึ่งมาจากหนึ่งแอสซิสต์ของ เมสซี่ ส่วน กรีซมันน์ มีส่วนร่วมกับเกมไม่มากนักก่อนถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามช่วงนาที 66 

กรีซมันน์ ยังต้องการเวลาเพื่อปรับจูนจังหวะให้เข้ากับ เมสซี่ และ หลุยส์ ซัวเรซ นับตั้งแต่ย้ายมาค้าแข้งกับทีมอาซูลกราน่าในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา นอกจากการทำความเข้าใจซึ่งกันและกันในการฝึกซ้อมแล้วก็ยังต้องทดสอบในการแข่งขันจริงด้วย

อย่างไรก็ตามช่วงเวลาการเรียนรู้แนวทางการเล่นของเพื่อนใหม่ขาดตอนในช่วงเริ่มต้นเนื่องจากการบาดเจ็บของ เมสซี่ จนกระทั่งกองหน้าชาวอาร์เจนไตน์กลับมาอยู่ในสภาพสมบูรณ์เต็มร้อยในช่วงเดือนตุลาคมนี้ 


เมสซี่ เพิ่งยิงประตูที่สองของเขาในซีซั่นนี้เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ขณะที่ หลุยส์ ซัวเรซ กดไปแล้ว 5 ประตู ส่วน กรีซมันน์ กระทุ้งกับทีมใหม่ 4 สกอร์และทำอีก 3 แอสซิสต์ แม้ผลงานยังไม่ร้อนแรงเท่ายุคสามประสาน'MSN'ก็ตาม เนื่องจากทั้ง เมสซี่ กับ หลุยส์ ซัวเรซ ย่างเข้าสู่วัยโรยลา แต่แผงกองหน้าของบาร์ซ่าชุดนี้น่าจะก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในแนวรุกดีที่สุดของทีมยักษ์ใหญ่แคว้นกาตาลุนย่าได้เช่นกัน 

กรีซมันน์ กล่าวหลังเกมบุกชนะ เออิบาร์ 3-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาโดยยอมรับว่ามีทั้งวันที่ดีและวันแย่ๆแต่เป้าหมายหลักสำหรับการเล่นร่วมกับ เมสซี่ และ หลุยส์ ซัวเรซ คือการทำความเข้าใจซึ่งกันและกันให้มากยิ่งขึ้น 


'มีทั้งวันดีๆและวันแย่ๆ'กรีซมันน์ เปิดเผย 'ผมเพิ่งมาอยู่ที่นี่และผมต้องการทำให้คุ้นเคยกับเรื่องนี้ เราจำเป็นต้องเข้าใจซึ่งกันและกันให้ดียิ่งขึ้น แต่นั่นจะมาพร้อมกับการเล่นร่วมกันและจำนวนเกมที่มากขึ้น'

'การเก็บ 3 คะแนนเป็นสิ่งสำคัญเพราะมันอาจเป็นเรื่องยากหลังการพักเบรคช่วงทีมชาติ แต่เรามีเกมที่ดีและตอนนี้เราสามารถคิดถึงแชมเปี้ยนส์ลีก (เกมเยือน สลาเวีย ปราก)'

'เรารู้ว่า (เออิบาร์) จะกดดันสูง ดังนั้นผมจึงพูดกับ (เกลม็องต์) ล็องเล่ต์ ให้วางบอลไปที่พื้นที่ว่างใกล้ๆผม ถ้าเขาเห็นผมอยู่ใกล้กับฟูลแบ็กและนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น เราสร้างโอกาสหลายครั้งกับการผ่านบอลที่ดี'กองหน้าชาวฝรั่งเศสกล่าว


แนวรุก'GMS'ของ บาร์เซโลน่า อาจมีความเร็วตกลงไปเมื่อเปรียบเทียบกับสามประสาน'MSN'เนื่องจากอายุที่มากขึ้นของ เมสซี่ กับ หลุยส์ ซัวเรซ แต่ส่วนหนึ่งสามารถทดแทนได้จากสปีดต้นของ กรีซมันน์ แต่จุดแข็งของ'GMS'คือการเล่นฟุตบอลด้วยสมองและการเคลื่อนที่สลับตำแหน่งกันจนต้องความสับสนให้กับเกมป้องกันของคู่แข่ง 

ทั้ง กรีซมันน์ กับ หลุยส์ ซัวเรซ จะพยายามเล่นจังหวะเดียวไม่เก็บบอลไว้กับตัวนานเว้นแต่โอกาสจะเอื้ออำนวย ขณะที่ เมสซี่ จะเป็นคนกำหนดจังหวะการสรรสร้างเกมบุก ซึ่งมีหลากหลายแนวทาง ทั้งการพาบอลทะลุทะลวงขึ้นไปด้วยตัวเองเพื่อดึงผู้เล่นแนวรับคู่แข่งเปิดที่ว่างให้เพื่อนร่วมทีม หรือการเก็บบอลไว้กับตัวเพื่อดึงจังหวะให้เพื่อนร่วมทีมขยับไปพื้นที่ว่าง หรือการทำชิ่ง 1-2 กับเพื่อนร่วมทีมเพื่อสลัดหนีการประกบ


ถ้ามองผิวเผินอาจดูเหมือนง่าย แต่มันต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจโดยเฉพาะกับผู้มาใหม่อย่าง กรีซมันน์ แต่ด้วยเซนส์ฟุตบอลของกองหน้าทีมชาติฝรั่งเศส

จากที่เคยออกสตาร์ทแบบกระท่อนกระแท่น ปราชัยตั้งแต่นัดเปิดหัวซีซั่นใหม่ต่อ แอธเลติก บิลเบา (0-1) ทำได้แค่เสมอทีมน้องใหม่ โอซาซูน่า (2-2) และยังพลิกล็อกพ่ายอีกหนึ่งน้องใหม่อย่าง กรานาด้า (0-2) 

ทัพอาซูลกราน่าเริ่มกลับมาเข้าที่เข้าทางอีกครั้งจนเดินหน้าคว้าชัยชนะ 4 เกมติดต่อกันเหนือ บียาร์เรอัล (2-1), เคตาเฟ่ (2-0), เซบีย่า (4-0) และ เออิบาร์ (3-0) เก็บคลีนชีต 3 เกมล่าสุด หลังถูกทะลวงรวมกัน 10 ประตูจากการลงเล่น 6 เกมแรกจนกระทั่งแซงขึ้นนั่งแท่นจ่าฝูงลีกเมืองกระทิงหลัง เรอัล มาดริด สะดุดพ่าย มายอร์ก้า เกมล่าสุด


จากฟอร์มการเล่นที่ดูลงตัวมากขึ้นของทีม'เลือดหมู-น้ำเงิน' ขณะที่ เรอัล มาดริด ของ ซีเนดีน ซีดาน ยังออกอาการแกว่งอย่างเห็นได้ชัดและยังมีปัญหานักเตะบาดเจ็บหลายราย มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทีมชุดขาวจะโยนหินถามทางเกี่ยวกับการเลื่อนแมตช์'เอล กลาซิโก้'ในวันเสาร์ที่ 26 ตุลาคมนี้ 

คณะกรรมการจัดการแข่งขันของฟุตบอลลีกาพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการโยกแมตช์'เอล กลาซิโก้'ยกแรกของซีซั่นจาก'คัมป์ นู'มาเตะกันที่'ซานติอาโก้ เบร์นาเบว'ตามกำหนดเดิมสลับกับเกมในวันที่ 1 มีนาคมศกหน้าที่จะย้ายไปเล่นที่'คัมป์ นู'เนื่องจากความวุ่นวายในเมืองหลวงของแคว้นกาตาลุนย่าที่มีผู้ประท้วงเกี่ยวกับการเมืองซึ่งเป็นควันหลงมาจากการเรียกร้องขอแยกตัวเป็นอิสระเมื่อปี 2017 โดยอ้างความปลอดภัยเป็นหลัก


ก่อนที่ เรอัล มาดริด ไม่ตอบรับแนวทางดังกล่าวก่อนจะโยนหินถามทางด้วยการเสนอให้เลื่อนแมตช์ดังกล่าวไปแข่งขันกันในวันอื่น ซึ่งคณะกรรมการฯรับลูกทันทีโดยเลือกวันที่ 18 ธันวาคมเป็นวันแข่งใหม่ แม้ว่าสถานการณ์ในนครบาร์เซโลน่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้วก็ตาม 

ถามว่าถ้าเลื่อนแมตช์'เอล กลาซิโก้'ไปเตะกันในช่วงเดือนธันวาคม ฝ่ายใดจะได้ประโยชน์? ตอบไม่ยากเลยว่า เรอัล มาดริด เนื่องจากฟอร์ม ณ ปัจจุบันและสภาพความพร้อมชั่วโมงนี้ ถ้าทีมชุดขาวลงเล่นกับบาร์ซ่าที่'คัมป์ นู'คงไม่รอดพ้นการพ่ายแพ้และมันจะบั่นทอนความมั่นใจของทีมซีดานไปอีกไม่น้อย

ดังนั้นการยืดเวลาเตะออกไปอีกราว 2 เดือนจึงเป็นผลดีต่อทัพ'โลส บลังโกส'จึงขึ้นอยู่กับเทรนเนอร์ชาวฝรั่งเศสและลูกทีมว่าจะกลับมาตั้งลำได้ดีและพร้อมสำหรับเกมเยือน'คัมป์ นู'มากกว่าปัจจุบันหรือไม่เท่านั้น 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด