:::     :::

อยู่ระหว่างปรับปรุงชั่วคราว

วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน 2562 คอลัมน์ ฉันดูบอลที่ร้านเหล้า โดย ดากานดา
4,743
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
สกอร์ 7-0 ที่ถล่ม บรูไน อาจมาพร้อม 3 แต้มแรกในซีเกมส์ และเรียกรอยยิ้มเปื้อนหน้าแฟนบอลได้

หากแต่รายละเอียดเกมโดยรวมแล้ว ทัพช้างศึก ยังคงมี “หลายจุด” ที่ต้องปรับปรุงแก้ไข

เข้าใจว่า อากิระ นิชิโนะ เพิ่งมาสัมผัสใกล้ชิดกับทีมชุดนี้เพียงไม่กี่วัน และต้อง “แบกความคาดหวัง” จากผู้ใหญ่ แฟนบอลทั่วสารพัดทิศ เพื่อนำเหรียญทองกลับบ้าน

แต่มันไม่ใช่งานที่ง่าย…

การพ่าย อินโดนีเซีย ในเกมเปิดหัว ยิ่งเพิ่ม “แรงกดดัน” ให้นักเตะทีมชาติไทยมากขึ้น เพราะจากนี้ต้องไม่มีคำว่า “พลาด” อีกแล้ว

กอปรกับสิ่งที่กุนซือซามูไรพบคือ ผู้เล่นไม่สมบูรณ์ถึง 8 จาก 20 คน ในขณะที่โปรแกรมรอบแรกแข่งกันแบบ “วันเว้นวัน” เกือบทุกแมตช์

ปลายทางที่ว่าเดินไปถึงยาก ยังต้องมาเจออุปสรรคระหว่างทางเพิ่มอีก

อย่างไรก็ตาม แม้จะปลดล็อกชัยชนะมาได้ แต่อย่างเกริ่นข้างต้นไป งานหนักของช้างศึกยังมีอีกเยอะ ที่ต้องแก้ไข

 

ผิดพลาดจังหวะออกบอลง่าย ๆ

ผู้เขียนได้นั่งดูแมตช์นี้อย่างละเอียดทั้ง 90 นาที สิ่งที่น่าตกใจช่วงที่สกอร์ทีมชาติไทยยังไม่ขึ้นนำคือ เราออกบอลง่าย ๆ ผิดพลาดถึง 10 ครั้ง

ศฤงคาร พรมสุภะ (3 ครั้ง), วิศรุต อิ่มอุระ (2 ครั้ง), สิทธิโชค ภาโส (2 ครั้ง), อานนท์ อมรเลิศศักดิ์, จตุรพัช สัทธรรม และ ชาติชาย แสงดาว (คนละ 1 ครั้ง)

10 ครั้งที่พลาด ทั้งหมดเกิดขึ้นในครึ่งเวลาแรก และเป็นการผ่านบอลเท้าสู่เท้าปกติหน้าปากประตู หรือตอนขึ้นเกม ไม่ใช่จังหวะคิลเลอร์พาส หรือสร้างสรรค์ประตู คำถามคือหากพลาดเช่นนี้ กับทีมที่ไม่ใช่เกรดอย่าง บรูไน พวกเขามีสิทธิโดนลงโทษได้เลย    

แต่ในร้ายยังมีดี เพราะครึ่งหลังแทบไม่มีใครทำเสียกันง่าย ๆ เลยสักครั้ง นั่นอาจเพราะ “ความมั่นใจ” ที่ปลดล็อกสกอร์ในครึ่งแรกได้แล้ว 2 ตุง ทำให้นักเตะค่อนข้างผ่อนคลายลงเยอะ และเล่นไหลลื่นมากขึ้น



 

โอกาสที่ยังใช้เปลือง

เกมนี้ทีมชาติไทยมีโอกาสทำประตู บรูไน มากถึง 27 ครั้ง แม้เทียบเคียงกับสกอร์ที่ทำได้ 7 ตุง อาจดูไม่ได้แย่นัก ทว่าหลายจังหวะนั้น มันสมควรเป็นประตูมากกว่า “พลาด”

โดยเฉพาะในรายของ ศุภชัย ใจเด็ด ที่น่าจะมีมากกว่า 1 ประตูในเกมนี้

นอกจากนี้จังหวะเข้าทำส่วนใหญ่ของเรามาจากลูกตั้งเตะ บอลยาวฉาบฉวย เป็นหลัก มีเพียงแค่ 3 ประตูเท่านั้น ที่มาจากการเซ็ตบอลกันเข้าทำ อย่างที่ นิชิโนะ ต้องการให้เป็น ตรงนี้จึงเป็นอีกหนึ่งการบ้านที่ เฮดโค้ชซามูไรต้องค่อย ๆ ปรับจูนกันแนวรุกให้เฉียบขาด และหลากหลายกว่าเดิม

 

คู่มิดฟิลด์ค่อย ๆ ดีขึ้น

รูปแบบการเล่นของ นิชิโนะ บีบให้ คู่มิดฟิลด์ตัวกลางต้องเป็นทั้ง ผึ้งงาน บู๊บุ๋น รุกรับ ตัดเกม เหมือนรสดี ที่ ต้ม ผัด แกง ทอด ได้ในซองเดียว อย่างที่เขาใช้ สารัช อยู่เย็น กับ พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล ในทีมชาติชุดใหญ่

ทว่าเกมที่แพ้ อินโดนีเซีย คู่มิดฟิลด์ของไทยอย่าง กฤษดา กาแมน และ ฉัตรมงคล ทองคีรี ถูกบีบให้ทำได้เพียง จ่ายบอลไปมา แปะบอลสั้นเท่านั้น และแทบไม่ได้ช่วยตัดเกม ชะลอเกมบุกคู่แข่งเลย จนภาระไปหนักที่กองหลัง

ซึ่งต่างออกไปจากนัดนี้ที่ใช้ วิศรุต อิ่มอุระ กับ รัตนากร ใหม่คามิ

แม้คู่ต่อสู้ที่เจอจะเทียบเคียงกันไม่ได้ แต่ทั้งสองกลับทำให้แดนกลางลงตัวกว่าเดิม มีจังหวะลงต่ำมาช่วยแผงหลังรับบอลเพื่อให้เซ็ตเกมง่าย  มีจังหวะ Switching เปลี่ยนบอลจากรับไปรุก บอลสั้น-บอลยาว สลับกัน แม้ความแม่นยำจะยังมีขาด ๆ เกิน ๆ บ้าง แต่ถือว่าหากจูนกันอีกนิด น่าจะเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีได้

อย่างที่บอกไป “ช้างศึก” เชือกนี้อยู่ในระหว่างปรับปรุงชั่วคราว หลายอย่างที่แฟนบอลบ่นกันในเกมแรก เริ่มถูกแก้ไขไปทีละนิด ๆ ผ่านเกมถล่มบรูไน

อดทน และให้เวลา นิชิโนะ กันนิดนะแฟนบอล


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด