สำหรับ "เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาโนลด์" ที่ลืมตาดูโลก และเติบโตที่เมืองแห่งนี้ ก่อนจะก้าวมาติดทีมอะคาเดมี่ พร้อมกับก้าวสู่ทีมชุดใหญ่เป็นผลสำเร็จ โดยในช่วงปี 2019 ที่ผ่านมา เขาถือเป็นแบ็คขวาตัวหลัก สำหรับชุดคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ รวมถึงสโมสรโลก

ทั้งหมดที่กล่าวมา คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับเด็กหนุ่มอายุเพียงแค่ 21 ปี ซึ่งเป็นเด็กหนุ่มที่มีความฝันไว้ว่า อยากก้าวมาเป็นกัปตันทีมลิเวอร์พูล และเล่นกับสโมสรนี้เพียงสโมสรเดียว จนกระทั่งตัวเองแขวนสตั๊ด แม้ว่าจะมีชื่อเสียง และเงินทอง ไหลเข้ามา ตั้งแต่อายุน้อย แต่หนึ่งสิ่งที่แฟนบอล ​"หงส์แดง" มั่นใจได้เลย นั่นคือเขาจะเป็นคนที่ไม่ลืมตัวอย่างแน่นอน 

บทบาทในสนาม เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาโนลด์ คือนักเตะในตำแหน่งแบ็คขวา ทำหน้าที่ช่วยเกมรับให้กับสโมสรที่เขารัก ขณะที่ในเกมรุก ยังเติมเกมขึ้นไปช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีมหลายต่อหลายครั้ง จนกลายเป็นนักเตะที่สามารถแอสซิสต์ได้มากที่สุดในพรีเมียร์ลีก ประจำปฏิทินปี 2019 ที่เพิ่งผ่านพ้นไป 

ส่วนบทบาทนอกสนาม เขาคือเด็กหนุ่มคนธรรมดา ที่มุ่งเน้นไปที่การปฏิบัติ และอุทิศตัวให้กับการช่วยเหลือชุมชน แน่นอนว่า ชุมชนที่เขาเรียกมันว่าบ้านอย่างลิเวอร์พูล คือสถานที่ที่เขาช่วยเป็นกระบอกเสียง ในการยกระดับสังคมให้ดีขึ้นมา โดยทั้งหมด ผ่านการเรียนรู้จากคุณแม่ ที่อยากเป็นลูกชายคนนี้ ไม่หลงลืมกำพืด และจดจำสถานที่ที่เติบโตมา 

เทรนต์ ถือเป็นหัวหอกสำคัญของโครงการที่เรียกว่า "Food Bank" หรีอว่า "ธนาคารอาหาร" เป็นโครงการที่จะรวบรวมอาหาร และของใช้ที่จำเป็น เพื่อนำไปมอบกับผู้ที่ต้องการ หรือขาดแคลน ซึ่งเมืองลิเวอร์พูล ก็ประสบปัญหานั้นเช่นเดียวกัน จากสถิติพบว่า มีผู้อดอยากเต็มไปหมด และต้องการความช่วยเหลือเป็นอย่างมาก

หลายคนคงเข้าใจผิดว่า เทรนต์ คงเป็นเหมือนคนมีชื่อเสียงส่วนใหญ่ ที่เอาชื่อไปเป็นส่วนหนึ่งของการประชาสัมพัธ์โครงการ เพื่อให้เป็นที่รู้จักเพียงเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เขาเป็นคนที่ลงไปคลุกคลี และปฏิบัติกับโครงการอย่าง "Food Bank" ด้วยตัวเอง และแบบจริงจังด้วย

โดยเทรนต์ ถือเป็นคนที่ชอบเดินทางไปโครงการ "Food Bank" เป็นอย่างมาก เพื่อจัดเตรียมอาหาร และช่วยแบกมันขึ้นรถไปแจกจ่ายด้วยตัวเอง แถมติดต่อสื่อสารกับเจ้าหน้าที่โครงการด้วยความเอาจริงเอาจัง พร้อมกันนี้ เขายังกลายเป็นตัวเชื่อมระหว่างโครงการกับสโมสร เพื่อให้ได้รับอาหารมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ 

เทรนต์ มอบความคิดเห็นเอาไว้ว่า ลิเวอร์พูล คือสถานที่ที่เขาเติบโตมา และมีความทรงจำมากทายที่นี่ ดังนั้น ตัวเมืองจึงสำคัญสำหรับเขาเป็นอย่างมาก เขายอมรับว่า มันเป็นเรื่องที่น่าผิดหวัง ที่รู้ว่ายังมีปัญหาความอดอยากอยู่ มันหมายถึงบางสิ่งที่ไม่ถูกต้องในประเทศที่เขากำลังอาศัยอยู่ ทั้งตัวเขา และโครงการ "Food Bank" ต่างทำงานกันอย่างหนัก เพื่อให้แน่ใจว่าบุคคลอื่นที่ด้อยโอกาส จะได้รับประทานอาหารร้อนๆ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่แสนเยือกเย็น

หากใครที่ผ่านไปยังเมืองลิเวอร์พูล จะพบกับจิตรกรรมฝาผนัง ที่วาดเป็นรูป "เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาโนลด์" ขนาดยักษ์อยู่บนกำแพง พร้อมกับเสื้อหมายเลขอันเป็นสัญลักษณ์อย่าง "66" นอกจากจะเป็นสถานที่สร้างแรงบันดาลใจให้เด็กรุ่นหลัง และจุดถ่ายรูปยอดนิยมแล้ว ตรงนั้นยังเป็น จุดรับอาหาร และของใช้ของโครงการ "Food Bank" ที่พร้อมรับจากแฟนบอลลิเวอร์พูล รวมถึงเพื่อนบ้านผู้น่ารักอย่างเอฟเวอร์ตัน ด้วย

นอกจากโครงการ "Food Bank" เมืองลิเวอร์พูล ยังมีโครงการหนึ่งที่มีชื่อว่า "AHFO" หรือตัวย่อที่แปลเป็นภาษาไทยว่า "1 ชั่วโมง สำหรับการทำเพื่อผู้อื่น" โครงการมีหน้าที่ออกไปค้นหาอาสาสมัคร ที่พร้อมสละเวลา ความสามารถ และทรัพยากรต่างๆ เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสที่อาศัยอยู่ทั่วเมือง ซึ่งเทรนต์ ก็ตัดสินใจเป็นกระบอกเสียงหลัก ผ่านการเป็นทูตของกิจกรรมเช่นเดียวกันด้วย

เควิน มอร์แลนด์ หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งโครงการ กล่าวว่า ทันทีที่โครงการขอให้เทรนต์ มาเป็นทูต เทรนต์ ตอบตกลงแบบไม่ลังเลมันเป็นบางอย่างที่คุณแม่ของเทรนต์ อยากให้ลูกชายคนนี้ลงมือทำด้วย เพราะไม่อยากให้เขาหลงลืมรากเหง้าของชีวิตตัวเอง สำหรับคนในโครงการทุกคน เทรนต์ ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลย เขาก็เหมือนกับเด็กชาวลิเวอร์พูล ทั่วไป

ช่วงเช้าตรู่ ในขณะที่หลายคนกำลังนอนหลับอย่างสบาย เทรนต์ กลับตื่นนอนแต่เช้า เพื่อมาช่วยขนของบริจาคขึ้นรถตู้ของโครงการ เพราะเขารู้ดีว่า มีคนไร้โอกาสอีกมากมายที่เฝ้ารอของเหล่านี้อยู่ หน้าที่ของเขา นอกเหนือจากการช่วยขนของบริจาค ยังมีการมอบของขวัญให้กับผู้ที่ขัดสนในช่วงวันคริสต์มาส รวมไปถึงกิจกรรมเยี่ยมโรงเรียน และมอบสิ่งของที่จำเป็นต่างๆ

นี่คือเรื่องราวบางส่วนที่น่าสนใจของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาโนลด์ จึงไม่น่า